ค่ายกสิกรฯ คาดแนวโน้มหุ้นไทย ยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น แต่มีความเสี่ยงจากการปรับฐาน แนะจับตาการเมือง และค่าเงินดอลลาร์ เพราะมีผลต่อเม็ดเงินต่างชาติ รวมถึงผลการประชุม “เฟด” ในวันที่ 22-23 ก.ย.นี้
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด และบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานคาดการณ์แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ช่วงวันที่ 21-25 กันยายน 2552 โดยระบุว่า ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ จากกระแสเงินไหลเข้าที่อาจยังมีอย่างต่อเนื่อง และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ น่าจะยังออกมาดี คาดว่า การชุมนุมทางการเมืองไม่น่าจะนำไปสู่เหตุการณ์รุนแรงบานปลาย
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยอาจมีความเสี่ยงจะปรับฐาน จากแรงขายหุ้นเพื่อทำกำไรของนักลงทุน ส่วนปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์การเมืองในประเทศ การเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากจะมีผลต่อเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ ผลการประชุมนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 22-23 กันยายน 2552 การเคลื่อนไหวของราคาน้ำมัน และทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค พร้อมคาดการณ์ว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ระดับ 700-697 จุด ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 720 และ 730 จุด
สำหรับบรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นไทย ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ระดับ 713.67 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.83 จาก 707.81 จุด ในสัปดาห์ก่อน และพุ่งขึ้นร้อยละ 58.61 จากสิ้นปี 2551 ขณะที่มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสัปดาห์ลดลงร้อยละ 27.89 จาก 163,511.45 ล้านบาทในสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 117,914.49 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลงจาก 32,702.29 ล้านบาท ในสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 23,582.90 ล้านบาท โดยนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 4,158.88 ล้านบาท และ 3,125.29 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 7,284.18 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ ปิดที่ 199.10 จุด ขยับขึ้นร้อยละ 3.71 จาก 191.98 จุด ในสัปดาห์ก่อน และพุ่งขึ้นร้อยละ 22.20 จากสิ้นปีก่อน
โดยภาพรวมการลงทุนในสัปดาห์ที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยได้รับอิทธิพลมาจากตลาดหุ้นต่างประเทศ ราคาน้ำมัน และเงินทุนไหลเข้า โดยดัชนีหุ้นไทยปิดลดลงในวันจันทร์ ตามทิศทางของตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยมีแรงขายหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มพลังงาน ธนาคารพาณิชย์ และวัสดุก่อสร้าง
อย่างไรก็ตาม ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นในวันอังคาร และสามารถกลับมายืนเหนือระดับ 700 จุดได้อีกครั้ง โดยได้รับแรงหนุนจากการกลับเข้าซื้อหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มน้ำมัน รวมถึงแรงซื้อหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จากนั้นดัชนีปิดปรับตัวขึ้นต่อในวันพุธ โดยนักลงทุนยังคงเข้าซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน รวมถึงกลุ่มวัสดุก่อสร้างและธนาคาร
ขณะที่ภาวะการซื้อขายได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นต่างประเทศ รวมถึงราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น ตลอดจนการคาดการณ์ว่า จะยังคงมีเม็ดเงินจากต่างประเทศไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทย ซึ่งจะผลักดันให้ดัชนีปรับขึ้นได้อีก ส่วนในวันพฤหัสบดี ดัชนีหุ้นไทยปิดลดลงอีกครั้ง หลังดีดตัวขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ โดยมีแรงขายนำในหุ้นกลุ่มหลักทั้งพลังงาน ธนาคารพาณิชย์ และอสังหาริมทรัพย์
ส่วนดัชนีหุ้นไทยวันศุกร์ปิดบวกเล็กน้อย จากแรงซื้อต่อเนื่องหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ท่ามกลางการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลในเรื่องการเมืองที่จะมีการชุมนุมของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์