นายกสมาคมตัวแทนประกันฯ โวยแบงก์-ค้าปลีก เอาเปรียบ ขายประกันแจกของขวัญ-แถมประกันพีเอ หารือ คปภ.จัดการ ระบุเข้าข่ายลดค่านายหน้าทางอ้อม
นายบรรยง วิทยวีรศักดิ์ นายกสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน (THAIFA) ได้แถลงกับผู้สื่อข่าว ว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากตัวแทนจำนวนมาก ว่า ตามกฎหมายใหม่ หากตัวแทนขายประกันชีวิตแล้วมีการลดค่านายหน้าให้ลูกค้า ถือว่ามีความผิด แต่การที่ธนาคารและห้างค้าปลีกออกมาประกาศแจกรางวัลในรูปแบบต่างๆ อย่างเอิกเกริกนั้น มันก็ถือเป็นการลดค่านายหน้ารูปแบบหนึ่ง ซึ่งไม่ควรจะทำได้
ทั้งนี้ จากกรณีดังกล่าวได้มีการหารือกับคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ผ่านทาง นางสาววราวรรณ เวชชสัสถ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ คปภ.ซึ่งได้รับการยืนยันว่า การส่งเสริมการขายเช่นนั้น ทำไม่ได้ และกำลังให้ฝ่ายกฎหมายของ คปภ.เรียกธนาคารและห้างค้าปลีกมาตักเตือน พร้อมให้ยกเลิกระบบการส่งเสริมการขายเหล่านั้น
นายบรรยง กล่าวอีกว่า กรมธรรม์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้ถือกรมธรรม์ต้องมีภาระผูกพันระยะยาว การจะขายผลิตภัณฑ์นี้ให้ลูกค้า ลูกค้าต้องซื้อด้วยความรู้ความเข้าใจ หากใช้วิธีจูงใจด้วยการลดแลกแจกแถม โดยไม่เห็นความสำคัญของการคุ้มครอง หรือการออมระยะยาว หากวันหนึ่งลูกค้าเกิดเบื่อหน่าย เขาจะตัดสินใจยกเลิกกรมธรรม์ได้โดยง่าย และถ้าเป็นเช่นนั้น ผู้ที่เสียผลประโยชน์มากที่สุด ก็คือ ลูกค้า เจ้าของกรมธรรม์
“ทุกวันนี้ ตัวแทนบางคนอาจมีการลักลอบลดค่านายหน้าบ้าง แต่ก็เป็นการแอบทำกัน ด้วยเห็นว่าเป็นความผิด แต่นี่ธนาคารออกมาทำอย่างโจ่งครึ่ม แถมยังมีการโฆษณาใหญ่โตในหน้าหนังสือพิมพ์ทุกวัน ผมคิดว่ามันไม่ถูกต้อง ถ้ากฎหมายไม่อนุญาตให้ทำ เราก็ควรใช้เกณฑ์เดียวกัน ไม่ว่าตัวแทน นายหน้า หรือธนาคาร” นายบรรยง กล่าว
นอกจากนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันนี้ ทางธนาคารพาณิชย์ต่างมีความกระตือรือร้นในการเข้ามาเป็นนายหน้าประกันชีวิต เพื่อเพิ่มรายได้ในส่วนค่าธรรมเนียมให้กับตนเอง ล่าสุด ยอดขายผ่านช่องทางธนาคารได้แซงหน้าช่องทางตัวแทนแล้ว โดย 6 เดือนแรกของปีนี้ สัดส่วนของเบี้ยประกันใหม่ (New Business Premium) ที่ขายผ่านช่องทางธนาคารมีถึง 18,664 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 47% ขณะที่ช่องทางตัวแทนมีเพียง 17,184 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 43% แต่ถ้าตัดยอดเบี้ยประกันแบบจ่ายเพียงงวดเดียว (Single Premium) ออกไป ช่องทางตัวแทนยังนำช่องทางธนาคารอยู่ในสัดส่วน 13,779 ล้านบาท ต่อ 10,844 ล้านบาท หรือ 50% ต่อ 40% ตามลำดับ
“ยอดขายผ่านแบงก์ที่สูงขนาดนี้ และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะจูงใจให้ทุกฝ่าย พยายามหากลยุทธ์มาช่วงชิงเบี้ยประกันให้ตกกับองค์กรของตนให้มากที่สุด”
นายบรรยง วิทยวีรศักดิ์ นายกสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน (THAIFA) ได้แถลงกับผู้สื่อข่าว ว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากตัวแทนจำนวนมาก ว่า ตามกฎหมายใหม่ หากตัวแทนขายประกันชีวิตแล้วมีการลดค่านายหน้าให้ลูกค้า ถือว่ามีความผิด แต่การที่ธนาคารและห้างค้าปลีกออกมาประกาศแจกรางวัลในรูปแบบต่างๆ อย่างเอิกเกริกนั้น มันก็ถือเป็นการลดค่านายหน้ารูปแบบหนึ่ง ซึ่งไม่ควรจะทำได้
ทั้งนี้ จากกรณีดังกล่าวได้มีการหารือกับคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ผ่านทาง นางสาววราวรรณ เวชชสัสถ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ คปภ.ซึ่งได้รับการยืนยันว่า การส่งเสริมการขายเช่นนั้น ทำไม่ได้ และกำลังให้ฝ่ายกฎหมายของ คปภ.เรียกธนาคารและห้างค้าปลีกมาตักเตือน พร้อมให้ยกเลิกระบบการส่งเสริมการขายเหล่านั้น
นายบรรยง กล่าวอีกว่า กรมธรรม์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้ถือกรมธรรม์ต้องมีภาระผูกพันระยะยาว การจะขายผลิตภัณฑ์นี้ให้ลูกค้า ลูกค้าต้องซื้อด้วยความรู้ความเข้าใจ หากใช้วิธีจูงใจด้วยการลดแลกแจกแถม โดยไม่เห็นความสำคัญของการคุ้มครอง หรือการออมระยะยาว หากวันหนึ่งลูกค้าเกิดเบื่อหน่าย เขาจะตัดสินใจยกเลิกกรมธรรม์ได้โดยง่าย และถ้าเป็นเช่นนั้น ผู้ที่เสียผลประโยชน์มากที่สุด ก็คือ ลูกค้า เจ้าของกรมธรรม์
“ทุกวันนี้ ตัวแทนบางคนอาจมีการลักลอบลดค่านายหน้าบ้าง แต่ก็เป็นการแอบทำกัน ด้วยเห็นว่าเป็นความผิด แต่นี่ธนาคารออกมาทำอย่างโจ่งครึ่ม แถมยังมีการโฆษณาใหญ่โตในหน้าหนังสือพิมพ์ทุกวัน ผมคิดว่ามันไม่ถูกต้อง ถ้ากฎหมายไม่อนุญาตให้ทำ เราก็ควรใช้เกณฑ์เดียวกัน ไม่ว่าตัวแทน นายหน้า หรือธนาคาร” นายบรรยง กล่าว
นอกจากนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันนี้ ทางธนาคารพาณิชย์ต่างมีความกระตือรือร้นในการเข้ามาเป็นนายหน้าประกันชีวิต เพื่อเพิ่มรายได้ในส่วนค่าธรรมเนียมให้กับตนเอง ล่าสุด ยอดขายผ่านช่องทางธนาคารได้แซงหน้าช่องทางตัวแทนแล้ว โดย 6 เดือนแรกของปีนี้ สัดส่วนของเบี้ยประกันใหม่ (New Business Premium) ที่ขายผ่านช่องทางธนาคารมีถึง 18,664 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 47% ขณะที่ช่องทางตัวแทนมีเพียง 17,184 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 43% แต่ถ้าตัดยอดเบี้ยประกันแบบจ่ายเพียงงวดเดียว (Single Premium) ออกไป ช่องทางตัวแทนยังนำช่องทางธนาคารอยู่ในสัดส่วน 13,779 ล้านบาท ต่อ 10,844 ล้านบาท หรือ 50% ต่อ 40% ตามลำดับ
“ยอดขายผ่านแบงก์ที่สูงขนาดนี้ และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะจูงใจให้ทุกฝ่าย พยายามหากลยุทธ์มาช่วงชิงเบี้ยประกันให้ตกกับองค์กรของตนให้มากที่สุด”
