ผู้บริหาร LPN เผยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 52 สภาพคล่องสูง มีเงินสดในมือสูงกว่าหนี้สิน 2 ไตรมาสติดต่อกัน และมีรายได้รวม 2,282.31 ล้านบาท จากสองโครงการใหญ่ที่สร้างเสร็จย่านรัตนาธิเบศร์ และปิ่นเกล้า ด้านงบกระแสเงินสดเพิ่มขึ้น 673.84 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 222.03 ปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.16 บาท วันที่ 28 สิงหาคม 2552 นี้
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN เปิดเผยว่า เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าด้วยการเตรียมความพร้อมขององค์กรตั้งแต่กลางปี 2551 เพื่อรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจ ทำให้บริษัทไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ทั้งยังมีผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยผลประกอบการในไตรมาส 2 ปี 2552 นี้ บริษัท บริษัทย่อย และบริษัทร่วม มีรายได้รวม 2,282.31 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ของปีที่ผ่านมา และถือเป็นนิวไฮของ LPN อีกครั้ง
โดยเป็นผลจากการรับรู้รายได้ของ 2 โครงการคุณภาพที่สร้างเสร็จในไตรมาสนี้ คือ ลุมพินี คอนโดทาวน์ รัตนาธิเบศร์ และลุมพินี สวีท ปิ่นเกล้า เพื่อตอบสนองความต้องการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ระดับกลาง-กลางล่าง และระดับกลางบน ด้วยราคาที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย ทำเลสะดวกกับการเดินทาง และการบริหารจัดการชุมชนภายใต้แนวคิด 'ชุมชนน่าอยู่' เพื่อความสุขที่แท้จริงของการอยู่อาศัยของทุกคนในสังคม 'ลุมพินี'
ด้านกำไรสุทธิ ในไตรมาส 2 ปี 2552 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 405.34 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่งบกระแสเงินสด ณ 30 มิถุนายน 2552 และ 2551 บริษัทมีเงินสดเพิ่มขึ้น 673.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 222.03 อันเนื่องมาจากการดำเนินงานของบริษัท และการสำรองเงินสดไว้ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
สำหรับอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงจาก 0.97 : 1 เหลือ 0.72 : 1 และหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงจาก 0.58 : 1 เหลือ 0.38 : 1 ตามลำดับในปี 2551 และปี 2552 เมื่อรวมเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดกับเงินลงทุน ส่งผลให้บริษัทมีสภาพคล่องรวม 1,859.34 ล้านบาท นับว่าเป็น 2 ไตรมาสติดต่อกันที่บริษัทมีสภาพคล่องมากกว่าหนี้สินที่มีดอกเบี้ย
ในด้านผลตอบแทนสำหรับผู้ถือหุ้นนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2552 ได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.16 บาท ซึ่งมีกำหนดปิดสมุดทะเบียนวันที่ 21 สิงหาคม และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่28 สิงหาคมนี้ 2552
อย่างไรก็ตาม นโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันที่คำนึงถึงความสมดุล ส่งผลให้บริษัทสามารถผ่านพ้นสถานการณ์ต่างๆ มาได้ด้วยดีและเติบโต ด้วยความมั่นคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง
สำหรับผลประกอบการตลอดปี 2552 นี้ บริษัทเชื่อมั่นว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้โดยรายได้รวมครึ่งปีแรกของบริษัทมีจำนวนเท่ากับ 4,318.73 ล้านบาท สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ คาดว่าจะมีการรับรู้รายได้อีกประมาณ 4,000 ล้านบาท จาก 2 โครงการหลัก คือ ลุมพินี วิลล์ รามคำแหง 26 และลุมพินี พระราม 8