xs
xsm
sm
md
lg

CCETใจป้ำปันผลแม้ผลงานQ2กำไรตก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - CCET จ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 5 สต. แม้ผลงานไตรมาส2 ปีนี้กำไร 460 ล้านบาท ลดจากปีก่อนที่ทำไว้ 622 ล้านบาทหรือลดลงกว่า 26% เหตุการแข่งขันในธุรกิจผลิตสินค้าอีเล็คโทรนิคส์เพิ่มสูงขึ้น และเศรษฐกิจโลกชะลอตัวทำให้ไม่อาจผลักภาระให้ลูกค้าได้ รวมทั้งสินค้าที่ยอดขายสูงแต่กำไรต่อหน่วยต่ำ พร้อมใส่เงินทุนเพิ่มใน Suzhou เพื่อนำเงินไปใช้เป็นทุนหมุนเวียน

นายโจว ข่ง ซิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จากัด (มหาชน) ( CCET ) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2552 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2552 ซึ่งบอร์ดอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดาเนินงานงวดครึ่งปีแรก สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2552 ให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 19 สิงหาคม 2552 และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 31 สิงหาคม 2552

พร้อมกันนี้บอร์ดได้ อนุมัติการลงทุนในบริษัท Cal-Comp Electronics &Communication (Suzhou) Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้น 100 % ซึ่งบริษัทดังกล่าวจะเพิ่มทุนอีก 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้จากทุนจดทะเบียนเดิม 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำเงินไปใช้เป็นทุนหมุนเวียน

โดย CCET แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาสสองปีนี้ สิ้นสุด 30 มิถุนายน 52 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 459.77 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 621.64 ล้านบาท หรือลดลง 161.87 ล้านบาท คิดเป็น 26.04% ส่วนงวด 6 เดือนลดลง 54.52% แม้รายได้จากการขายจากสินค้าแผ่น PC Board และ Hard Disk Drive ของบริษัทฯ จะเพิ่มขึ้น แต่สินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าที่มีกำไรต่อหน่วยต่ำประกอบกับการแข่งขันในธุรกิจผลิตสินค้าอีเล็คโทรนิคส์เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก อีกทั้งสภาวะเศรษฐกิจของโลกได้ชะลอตัวทำให้ไม่สามารถจะผลักภาระต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังลูกค้าได้แม้ว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 2 ปีนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรก และการปรับตัวดังกล่าวยังไม่ดีเท่ากับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา

โดยไตรมาสนี้บริษัทมียอดขาย 27,657.82 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.50 % จากไตรมาสเดียวกันของปี 2551 บริษัทฯ ยังมีรายได้อื่น 36.16 ล้านบาท ส่งผลให้รายได้รวมทั้งสิ้นในไตรมาสนี้เท่ากับ 27,693.97 ล้านบาท ส่วนต้นทุนขายนั้นงวดนี้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยส่วนกำไรขั้นต้นลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 51 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนธุรกิจแผงวงจร PCB ซึ่งมีกำไรต่อหน่วยต่ำและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นสวนทางค่าใช้จ่ายทางการเงินที่ลดลง จากการลดลงของเงินกู้ระยะสั้นจากสถาบันการเงินโดยการนำเงินที่ได้จากลูกค้าไปชำระเงินกู้
กำลังโหลดความคิดเห็น