“ปิยะพันธ์”ลงแส้เจ้าหน้าที่ทอท.กลุ่มอิทธิพลเก็บผลประโยชน์สาเหตุล้างบางไกด์ผี แท็กซี่เถื่อนไม่สำเร็จ ตะเพิดพ้นสนามบินสุวรรณภูมิ จ่อรื้อสัญญารปภ.กลุ่มล็อกซเล่ย์ ทบทวนเกณฑ์การทำงานใหม่หลังถูกร้องทำงานห่วย เตรียมหาหน่วยงานกลางประเมินงานแทนทอท.ปิดช่องเอื้อประโยชน์ เร่งเคลียร์มติบอร์ด”สพรั่ง”ลดอายุจาก 10 ปีเหลือ 5 ปี ยังไม่จบ
จากการประกาศดีเดย์ตามแผนปฎิบัติการ ปราบปรามกลุ่มแท็กซี่ป้ายดำและไกด์ผี ที่มาให้บริการโดยผิดกฎหมาย ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยหน่วยรักษาความปลอดภัยของบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)AOT หรือทอท.ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจสภ.ราชาเทวะ เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2552 ที่ผ่านมานั้น นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานคณะกรรมการ ทอท.เปิดเผยว่า มั่นใจว่าแผนปฎิบัติการนี้จะแก้ปัญหาไกด์ผีแท็กซี่เถื่อนที่สนามบินสุวรรณภูมิได้อย่างแน่นอน เพราะนอกจากการปราบปรามที่จริงจังแล้ว นโยบายขณะนี้มีความชัดเจนว่าจะต้องจัดการให้ลงไปถึงต้นตอของปัญหาคือ กลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้การแก้ปัญหาที่ผ่านมาไม่สำเร็จ
“ที่ผ่านมามีความพยายามแก้ไขหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ เพราะคนปฎิบัติก็ไม่แน่ใจในนโยบายว่าจริงจังแค่ไหน ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่ามีคนในพื้นที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น ซึ่ง 2 เดือนก่อนที่จะประกาศปราบปรามได้มีการเข้าไปดูเรื่องนี้และผมก็มีรายชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมาคนที่รู้ตัวก็เริ่มขอย้ายออกจากพื้นที่ไปแล้ว จึงทำให้มั่นใจว่า อุปสรรคสำคัญได้รับการแก้ไขแล้ว เหลือเพียงการแก้ปัญหาระยะยาวคือต้องรักษาพื้นที่ป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ จึงตั้งหน่วยงานพิเศษ ที่มีทั้งกำลังคน เครื่องมือ และงบประมาณขึ้นมา”นายปิยะพันธ์กล่าว
นายปิยะพันธ์กล่าวว่า หลังจากนี้ จะต้องมีการพิจารณาในด้านประสิทธิภาพการทำงานของ บริษัทเอเชีย ซิเคียวริตี้ เมเนจเม้นท์ จำกัด (ASM) ซึ่งอยู่ในกลุ่มล็อกซ์เล่ย์-ไอ ซี ที เอส คอนซอร์เตียม ซึ่งทอท.ทำสัญญาว่าจ้าง ให้เป็นผู้ให้บริการงานรักษาความปลอดภัย ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วยซึ่งจะมีการพิจารณาว่าจ้างหน่วยงานอิสระภายนอกเข้ามาเป็นคณะกรรมการประเมินผลการทำงานของกลุ่มล็อกซ์เล่ย์แทน เจ้าหน้าที่ทอท. เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการเอื้อประโยชน์ และเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานมากที่สุด
นอกจากนี้ จะต้องมีการพิจารณามติของคณะกรรมการทอท.ชุดที่มีพลเอกสพรั่ง กัลยาณมิตร เป็นประธาน ที่ให้ลดระยะเวลาสัญญาจ้างกลุ่มล็อกซเล่ย์ จาก 10 ปีเหลือ 5 ปี ซึ่งยังค้างอยู่ ว่าจะดำเนินการในแนวทางใด ระหว่างการทบทวนสัญญาตามมติบอร์ดชุดพลเอกสพรั่ง หรือจะคงสัญญาเดิมแต่ต้องมีการปรับปรุงประสิทธิภาพในประเด็นต่างๆ เพิ่มเติมโดยจะต้องมีการเจรจากับกลุ่มล็อกซ์เล่ย์แน่นอน เนื่องจากที่ผ่านมามีปัญหาร้องเรียนถึงการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ
“สัญญากลุ่มล็อกซ์เล่ย์ต้องมีการทบทวนใหม่ โดยเฉพาะเกณฑ์การประเมินผลการทำงาน บทลงโทษ เพราะมีประเด็นของการทำงานที่ต้องปรับปรุง ผมไม่สนใจว่าจะเป็นบริษัทอะไร จะดูที่ประสิทธิภาพการทำงาน เมื่อทอท.เสียเงินจ้างไปแล้ว ก็ต้องทำงานให้คุ้มค่ากับเงินที่ได้ไปด้วย ซึ่งขณะนี้ทอท.ได้มีการปรับปรุงงานด้านรักษาความปลอดภัยในส่วนของตัวเองแล้วบริษัทที่จ้างให้ทำงานก็ต้องมีผลงานที่ดีด้วย ยอมรับว่า เห็นปัญหานี้ตั้งแต่เข้ามาเป็นประธานบอร์ดทอท. แต่สนามบินสุวรรณภูมิมีปัญหาจุกจิกหลายเรื่อง จึงต้องค่อยๆ แก้ไปที่ละเรื่อง”ประธานบอร์ดทอท.กล่าว
โดยกลุ่มกลุ่มล็อกซ์เล่ย์ได้ทำสัญญาเป็นให้บริการงานรักษาความปลอดภัยในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตามมติคณะกรรมการทอท. ชุดที่มีนายศรีสุข จันทรางศุ อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน วงเงิน 5.41 พันล้านบาท ระยะเวลา 10 ปี โดยสัญญาเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย. 2549 สิ้นสุดวันที่ 26 ก.ย. 2559 ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ต.ค.50 คณะกรรมการทอท.ชุดที่มีพลเอกสพรั่ง เป็นประธานได้มีมติปรับลดอายุในสัญญาจ้าง กลุ่มล็อกซเล่ย์ จาก10 ปี เหลือ 5 ปี นับจากวันเริ่มเซ็นสัญญาคือ 26 ก.ย. 49 -26 ก.ย.54 โดยให้ปรับลดวงเงินว่าจ้างตามเนื้องานที่ลดลง เนื่องจากเห็นว่างานรักษาความปลอดภัยในท่าอากาศยานแตกต่างจากงานรักษาความปลอดภัยที่อื่นๆ เพราะต้องใช้ความสามารถพิเศษ ทอท.จึงควรเป็นผู้ดำเนินการเอง ภายหลังสิ้นสุดสัญญาจ้าง
และให้ทอท.เตรียมพร้อมในการตั้งหน่วยงานด้านรักษาความปลอดภัยในท่าอากาศยานของตัวเอง และฝึกอบรมทักษะ เพื่อเข้าทำงานหลังสัญญาล็อกซ์เลย์ครบกำหนด 5 ปี แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการเปลี่ยนแปลงสัญญา เนื่องจากในช่วงปี 2551 สมัยที่นายทรงศักดิ์ ทองศรี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กลุ่มล็อกซ์เล่ย์ได้ทำหนังสือขอให้ทบทวนมติคณะกรรมการชุดพลเอกสพรั่ง และนายทรงศักดิ์ได้สั่งให้คณะกรรมการทอท.ในขณะนั้น ซึ่งมี นายวุฒิพันธ์ วิชัยรัตน์ เป็นประธานพิจารณาให้ความเป็นธรรมโดยระบุว่าสัญญามีผลผูกพันหากไม่มีข้อผิดพลาดก็ไม่ควรแก้หรือปรับลดอายุสัญญาและเห็นว่าสัญญาะยะยาวดีกว่า เพราะการรักษาความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญการเปลี่ยนแปลงผู้รับผิดชอบบ่อย เกรงว่าความลับของระบบรักษาความปลอดภัยจะรั่วไหล
โดยกลุ่มล็อกซ์เล่ย์ ให้บริการรักษาความปลอดภัยใน 2 ส่วนคือ 1. การบริการรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยาน คือพนักงานวินิจฉัยภาพ พนักงานตรวจค้น ผู้โดยสารและสัมภาระ พนักงานตรวจตราช่องทางเข้าออก ในท่าอากาศยานและลานบิน และ 2. บุคลากรด้านการรักษาความปลอดภัย เช่นพนักงานรักษาความปลอดภัย พนักงานศูนย์ควบคุม 24 ชั่วโมง พนักงานอำนวยความสะดวกด้านจราจร พนักงานเก็บกู้วัตถุระเบิด และสุนัขตรวจค้น (K9)
จากการประกาศดีเดย์ตามแผนปฎิบัติการ ปราบปรามกลุ่มแท็กซี่ป้ายดำและไกด์ผี ที่มาให้บริการโดยผิดกฎหมาย ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยหน่วยรักษาความปลอดภัยของบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)AOT หรือทอท.ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจสภ.ราชาเทวะ เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2552 ที่ผ่านมานั้น นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานคณะกรรมการ ทอท.เปิดเผยว่า มั่นใจว่าแผนปฎิบัติการนี้จะแก้ปัญหาไกด์ผีแท็กซี่เถื่อนที่สนามบินสุวรรณภูมิได้อย่างแน่นอน เพราะนอกจากการปราบปรามที่จริงจังแล้ว นโยบายขณะนี้มีความชัดเจนว่าจะต้องจัดการให้ลงไปถึงต้นตอของปัญหาคือ กลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้การแก้ปัญหาที่ผ่านมาไม่สำเร็จ
“ที่ผ่านมามีความพยายามแก้ไขหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ เพราะคนปฎิบัติก็ไม่แน่ใจในนโยบายว่าจริงจังแค่ไหน ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่ามีคนในพื้นที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น ซึ่ง 2 เดือนก่อนที่จะประกาศปราบปรามได้มีการเข้าไปดูเรื่องนี้และผมก็มีรายชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมาคนที่รู้ตัวก็เริ่มขอย้ายออกจากพื้นที่ไปแล้ว จึงทำให้มั่นใจว่า อุปสรรคสำคัญได้รับการแก้ไขแล้ว เหลือเพียงการแก้ปัญหาระยะยาวคือต้องรักษาพื้นที่ป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ จึงตั้งหน่วยงานพิเศษ ที่มีทั้งกำลังคน เครื่องมือ และงบประมาณขึ้นมา”นายปิยะพันธ์กล่าว
นายปิยะพันธ์กล่าวว่า หลังจากนี้ จะต้องมีการพิจารณาในด้านประสิทธิภาพการทำงานของ บริษัทเอเชีย ซิเคียวริตี้ เมเนจเม้นท์ จำกัด (ASM) ซึ่งอยู่ในกลุ่มล็อกซ์เล่ย์-ไอ ซี ที เอส คอนซอร์เตียม ซึ่งทอท.ทำสัญญาว่าจ้าง ให้เป็นผู้ให้บริการงานรักษาความปลอดภัย ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วยซึ่งจะมีการพิจารณาว่าจ้างหน่วยงานอิสระภายนอกเข้ามาเป็นคณะกรรมการประเมินผลการทำงานของกลุ่มล็อกซ์เล่ย์แทน เจ้าหน้าที่ทอท. เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการเอื้อประโยชน์ และเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานมากที่สุด
นอกจากนี้ จะต้องมีการพิจารณามติของคณะกรรมการทอท.ชุดที่มีพลเอกสพรั่ง กัลยาณมิตร เป็นประธาน ที่ให้ลดระยะเวลาสัญญาจ้างกลุ่มล็อกซเล่ย์ จาก 10 ปีเหลือ 5 ปี ซึ่งยังค้างอยู่ ว่าจะดำเนินการในแนวทางใด ระหว่างการทบทวนสัญญาตามมติบอร์ดชุดพลเอกสพรั่ง หรือจะคงสัญญาเดิมแต่ต้องมีการปรับปรุงประสิทธิภาพในประเด็นต่างๆ เพิ่มเติมโดยจะต้องมีการเจรจากับกลุ่มล็อกซ์เล่ย์แน่นอน เนื่องจากที่ผ่านมามีปัญหาร้องเรียนถึงการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ
“สัญญากลุ่มล็อกซ์เล่ย์ต้องมีการทบทวนใหม่ โดยเฉพาะเกณฑ์การประเมินผลการทำงาน บทลงโทษ เพราะมีประเด็นของการทำงานที่ต้องปรับปรุง ผมไม่สนใจว่าจะเป็นบริษัทอะไร จะดูที่ประสิทธิภาพการทำงาน เมื่อทอท.เสียเงินจ้างไปแล้ว ก็ต้องทำงานให้คุ้มค่ากับเงินที่ได้ไปด้วย ซึ่งขณะนี้ทอท.ได้มีการปรับปรุงงานด้านรักษาความปลอดภัยในส่วนของตัวเองแล้วบริษัทที่จ้างให้ทำงานก็ต้องมีผลงานที่ดีด้วย ยอมรับว่า เห็นปัญหานี้ตั้งแต่เข้ามาเป็นประธานบอร์ดทอท. แต่สนามบินสุวรรณภูมิมีปัญหาจุกจิกหลายเรื่อง จึงต้องค่อยๆ แก้ไปที่ละเรื่อง”ประธานบอร์ดทอท.กล่าว
โดยกลุ่มกลุ่มล็อกซ์เล่ย์ได้ทำสัญญาเป็นให้บริการงานรักษาความปลอดภัยในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตามมติคณะกรรมการทอท. ชุดที่มีนายศรีสุข จันทรางศุ อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน วงเงิน 5.41 พันล้านบาท ระยะเวลา 10 ปี โดยสัญญาเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย. 2549 สิ้นสุดวันที่ 26 ก.ย. 2559 ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ต.ค.50 คณะกรรมการทอท.ชุดที่มีพลเอกสพรั่ง เป็นประธานได้มีมติปรับลดอายุในสัญญาจ้าง กลุ่มล็อกซเล่ย์ จาก10 ปี เหลือ 5 ปี นับจากวันเริ่มเซ็นสัญญาคือ 26 ก.ย. 49 -26 ก.ย.54 โดยให้ปรับลดวงเงินว่าจ้างตามเนื้องานที่ลดลง เนื่องจากเห็นว่างานรักษาความปลอดภัยในท่าอากาศยานแตกต่างจากงานรักษาความปลอดภัยที่อื่นๆ เพราะต้องใช้ความสามารถพิเศษ ทอท.จึงควรเป็นผู้ดำเนินการเอง ภายหลังสิ้นสุดสัญญาจ้าง
และให้ทอท.เตรียมพร้อมในการตั้งหน่วยงานด้านรักษาความปลอดภัยในท่าอากาศยานของตัวเอง และฝึกอบรมทักษะ เพื่อเข้าทำงานหลังสัญญาล็อกซ์เลย์ครบกำหนด 5 ปี แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการเปลี่ยนแปลงสัญญา เนื่องจากในช่วงปี 2551 สมัยที่นายทรงศักดิ์ ทองศรี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กลุ่มล็อกซ์เล่ย์ได้ทำหนังสือขอให้ทบทวนมติคณะกรรมการชุดพลเอกสพรั่ง และนายทรงศักดิ์ได้สั่งให้คณะกรรมการทอท.ในขณะนั้น ซึ่งมี นายวุฒิพันธ์ วิชัยรัตน์ เป็นประธานพิจารณาให้ความเป็นธรรมโดยระบุว่าสัญญามีผลผูกพันหากไม่มีข้อผิดพลาดก็ไม่ควรแก้หรือปรับลดอายุสัญญาและเห็นว่าสัญญาะยะยาวดีกว่า เพราะการรักษาความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญการเปลี่ยนแปลงผู้รับผิดชอบบ่อย เกรงว่าความลับของระบบรักษาความปลอดภัยจะรั่วไหล
โดยกลุ่มล็อกซ์เล่ย์ ให้บริการรักษาความปลอดภัยใน 2 ส่วนคือ 1. การบริการรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยาน คือพนักงานวินิจฉัยภาพ พนักงานตรวจค้น ผู้โดยสารและสัมภาระ พนักงานตรวจตราช่องทางเข้าออก ในท่าอากาศยานและลานบิน และ 2. บุคลากรด้านการรักษาความปลอดภัย เช่นพนักงานรักษาความปลอดภัย พนักงานศูนย์ควบคุม 24 ชั่วโมง พนักงานอำนวยความสะดวกด้านจราจร พนักงานเก็บกู้วัตถุระเบิด และสุนัขตรวจค้น (K9)
