ตลาดหลักทรัพย์ฯคาดมูลค่าระดมทุนปีนี้ สูงกว่าปีก่อนที่มี 4.5 หมื่นล้านบาท หลังปัจจุบันมีการระดมทุนไปแล้ว 2.27 หมื่นล้านบาท “ชนิตร”ให้เหตุผลยังมีอีก 10 บริษัทจ่อเข้าขายหุ้นรวม 1.4พันล้าน และอีกหลายบจ.เตรียมเพิ่มทุนอีก 2.9 หมื่นล้านบาท หลังภาวะเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้น มั่นใจปี53 เติบโตเพิ่มขึ้นอีก หลังอั้นมานาน2-3 ปี ด้าน “ไพบูลย์”เชื่อเม็ดเงินระดมทุนเพิ่ม แต่เมื่อหุ้นมีมากขึ้น นักลงทุนจะหันไปขายหุ้นอีกตัว เพื่อซื้ออีกตัว ฉุดดัชนีตลาดปรับตัวลด ซ้ำโดนภาวะดอกเบี้ยและเงินเฟ้อกดดัน ส่วนจะแย่แค่ไหน โยนศักยภาพเศรษฐกิจชี้วัด
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการกลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯคาดว่ามูลค่าการระดมทุนในตลาดหุ้นไทยปีนี้สูงกว่า ปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่าระดมทุนรวม 45,120 บาท เนื่องจาก ปัจจุบันบริษัทจดทะเบียนมีการเข้ามาระดมทุนทั้งในตลาดแรกและตลาดรองแล้วจำนวน 22,713.40 ล้านบาท
นอกจากนี้ช่วงเวลาที่เหลือของปี 2552 จะมีบริษัทใหม่ที่เตรียมเข้าจดทะเบียนทั้งในตลาดหลักทรัพย์ฯและตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai)อีก 10 บริษัท มูลค่าระดมทุนรวม 1,140 ล้านบาท และขณะนี้มีบริษัทที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ(บอร์ด)ในการเพิ่มทุนเพื่อนำเงินไปขยายธุรกิจอีกจำนวน 29,000 ล้านบาท หากสามารถเพิ่มทุนเสร็จได้ในปีนี้
สำหรับแนวโน้มการระดมทุนในตลาดหุ้นไทยปี 2553 คาดว่าจะมีมูลค่าสูงกว่าปีนี้ เนื่องจาก หากภาวะเศรษฐกิจมีการฟื้นตัว ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวดีขึ้น และในปีนี้บริษัทจดทะเบียนมีการออกหุ้นกู้จำนวนมากขึ้น ซึ่งจำเป็นที่จะต้องมีการขยายฐานทุน โดยจะทำให้บริษัทจดทะเบียนมีการเพิ่มทุนมากขึ้นนั่นเอง
อย่างไรก็ตามในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามาบริษัทจดทะเบียนมีการระดมทุนน้อย เนื่องจากความไม่มั่นใจและปัจจัยการเมืองภาวะตลาด อย่างไรก็ตามคาดว่าบริษัทเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้นไทยปีหน้าจะมากขึ้น โดยส่วนตัวเชื่อว่าจะมีมูลค่าไม่ถึง 100,000 ล้านบาท เพราะเศรษฐกิจเติบโตแต่จะเป็นไปในลักษณะการฟื้นตัว
“ปี51 มูลค่าการระดมทุนในตลาดหุ้นไทย 45,120 ล้านบาท ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในรอบ8-9ปี จากภาวะตลาดหุ้นไทยที่ไม่ดี ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจถอดถอย และหากบริษัทที่ขออนุมัติบอร์ดในการเพิ่มทุนเพื่อนำเงินมาขยายธุรกิจปัจจุบันที่มีกว่า 2 หมื่นล้านบาท เข้าจดทะเบียนทันในปีนี้ รวมถึงบริษัทใหม่เข้าจดทะเบียนได้อีก 10 บริษัท เชื่อว่าการระดมทุนในปีนี้ จะสูงกว่าปีที่ผ่านมาและปีหน้าคาดจะมากกว่าปีนี้หากเศรษฐกิจฟื้นตัว อีกทั้งบจ.อั้นไม่ระดมทุนมา 2-3 ปี แล้ว ”นายชนิตร กล่าว
ด้านนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า การระดมทุนของบริษัทจดทะเบียนปีหน้าจะมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะ ภาวะตลาดหุ้นมีแนวโน้มการปรับตัวเพิ่มขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวซึ่งจะทำให้เสนอขายหุ้นได้ราคาที่สูงและประสบความสำเร็จได้ง่าย แต่เมื่อมีหุ้นเสนอขายจำนวนมาก จะทำให้นักลงทุนมีการลงทุนหุ้นลักษณะขายหุ้นอีกตัว มาซื้ออีกตัว จึงทำให้ภาวะตลาดหุ้นอาจจะมีการปรับตัวลดลงปีหน้า ประกอบกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น
“บริษัทจดทะเบียนจะมีการเพิ่มทุนจำนวนมาก จากการที่ภาวะตลาดหุ้นปรับตัวดีขึ้น ทำให้สามารถเสนอขายหุ้นได้ในราคาที่สูงและสำเร็จได้ง่าย จึงทำให้นักลงทุนมีการเปลี่ยนการลงทุนโดยการขายหุ้นอีกตัวเพื่อไปซื้ออีกตัวหนึ่งจึงทำให้มีการแย่งเม็ดเงินการลงทุน และดอกเบี้ย เงินเฟ้อ เพิ่มขึ้นจึงทำให้หุ้นปรับตัวลดลงปีหน้า แต่จะลงแรงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของประเทศไทย ”นายไพบูลย์ กล่าว
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการกลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯคาดว่ามูลค่าการระดมทุนในตลาดหุ้นไทยปีนี้สูงกว่า ปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่าระดมทุนรวม 45,120 บาท เนื่องจาก ปัจจุบันบริษัทจดทะเบียนมีการเข้ามาระดมทุนทั้งในตลาดแรกและตลาดรองแล้วจำนวน 22,713.40 ล้านบาท
นอกจากนี้ช่วงเวลาที่เหลือของปี 2552 จะมีบริษัทใหม่ที่เตรียมเข้าจดทะเบียนทั้งในตลาดหลักทรัพย์ฯและตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai)อีก 10 บริษัท มูลค่าระดมทุนรวม 1,140 ล้านบาท และขณะนี้มีบริษัทที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ(บอร์ด)ในการเพิ่มทุนเพื่อนำเงินไปขยายธุรกิจอีกจำนวน 29,000 ล้านบาท หากสามารถเพิ่มทุนเสร็จได้ในปีนี้
สำหรับแนวโน้มการระดมทุนในตลาดหุ้นไทยปี 2553 คาดว่าจะมีมูลค่าสูงกว่าปีนี้ เนื่องจาก หากภาวะเศรษฐกิจมีการฟื้นตัว ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวดีขึ้น และในปีนี้บริษัทจดทะเบียนมีการออกหุ้นกู้จำนวนมากขึ้น ซึ่งจำเป็นที่จะต้องมีการขยายฐานทุน โดยจะทำให้บริษัทจดทะเบียนมีการเพิ่มทุนมากขึ้นนั่นเอง
อย่างไรก็ตามในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามาบริษัทจดทะเบียนมีการระดมทุนน้อย เนื่องจากความไม่มั่นใจและปัจจัยการเมืองภาวะตลาด อย่างไรก็ตามคาดว่าบริษัทเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้นไทยปีหน้าจะมากขึ้น โดยส่วนตัวเชื่อว่าจะมีมูลค่าไม่ถึง 100,000 ล้านบาท เพราะเศรษฐกิจเติบโตแต่จะเป็นไปในลักษณะการฟื้นตัว
“ปี51 มูลค่าการระดมทุนในตลาดหุ้นไทย 45,120 ล้านบาท ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในรอบ8-9ปี จากภาวะตลาดหุ้นไทยที่ไม่ดี ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจถอดถอย และหากบริษัทที่ขออนุมัติบอร์ดในการเพิ่มทุนเพื่อนำเงินมาขยายธุรกิจปัจจุบันที่มีกว่า 2 หมื่นล้านบาท เข้าจดทะเบียนทันในปีนี้ รวมถึงบริษัทใหม่เข้าจดทะเบียนได้อีก 10 บริษัท เชื่อว่าการระดมทุนในปีนี้ จะสูงกว่าปีที่ผ่านมาและปีหน้าคาดจะมากกว่าปีนี้หากเศรษฐกิจฟื้นตัว อีกทั้งบจ.อั้นไม่ระดมทุนมา 2-3 ปี แล้ว ”นายชนิตร กล่าว
ด้านนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า การระดมทุนของบริษัทจดทะเบียนปีหน้าจะมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะ ภาวะตลาดหุ้นมีแนวโน้มการปรับตัวเพิ่มขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวซึ่งจะทำให้เสนอขายหุ้นได้ราคาที่สูงและประสบความสำเร็จได้ง่าย แต่เมื่อมีหุ้นเสนอขายจำนวนมาก จะทำให้นักลงทุนมีการลงทุนหุ้นลักษณะขายหุ้นอีกตัว มาซื้ออีกตัว จึงทำให้ภาวะตลาดหุ้นอาจจะมีการปรับตัวลดลงปีหน้า ประกอบกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น
“บริษัทจดทะเบียนจะมีการเพิ่มทุนจำนวนมาก จากการที่ภาวะตลาดหุ้นปรับตัวดีขึ้น ทำให้สามารถเสนอขายหุ้นได้ในราคาที่สูงและสำเร็จได้ง่าย จึงทำให้นักลงทุนมีการเปลี่ยนการลงทุนโดยการขายหุ้นอีกตัวเพื่อไปซื้ออีกตัวหนึ่งจึงทำให้มีการแย่งเม็ดเงินการลงทุน และดอกเบี้ย เงินเฟ้อ เพิ่มขึ้นจึงทำให้หุ้นปรับตัวลดลงปีหน้า แต่จะลงแรงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของประเทศไทย ”นายไพบูลย์ กล่าว