“ ไนท์แฟรงค์ ” เชื่อตลาดอสังหาฯเริ่มฟื้น หลังยอดขาย 2-3 เดือนที่ผ่านมาส่งสัญญาณดีต่อเนื่อง เผยคอนโดฯเปิดใหม่ปี 52 ย่านซีบีดี-สุขุมวิท 3,603 ยูนิต ขายไปแล้ว 62% หรือ 2,245 ยูนิต เชื่อแนวโน้มปีหน้าอสังหาฯขาขึ้นฟื้นตามเศรษฐกิจ ชี้โอกาสเหมาะทุ่มงบอัดแคมเปญกระตุ้นยอดขาย ส่วนครึ่งปีแรก 53 ตลาดโต ห่วงการเมืองยังเป็นปัจจัยเสี่ยง
นายแฟรงค์ ข่าน ผู้อำนวยการฝ่ายโครงการที่อยู่อาศัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีนี้ตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯอ่อนตัวลง เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ผู้ซื้อชะลอการซื้อ และผู้ประกอบการชะลอการเปิดตัวและลงทุนในโครงการใหม่ๆ อย่างไรก็ตามในช่วงเดือนที่ผ่านมาตลาดคอนโดฯในกรุงเทพฯเริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเปิดตัวโครงการใหม่ในย่านใจกลางธุรกิจ(ซีบีดี)และถนนสุขุมวิท ได้ผลตอบรับที่ดีประมาณ 50-70% แสดงให้เห็นว่าความมั่นใจของผู้ซื้อและผู้ประกอบการกลับมาอีกครั้ง
ทั้งนี้ ตลาดคอนโดฯในเขตกรุงเทพฯ บริษัทเชื่อว่าจะมีการปรับตัวไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ โครงการที่เปิดตัวใหม่ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งส่วนใหญ่ยังอยู่ในย่านสุขุมวิทและเขตซีบีดี และถูกพัฒนาให้เป็นคอนโดฯแนวสูง มีขนาดห้อง 3 ประเภท คือ ขนาด 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอนและ 3 ห้องนอน ขนาดประมาณ 45 ตร.ม., 80 ตร.ม. และ 180 ตร.ม. ตามลำดับ นอกจากนี้ยังการจัดโปรโมชัน ให้ส่วนลดสำหรับผู้ซื้อในช่วงโปรโมชันพิเศษ เพื่อกระตุ้นยอดขายอีกด้วย
สำหรับสินค้าที่เกิดใหม่ในปีนี้มีทั้งสิ้น 3,603 ยูนิต โดยมีการซื้อไปแล้ว 2,245 ยูนิต คิดเป็น 62% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการระดับสูง และระดับกลางค่อนข้างสูงในเขตซีบีดี ระดับราคาประมาณ 145,000 บาท/ตร.ม.และสุขุมวิท ระดับราคา 110,000 บาท/ตร.ม.
“ หากจะให้สรุปว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับตลาดอสังหาฯในปัจจุบันนั้น เป็นสิ่งที่ท้าทายที่จะตอบ เพราะปัจจุบันมีปัจจัยแวดล้อมเข้ามาเกี่ยวข้องค่อนข้างมาก แต่ที่สามารถบอกได้ในขณะนี้คือ เมื่อเข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2552 ถือเป็นช่วงเวลาที่น่าจับตามองอย่างมาก เพราะภาพรวมของตลาดในไตรมาสนี้มีผลต่อแนวโน้มการตัดสินใจของผู้บริโภคในปีหน้า ” นายแฟรงค์ กล่าว
นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าหลายโครงการที่เปิดตัวในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ และช่วงครึ่งปีแรก 2553 ผู้ซื้อและผู้ประกอบการจะมีความเชื่อมั่นกลับคืนมา และคาดว่าตลาดจะกลับมาดีอีกครั้ง แต่จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ ถ้าประเด็นดังกล่าวได้รับการแก้ไข ตลาดจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงสองไตรมาสแรกของปี 2553
ด้านนายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ฯ กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมายอดขายดีขึ้น ตลาดคอนโดมิเนียม รีสอร์ทตามเมืองท่องเที่ยวมีการปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน ส่วนปี2553เชื่อว่าทิศทางตลาดอสังหาฯจะปรับเป็นไปในทิศทางเดียวกับภาวะเศรษฐกิจคือ อยู่ในช่วงขาขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อภาวะตลาดเริ่มฟื้นตัวจึงถือเป็นโอกาสที่ดี ที่ผู้ประกอบการจะลงทุนจัดแคมเปญเพื่อกระตุ้นยอดขาย โดยล่าสุดบริษัทได้เปิดงาน Taste of Living ระหว่างวันที่ 15-25 ต.ค. ณ ชั้น M Hall of Fame ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยนำ 9 โครงการทั้งในกรุงเทพฯและเมืองท่องเที่ยว เช่น หัวหิน ระยอง พัทยา พร้อมให้โปรโมชั่นส่วนลดพิเศษ 5 ยูนิต/โครงการ โดยคาดว่าจะมียอดขายจากงานนี้ไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังเปิดให้ลูกค้าลงทะเบียนจองซื้อโครงการ Movenpick Hotel and Residence พญาไท ในราคาพิเศษ โดยโครงการดังกล่าวจะเปิดตัวในเดือนมกราคมปี 53
นายแฟรงค์ ข่าน ผู้อำนวยการฝ่ายโครงการที่อยู่อาศัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีนี้ตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯอ่อนตัวลง เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ผู้ซื้อชะลอการซื้อ และผู้ประกอบการชะลอการเปิดตัวและลงทุนในโครงการใหม่ๆ อย่างไรก็ตามในช่วงเดือนที่ผ่านมาตลาดคอนโดฯในกรุงเทพฯเริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเปิดตัวโครงการใหม่ในย่านใจกลางธุรกิจ(ซีบีดี)และถนนสุขุมวิท ได้ผลตอบรับที่ดีประมาณ 50-70% แสดงให้เห็นว่าความมั่นใจของผู้ซื้อและผู้ประกอบการกลับมาอีกครั้ง
ทั้งนี้ ตลาดคอนโดฯในเขตกรุงเทพฯ บริษัทเชื่อว่าจะมีการปรับตัวไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ โครงการที่เปิดตัวใหม่ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งส่วนใหญ่ยังอยู่ในย่านสุขุมวิทและเขตซีบีดี และถูกพัฒนาให้เป็นคอนโดฯแนวสูง มีขนาดห้อง 3 ประเภท คือ ขนาด 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอนและ 3 ห้องนอน ขนาดประมาณ 45 ตร.ม., 80 ตร.ม. และ 180 ตร.ม. ตามลำดับ นอกจากนี้ยังการจัดโปรโมชัน ให้ส่วนลดสำหรับผู้ซื้อในช่วงโปรโมชันพิเศษ เพื่อกระตุ้นยอดขายอีกด้วย
สำหรับสินค้าที่เกิดใหม่ในปีนี้มีทั้งสิ้น 3,603 ยูนิต โดยมีการซื้อไปแล้ว 2,245 ยูนิต คิดเป็น 62% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการระดับสูง และระดับกลางค่อนข้างสูงในเขตซีบีดี ระดับราคาประมาณ 145,000 บาท/ตร.ม.และสุขุมวิท ระดับราคา 110,000 บาท/ตร.ม.
“ หากจะให้สรุปว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับตลาดอสังหาฯในปัจจุบันนั้น เป็นสิ่งที่ท้าทายที่จะตอบ เพราะปัจจุบันมีปัจจัยแวดล้อมเข้ามาเกี่ยวข้องค่อนข้างมาก แต่ที่สามารถบอกได้ในขณะนี้คือ เมื่อเข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2552 ถือเป็นช่วงเวลาที่น่าจับตามองอย่างมาก เพราะภาพรวมของตลาดในไตรมาสนี้มีผลต่อแนวโน้มการตัดสินใจของผู้บริโภคในปีหน้า ” นายแฟรงค์ กล่าว
นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าหลายโครงการที่เปิดตัวในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ และช่วงครึ่งปีแรก 2553 ผู้ซื้อและผู้ประกอบการจะมีความเชื่อมั่นกลับคืนมา และคาดว่าตลาดจะกลับมาดีอีกครั้ง แต่จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ ถ้าประเด็นดังกล่าวได้รับการแก้ไข ตลาดจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงสองไตรมาสแรกของปี 2553
ด้านนายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ฯ กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมายอดขายดีขึ้น ตลาดคอนโดมิเนียม รีสอร์ทตามเมืองท่องเที่ยวมีการปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน ส่วนปี2553เชื่อว่าทิศทางตลาดอสังหาฯจะปรับเป็นไปในทิศทางเดียวกับภาวะเศรษฐกิจคือ อยู่ในช่วงขาขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อภาวะตลาดเริ่มฟื้นตัวจึงถือเป็นโอกาสที่ดี ที่ผู้ประกอบการจะลงทุนจัดแคมเปญเพื่อกระตุ้นยอดขาย โดยล่าสุดบริษัทได้เปิดงาน Taste of Living ระหว่างวันที่ 15-25 ต.ค. ณ ชั้น M Hall of Fame ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยนำ 9 โครงการทั้งในกรุงเทพฯและเมืองท่องเที่ยว เช่น หัวหิน ระยอง พัทยา พร้อมให้โปรโมชั่นส่วนลดพิเศษ 5 ยูนิต/โครงการ โดยคาดว่าจะมียอดขายจากงานนี้ไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังเปิดให้ลูกค้าลงทะเบียนจองซื้อโครงการ Movenpick Hotel and Residence พญาไท ในราคาพิเศษ โดยโครงการดังกล่าวจะเปิดตัวในเดือนมกราคมปี 53