xs
xsm
sm
md
lg

บอร์ด รฟม.อนุมัติ 3.2 หมื่นล้าน รถไฟฟ้าสีม่วง ชง ครม.ปลายเดือนนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บอร์ด รฟม.สรุปวงเงินรถไฟฟ้าสีม่วง 3 สัญญา 3.2 หมื่นล้าน เตรียมชง ครม.รับทราบ 28 ก.ค.นี้ โดยการก่อสร้างสัญญาที่ 1 โครงสร้างยกระดับตะวันออก จากเตาปูน-สะพานพระนั่งเกล้า ระยะทาง 12 กม. จะเซ็นสัญญาได้ในเดือน ก.ย.นี้ ส่วนสัญญาที่ 2 และ 3 ที่เหลือ จะเซ็นสัญญาได้ในเดือน พ.ย.ปีนี้

นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ประธานคณะกรรมการ องค์การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2552 (วานนี้) โดยระบุว่า บอร์ดได้เห็นชอบวงเงินค่าก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) ทั้งหมด 3 สัญญา วงเงินก่อสร้าง 36,055 ล้านบาท ซึ่งจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2552 นี้

นอกจากนี้ บอร์ด รฟม.ยังได้รับรองผลการประมูลในสัญญาที่ 2 และ 3 ตามที่ รฟม.เสนอ ประกอบด้วยกรอบวงเงินในสัญญาที่ 2 ลดลงร้อยละ 12.2 จาก 13,150 ล้านบาท เป็น 13,100 ล้านบาท และสัญญาที่ 3 ลดลงร้อยละ 14.8 จาก 5,050 ล้านบาท เป็น 5,025 ล้านบาท

ทั้งนี้ สัญญาที่ 1 โครงสร้างยกระดับตะวันออก จากเตาปูน-สะพานพระนั่งเกล้า ระยะทาง 12 กม. กลุ่มซีเคทีซี จอยท์เวนเจอร์ ประกอบด้วย บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK และบริษัท โตคิว คอนสตรัคชั่นจากญี่ปุ่น เป็นผู้ชนะการประมูล

สัญญาที่ 2 โครงสร้างยกระดับส่วนตะวันตก จากสถานีสะพานพระนั่งเกล้า-สถานีคลองบางไผ่ และงานก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านทิศใต้ของสะพานพระนั่งเกล้า โดยมี บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC เป็นผู้ชนะการประมูล

ส่วนสัญญาที่ 3 เป็นงานก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดรถ ที่กลุ่มพีเออาร์จอยท์เวนเจอร์ ประกอบด้วยบริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASCON บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PLE และบริษัท รวมนครก่อสร้าง เป็นผู้ชนะการประมูล

สำหรับความคืบหน้าในโครงการรถไฟฟ้าที่ รฟม. ดำเนินการอยู่นั้น จากนี้จะรอการเห็นชอบสัญญาที่ 1 จากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า) จากนั้นจะนำทั้ง 3 สัญญา รายงานต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยคาดว่าสัญญาที่ 1 จะลงนามก่อสร้างได้ในเดือนกันยายน 2552 นี้ ส่วนสัญญาที่ 2 และ 3 นั้น ต้องรอทางไจก้าและการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจจะเซ็นสัญญาได้ช่วงเดือน พฤศจิกายน-ธันวาคม 2552

นายสุพจน์ ยังได้เร่งให้ รฟม. ดำเนินการเวนคืนในส่วนที่เหลือของสายสีม่วงที่ค้างคาอยู่ เนื่องจากยังเหลืออีกร้อยละ 40 ที่ยังไม่สำเร็จ ซึ่งคาดว่าจะต้องจ่ายค่าเวนคืนเพิ่มอีกร้อยละ 1-2 ซึ่งเพิ่มขึ้นตามดัชนีผู้บริโภค แต่ก็ไม่เกินวงเงินที่ ครม.อนุมัติไว้รวม 9,000 ล้านบาท

นายสุพจน์ กล่าวว่า ในส่วนของสายสีน้ำเงินว่า ได้ทำหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เพื่อแจ้งให้ไจก้าทราบว่าโครงการดังกล่าวจะใช้เงินกู้ในประเทศแทน ซึ่งจะทำให้ร่นระยะเวลาก่อสร้างได้อีก และคาดว่าจะประกาศเชิญชวนหาผู้ลงทุนได้ในเดือน พฤศจิกายน 2552 และยื่นซองได้ในช่วงเดือนมกราคม 2552 โดยโครงการดังกล่าว รฟม.จำเป็นต้องทำตามระเบียบของการคลังและพัสดุ และเนื่องจากโครงการนี้ใช้วงเงินก่อสร้างกว่า 70,000 ล้านบาท จึงต้องแบ่งสัญญาออกเป็น 4-5 สัญญา
กำลังโหลดความคิดเห็น