xs
xsm
sm
md
lg

เคทีซีกระตุ้นสาขาเพิ่มธุรกิจ จับมือพันธมิตรขายประกันปลายปีนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - เคทีซีเร่งขยายสาขาเคทีซี ทัช เพิ่มเป็น 41 สาขาสิ้นปีนี้ ส่วนปีหน้าเพิ่มอีก 4 สาขาเป็น 45 สาขา ขยายช่องทางเพิ่มจำนวนผ่านพนักงาน พร้อมเตรียมแผนขายประกันผ่านทางศูนย์บริการต่างๆ ในเครือ เคทีซี ทัช จากเดิมที่จะใช้วิธีการขายทางเทเลเซล เผยอยู่ระหว่างดูข้อบังคับกฎหมายในการขอไลเซ่นท์ให้ผู้ที่จะเสนอจำหน่าย คาดจะสามารถขายได้ในไตรมาส 4 ปีนี้

นายปิยศักดิ์ เตชะเสน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายช่องทางจัดจำหน่าย บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC เปิดเผยว่า ในการทำธุรกิจที่ผ่านมา บริษัทมีอยู่ 3 ช่องทางในการขยายฐานลูกค้า อย่างแรก คือ เอาท์ซอร์ส (การจัดจ้างบริษัทหรือบุคคลภายนอก) ซึ่งพบว่ามีสัดส่วนมากถึง 60-70% อย่างที่สอง คือ ขายผ่านธนาคาร โดยในขณะนี้มีการขายผ่าน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) และ ธนาคารออมสิน (GSB) ประมาณ 20-25% ส่วนช่องทางสุดท้าย คือ การขายผ่านสาขาของเคทีซีเอง ซึ่งที่ผ่านมายังไม่ถือว่าประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่จะมาชำระเงินเท่านั้น โดยในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะให้สาขาดำเนินธุรกิจให้มากกว่านี้

“เอาท์ซอร์สมีสัดส่วน 60-70% นับว่าเป็นตัวหลักของเราเลยทีเดียว ซึ่งผลตอบแทนที่เราให้กับเขาจะอยู่ที่ 600-1,000 บาทต่อลูกค้า 1 รายที่ได้รับการอนุมัติ โดยถือว่าอยู่ในระดับใกล้เคียงกับระบบที่มีเฉลี่ยอยู่ประมาณนี้ ประกอบกับข้อเสนออย่างอื่นที่เรามอบให้เขาก็ไม่ได้ดูด้อยไปกว่ารายอื่นเลย จึงเชื่อว่าทางช่องทางนี้ยังจะสามารถขยายฐานลูกค้าให้เติบโตมากขึ้นได้อยู่” นายปิยศักดิ์ กล่าว

นอกจากนี้ เคทีซีได้เปิดศูนย์บริการลูกค้าแห่งใหม่ “เคทีซี ทัช ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ” ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งได้ออกแบบศูนย์บริการแห่งนี้ให้มีความสวยงามทันสมัยและสามารถอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมทางการเงินให้กับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีที่เป็นข้าราชการและประชาชนผู้มาติดต่อกับหน่วยงานราชการภายในศูนย์ โดยเบื้องต้นบริษัทประมาณไว้ที่ 1.5 หมื่นคนต่อวัน

อย่างไรก็ตาม เคทีซียังมีแผนขยายศูนย์บริการที่ครบวงจรนี้ไปยังพื้นที่อื่นๆอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการของสมาชิกเคทีซีทั่วประเทศ โดยปัจจุบันเคทีซีมีศูนย์บริการลูกค้าเคทีซี ทัช รวมทั้งสิ้น 38 แห่ง แบ่งเป็นกรุงเทพฯและปริมณฑลจำนวน 34 สาขา และ ภูมิภาค 4 สาขา อีกทั้ง มีแผนที่จะขยายศูนย์บริการ เคทีซี ทัช ในสิ้นปีนี้เพิ่มอีก 2-3 สาขารวมเป็น 41 สาขา โดยแผนในปี 2553 คาดว่าจะขยายเพิ่มอีก 4 สาขาเป็น 45 สาขาตามห้างสรรพสินค้าต่างๆในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งเคทีซีต้องการหาลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นและรักษากลุ่มฐานลูกค้าเดิม

“เรามีแผนเปิดสาขาเพิ่มอีก แต่ต้องดูเรื่องพื้นที่ด้วย เรื่องงบเรามีพอสมควร ซึ่งต้องอยู่ในกรอบที่ว่า 8,000-10,000 บาท/ตารางเมตร และสาขาต่างๆเราออกแบบให้แยกชิ้นส่วนไปใช้ที่อื่นได้หมด โดยทำให้เราลงงบต่างๆไปกับทางเทคนิคมากกว่า ซึ่งในปีหน้าจะเปิดเพิ่มอีก 3-5 สาขา โดยเฉพาะในห้างใหม่โซนบางนา เกษตรนวมินทร์”นายปิยศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ เคทีซีได้เตรียมแผนที่จะจัดจำหน่ายขายประกันผ่านทางศูนย์บริการต่างๆ ในเครือ เคทีซี ทัช จากเดิมที่จะใช้วิธีการขายประกันผ่านทางเทเลเซลล์มาระยะ 1-2 ปี ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการดูข้อบังคับกฎหมายในการขอไลเซ่นท์ให้ผู้ที่จะเสนอจำหน่าย โดยคาดว่าจะสามารถขายประกันผ่านศูนย์บริการได้ในไตรมาส 4 ปีนี้ที่ศูนย์บริการสาขาเฉลิมพระเกียรติและที่สาขาอื่นๆอีกประมาณ 3-4 สาขาก่อน

“ตอนนี้ดูข้อบังคับกฎหมายหลายๆอย่างอยู่ จะขายประกันยังไงที่ไม่ให้กวนลูกค้า ซึ่งตั้งเป้าที่จะขายผ่านสาขาได้ในไตรมาส 4 แต่เฉพาะที่ศูนย์เฉลิมพระเกียรติและอีก 3-4 ที่ก่อน โดยตอนนี้เราดีลกับบริษัทกรุงไทยพาณิชย์ประกันภัย บริษัททิพยประกันภัย และบริษัทเอไอเอ ซึ่งต้องให้พวกเขาออกโปรโมชั่นออกมา เราถึงจะนำเสนอต่อไป โดยในอนาคตจะมีการดีลกับที่อื่นอีกหรือไม่นั้น ก็ต้องประเมินให้เราได้ผลประโยชน์ทั้งคู่ ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ตอนนี้เป็นแบบนอนไลฟ์เป็นหลัก โดยฐานลูกค้าเคทีซีที่ทำประกันภัยมีอยู่พอสมควร แต่ก็มองว่ายังมีช่องทางเติบโตได้อีก”นายปิยศักดิ์ กล่าว

สำหรับแนวโน้มการแข่งขันของช่องทางการจำหน่ายในธุรกิจสิ้นปีนี้และปีหน้านั้น นายปิยศักดิ์ กล่าวว่าบริษัทมีความพร้อมที่จะเข้าไปรุกตลาดการแข่งขันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในแง่ของภาวะตลาดในปัจจุบันทุกแห่งพยายามที่จะรักษาฐานลูกค้าเดิม โดยเคทีซีเน้นดูแลลูกค้าเดิมเป็นหลักจึงไม่ได้มองว่าจะต้องได้จำนวนบัตรเพิ่มขึ้นกี่บัตร

“บริษัทเน้นที่จะหาลูกค้าที่มีคุณภาพมากกว่าปริมาณจำนวนบัตร ซึ่งในปีที่ผ่านมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวการแข่งขันหาลูกค้าจึงค่อนข้างเงียบเหงา แต่ในการทำธุรกิจยังเชื่อว่าในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้การแข่งขันจะกลับขึ้นมาดีขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณที่ดีขึ้นแล้ว” นายปิยศักดิ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น