ผู้จัดการ ตลท.คาดตลาดหุ้นภาคบ่ายร่วงแรง เกิดจากการปรับฐาน ซึ่งไม่มีปัจจัยลบเป็นพิเศษที่เข้ามากระทบ แต่ก็ยอมรับ มีนักลงทุนบางส่วน กังวลเรื่องการลงทุนในนิคมฯ มาบตาพุด จับตา 16 ต.ค. ปรับโครงสร้างตลาดหุ้น
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงกรณีที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงค่อนข้างแรง ในช่วงบ่ายวันนี้ คาดว่าเป็นการปรับฐานการลงทุน หลังจากดัชนีปรับตัวขึ้นมาเร็วมาก ซึ่งไม่มีเหตุการณ์และปัจจัยลบที่เป็นพิเศษเข้ามากระทบแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการ ตลท.ยอมรับว่า นักลงทุนบางส่วนกังวลเรื่องการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดที่ชะลอโครงการขนาดใหญ่ ดังนั้น ขอให้นักลงทุนศึกษาข้อมูลและติดตามผลประกอบการไตรมาส 3 ที่กำลังจะประกาศเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ ดัชนีภาคบ่านร่วงลงลึกกว่า 4% ก่อนจะกระเตื้องขึ้นมาเล็กน้อย และปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 731.47 จุด ลดลง 15.20 จุด หรือลดลง 2.04% มูลค่าการซื้อขาย 47,570.50 ล้านบาท
ส่วนภาพรวมการซื้อขายเดือนกันยายน 2552 ที่ผ่านมา ดัชนีปรับขึ้นถึงร้อยละ 59.4 จากต้นปี 2552 ทำให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเพิ่มขึ้นจาก 3.59 ล้านล้านบาท เป็น 5.8 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 60.4 สูงสุดในรอบ 15 เดือน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายสูงถึง 26,000 ล้านบาทต่อวัน สูงสุดในรอบ 26 เดือนนับจากเดือนกรกฎาคม 2550 โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิรวม 55,000 ล้านบาท นับตั้งแต่ต้นปี 2552 เทียบกับปี 2551 ที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิรวม 162,357 ล้านบาท ส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ อยู่ที่ 13.2 เท่า
นางภัทรียา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 16 ตุลาคม 2552 ตนเองจะนำเรื่องการปรับโครงสร้าง ตลท. หารือกับคณะกรรมการตลาดทุน หลังจากนั้นจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในอีก 2 สัปดาห์ ซึ่งการปรับโครงสร้าง ตลท. เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และเพิ่มประสิทธิภาพตลาดทุนไทย