ปชป.มั่นใจ "ไตรรงค์" นั่งรองนายกฯ สร้างความเชื่อมั่น ศก.ได้ เพราะมีความเข้าใจ ศก.ทั้งไมโคร-แมคโคร พร้อมวอนทุกฝ่าย ต้องหันหน้าเข้าหากัน-จับมือร่วมแก้ ศก. เอกชนชี้ ประเด็นเปลี่ยนรองนายกฯ ไม่กระทบนโยบาย ศก. เพราะพรรค ปชป.คัดสรรมาแล้ว แม้จะเป็นตำแหน่งประสานงานทางด้านการเมือง
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการโจมตีการปรับคณะรัฐมนตรี ที่จะให้นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มาดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ โดยยืนยันว่า พรรคมั่นใจการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีในการคัดเลือกบุคคล ที่ผ่านมานายไตรรงค์ทำงานด้านเศรษฐกิจมาตลอด โดยดำรงตำแหน่งประธานคณะทำงานนโยบายของพรรค ก่อนจะจัดทำนโยบายวาระประชาชน
“นายไตรรงค์ มีประสบการณ์ ความรู้เข้าใจเศรษฐกิจทั้งเศรษฐกิจมหภาคและจุลภาคเพราะฉะนั้นการได้นายไตรรงค์ มาร่วมทีมเศรษฐกิจ จึงน่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้การทำงานของรัฐบาลและของประเทศได้ พรรคมั่นใจว่าหากได้นายไตรรงค์มาร่วมคณะรัฐมนตรีแล้ว จะช่วยให้รัฐบาลทำตามสัญญาที่ได้ให้กับประชาชนในการสร้างงานให้ประชาชนเพิ่มขึ้น1.5-2 ล้านตำแหน่งภายใน 2 ปี รวมถึงการพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้มีอัตราการเจริญเติบโตที่ดีขึ้นภายในปีนี้”
นายสรรเสริญ สมะลาภา รองโฆษกและคณะทำงานเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีที่พรรคเพื่อไทยอ้างว่า เศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงครึ่งปีแรกเป็นผลมาจากการบริหารของรัฐบาลนั้น เป็นการมองอย่างผิวเผิน เพราะเศรษฐกิจโลกถดถอยมีผลต่อเศรษฐกิจของไทย ซึ่งต้องพึ่งพาการส่งออกสูงมาก จึงมีผลกระทบมายังผู้ประกอบการและแรงงาน ส่วนการโจมตีการกู้เงินของรัฐบาล ขอยืนยันว่าการดำเนินการของรัฐบาลเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว เพราะผลจากการใช้เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจสามารถชดเชยอัตราการส่งออกที่ลดลง ทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 และ 3 ขยายตัวดีขึ้น ภาวะเศรษฐกิจจึงมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น
สำหรับข้อกล่าวหาว่ารัฐบาลแจกเงินให้กับคนบางกลุ่ม ไม่ยุติธรรมกับกลุ่มอื่นนั้น นายสรรเสริญ กล่าวว่า การคิดเช่นนี้ไม่ได้นำภาพรวมของมาตรการมาวิเคราะห์ เนื่องจากรัฐบาลยังมีมาตรการพยุงราคาสินค้าเกษตร โดยเปลี่ยนจากมาตรการจำนำผลผลิตสินค้าเกษตรมาเป็นการประกันราคา การให้การเพิ่มทุนให้กับธนาคารรัฐ วงเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท เพื่อให้ธนาคารรัฐปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นถึง 1.5 แสนล้านบาท ส่วนการขึ้นภาษีน้ำมัน รัฐบาลชี้แจงหลายครั้งแล้วว่าราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นไม่ได้มาจากภาษีน้ำมัน เพราะเมื่อขึ้นภาษีน้ำมัน รัฐบาลได้ลดเงินนำส่งให้กองทุนน้ำมัน จึงไม่มีผลกระทบกับราคาน้ำมัน แต่เป็นการบริหารการเงินของรัฐบาล ด้วยการนำเงินในกองทุนน้ำมันออกมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ
“การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจะทำได้ดีกว่านี้ หากทุกฝ่ายหันจับมือกัน เพื่อสร้างความสมานฉันท์ ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาระยะยาวที่มั่นคงมากกว่า” นายสรรเสริญ กล่าว.
นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน กล่าวว่า การที่นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี มาดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ แทน นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล เพราะเป็นบุคคลที่พรรค ปชป.คัดสรรมาแล้ว จึงน่าจะมีแนวความคิดเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และไม่น่าจะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน เพราะตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเป็นแค่บุคคลที่มาประสานงานทางด้านการเมืองเท่านั้น
