ก.ล.ต ออกเกณฑ์ มาร์เกตเมคเกอร์โกลด์ฟิวเจอร์ส เทรดกองทุนอีทีเอฟ -สัญญาซื้อขายล่วงหน้าอ้างอิงกับทองคำต่างประเทศได้แล้ว ให้วงเงินรายละ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จัดสรรให้ครั้งละ 5 แสนเหรียญ ด้านโบรกฯปลื้ม ชี้ถือเป็นเรื่องดีช่วยลดความเสี่ยง มองราคาทองยังเคลื่อนไหวแบบไซด์เวย์ อัพ ก่อนสิงหาคมมีโอกาสเห็นทองแท่งแตะ 15,500 บาท
มีรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ได้ส่งหนังสือเวียนไปยังผู้จัดการตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทุกแห่ง เรื่องการซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงทองคำในตลาดอนุพันธ์ต่างประเทศของผู้ดูแลสภาพคล่อง (มาร์เกตเมคเกอร์)ในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับทองคำโดย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ได้อนุมัติวงเงินจำนวน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับจัดสรรให้แก่มาร์เกตเมคเกอร์ในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงทองคำ เพื่อนำไปซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับทองคำ (Exchange Traded Derivatives) และ กองทุนรวมอีทีเอฟ (Exchange Traded Fund)ที่อ้างอิงกับทองคำในต่างประเทศได้แล้ว
ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางที่ธปท.ในฐานะเจ้าพนักงานควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน ก.ล.ต.จึงได้ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และขั้นตอนสำหรับมาร์เกตเมคเกอร์ คือ สินทรัพย์ประเภทที่ลงทุนได้ โดยให้มาร์เกตเมคเกอร์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่างหน้าที่อ้างอิงกับทองคำและกองทุนรวมอีทีเอฟ ที่อ้างอิงทองคำในต่างประเทศเพื่อตนเองจากศูนย์ซื้อขายที่มีการจัดตั้งอย่างเป็นทางการ เพื่อบริหารความเสี่ยงและทำอาบิทราจจากการทำหน้าที่เป็นมาร์เกตเมคเกอร์
สำหรับการจัดสรรวงเงิน ให้มาร์เกตเมคเกอร์แต่ละรายที่มีความประสงค์จะนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศ จะต้องมีหนังสือแจ้งก.ล.ต.เพื่อ จะได้มีหนังสือแจ้งธปท.ในการออกหลักฐานอนุญาตให้มาร์เกตเมคเกอร์ โดยจะให้ได้ไม่เกินรายละ 5 ล้านดอลลาร์สรัฐ ซึ่งเมื่อธปท.มีหนังสืออนุญาตแล้วให้มาร์เกตเมคเกอร์แต่ละรายขอจัดสรรวงเงินผ่านระบบควบคุมวงเงินลงทุนในต่างประเทศ(FIA)ของ ก.ล.ต.เพื่อจะออกหลักฐานการจัดสรรวงเงินของสำนักงานฯและนำไป ประกอบหนังสืออนุญาตของธปท.ในการซื้อเงินตราต่างประเทศต่อไป
ส่วนการจัดสรรวงเงินผ่านระบบ FIA นั้น ระบบจะจัดสรรวงเงินให้ครั้งละ 5 แสนดอลลาร์สหรัฐ และเมื่อใช้ถึง 4 แสนดอลลาร์สหรัฐ จึงสามารถขอจัดสรรจากระบบเพิ่มได้อีกครั้ง ทั้งนี้วงเงินที่ได้รับการจัดสรรดังกล่าวจะมีอายุ 1 เดือน ในกรณีที่ต้องการใช้วงเงินมากกว่า 5 แสนดอลลาร์สหรัฐแต่ไม่เกิน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในครั้งเดียว มาร์เกตเมคเกอร์สามารถขอใช้วงเงินผ่านช่องทางพิเศษ (fast Track)โดยวงเงินที่ได้รับการจัดสรรจะมีอายุ 7 วัน โดยกรณีที่มาร์เกตเมคเกอร์รายใดใช้วงเงินถึง 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สามารถมีหนังสือถึงก.ล.ต.เพื่อขอจัดสรรวงเงินเพิ่มได้อีก 5 ล้านดอลลาร์
นายชาญชัย กงทองลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บล. ทรีนีตี้ จำกัด และในฐานะรองประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า กล่าวถึงในเรื่องนี้ว่า ทางก.ล.ต.ได้มีการออกเกณฑ์มาแล้ว ทั้งนี้คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน ก็สามารถที่จะไปซื้อขายต่างประเทศได้ โดยเชื่อว่าภายในปีนี้จะไปซื้อขายสัญญาทองคำในต่างประเทศ เพื่อป้องกันความเสี่ยงของมาร์เกตเมคเกอร์หากราคาทองคำในช่วงเวลากลางคืนมีความผันผวนสูง จากขณะนี้ทางมาร์เกตเมคเกอร์เองอยู่ระหว่างการศึกษาขั้นตอนการปฏิบัติอย่างละเอียด
โดย ทางบล.ทรีนีตี้อยู่ระหว่างการทำระบบเพื่อรองรับการไปเทรดต่างประเทศ และการติดต่อกับโบรกเกอร์ต่างประเทศในเรื่องการเปิดบัญชีซื้อขาย อย่างไรก็ตามแม้ธปท.อนุญาตให้มาร์เกตเมคเกอร์ไปเทรดกองทุนทองคำต่างประเทศได้นั้น แต่ทางบริษัทยังมีการขอให้นักลงทุนรายบุคคลสามารถเทรดกองทุนทองคำในต่างประเทศด้วย ซึ่งขณะนี้คงอยู่ระหว่างการพิจารณาของธปท.
“เดิมเราขอธปท.ไป 2 เรื่อง คือ การให้มาร์เกตเมคเกอร์โกลด์ฟิวเจอร์ไปเทรดกองทุนทองคำในต่างประเทศ และการขอให้นักลงทุนรายบุคคลสามารถเทรดโกลด์ฟิวเจอร์ในช่วงกลางคืนได้นั้น แต่ปัจจุบันอนุญาตมาในส่วนมาร์เกตเมคเกอร์แต่รายย่อยยังไม่อนุญาต ”นายชาญชัย กล่าว
นายอภิชาติ ลักษณะสิริศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.ซี.ออสสิริส ฟิวเจอร์สจำกัด กล่าวว่าการที่ธนาคารแห่งประเทศ อนุมัติวงดังกล่าวให้นั้นถือเป็นเรื่องที่ดี ส่วนทางบริษัทนั้นมีความสนใจในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งคงต้องใช้ระยะเวลาอีกประมาณ 1 เดือน หรืออีก 2 สัปดาห์ที่เหลือของเดือนนี้ เพราะเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) (TFEX) โดยหากทุกอย่างราบรื่นก็จะเข้าไปซื้อขายสัญญาทองคำในในย่านสิงคโปร์ ฮ่องกง เพราะมองว่าเป็นตลาดใกล้บ้าน ซึ่งสามารถติดตามความเคลื่อนไหวและข้อมูลได้ดีกว่าในยุโรป
สำหรับราคาของโกลด์ฟิวเจอร์สในช่วงที่ผ่านมา จะเห็นว่ามีการปรับตัวลงไปมาก จากความกังวลของนักลงทุนที่มองว่าราคาทองคำไม่เซฟเฮฟเว่นแล้ว อีกทั้งมีข่าวออกมาว่าก.ล.ต.ของสหรัฐฯ ออกกฎมาควบคุมการซื้อขายคอมมอดิตี ฟิวเจอร์ส ทำให้ช่วงระยะ 1 เดือนข้างหน้าราคาโกลด์ ฟิวเจอร์ส น่าจะเคลื่อนไหวไปในลักษณะไซด์เวย์อัพ ปัจจัยหลักน่าจะมาจากค่าเงินดอลลาร์และเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมทั้งค่าเงินสกุลใหม่ที่เริ่มมีการพูดถึงกันเรื่อยๆในตอนนี้ โดยราคาน่าจะช่วงระหว่าง 700 -990 เหรียญ/ออนซ์
**คาดก่อนสิ้นเดือนทองแท่ง15,500.-
นายพิชญา พิสุทธิกุล เลขาธิการสมาคมค้าทองคำ กล่าวถึงสาเหตุที่ราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมามีความผันผวนมาก ว่า เกิดจากบรรดากองทุนต่างประเทศมีการเก็งกำไรในระยะสั้น ทำให้ส่วนต่างของราคาเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนมีถึง 700 -800 บาท เพราะเป็นช่วงปิดบัญชีทำให้กองทุนเหล่านี้ต้องเทขาย เพื่อทำให้งบดุลและผลประกอบการของกองทุนดูดี จนเป็นที่สร้างความมั่นใจต่อลูกค้าได้ เพื่อให้การลงทุนในไตรมาส3 มีเม็ดเงินเข้ามาเพิ่มเติม โดยวานนี้ (21ก.ค.) ราคาทองแท่งรับซื้อที่ 15,150 บาท ขาย 15,250 บาท
“ช่วงนี้แม้ราคาทองมีการปรับตัวขึ้น แต่ก็จะเป็นเพียงระยะสั้น และที่ดีขึ้นมาเพียงเพราะค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า ถ้าหากมองในระยะสั้นช่วง 1 เดือนนี้ โดยหากพิจารณาจากความซบเซาของเศรษฐกิจในทุกภูมิภาคราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 890 -960 เหรียญ/ออนซ์ โดยทองคำแท่งอาจปรับตัวขึ้นยืนแถว15,500 บาทได้ในช่วง 2สัปดาห์นี้ แต่ก็จะเป็นเพียงระยะสั้น”นายพิชญา กล่าว
**GBXจีบต่างชาติลงทุนทองคำ
นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก(GLOBLEX) กล่าวว่า มีกลุ่มนักลงทุนจากตะวันออกกลาง และจากสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ด้วย ให้ความสนใจที่จะเข้าลงทุนธุรกิจค้าทองคำกันมาก และมีความสนใจที่จะขยายการลงทุนเข้ามาในไทยด้วย โดยสัปดาห์นี้จะมีการนัดพบกลุ่มนักลงทุนดังกล่าวนี้เข้ามาหารือ หากเป็นไปได้ก็จะมีการลงทุนธุรกิจค้าทองผ่านมาที่ GBX แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปอะไร ส่วนการเปิดเทรดทองคำ 24 ชั่วโมง GBX ระบุว่าได้มีการหารือกับTFEX แล้ว ซึ่งการเทรดทองตลอด 24 ชั่วโมงก็ยังมีความเป็นไปได้
มีรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ได้ส่งหนังสือเวียนไปยังผู้จัดการตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทุกแห่ง เรื่องการซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงทองคำในตลาดอนุพันธ์ต่างประเทศของผู้ดูแลสภาพคล่อง (มาร์เกตเมคเกอร์)ในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับทองคำโดย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ได้อนุมัติวงเงินจำนวน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับจัดสรรให้แก่มาร์เกตเมคเกอร์ในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงทองคำ เพื่อนำไปซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับทองคำ (Exchange Traded Derivatives) และ กองทุนรวมอีทีเอฟ (Exchange Traded Fund)ที่อ้างอิงกับทองคำในต่างประเทศได้แล้ว
ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางที่ธปท.ในฐานะเจ้าพนักงานควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน ก.ล.ต.จึงได้ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และขั้นตอนสำหรับมาร์เกตเมคเกอร์ คือ สินทรัพย์ประเภทที่ลงทุนได้ โดยให้มาร์เกตเมคเกอร์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่างหน้าที่อ้างอิงกับทองคำและกองทุนรวมอีทีเอฟ ที่อ้างอิงทองคำในต่างประเทศเพื่อตนเองจากศูนย์ซื้อขายที่มีการจัดตั้งอย่างเป็นทางการ เพื่อบริหารความเสี่ยงและทำอาบิทราจจากการทำหน้าที่เป็นมาร์เกตเมคเกอร์
สำหรับการจัดสรรวงเงิน ให้มาร์เกตเมคเกอร์แต่ละรายที่มีความประสงค์จะนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศ จะต้องมีหนังสือแจ้งก.ล.ต.เพื่อ จะได้มีหนังสือแจ้งธปท.ในการออกหลักฐานอนุญาตให้มาร์เกตเมคเกอร์ โดยจะให้ได้ไม่เกินรายละ 5 ล้านดอลลาร์สรัฐ ซึ่งเมื่อธปท.มีหนังสืออนุญาตแล้วให้มาร์เกตเมคเกอร์แต่ละรายขอจัดสรรวงเงินผ่านระบบควบคุมวงเงินลงทุนในต่างประเทศ(FIA)ของ ก.ล.ต.เพื่อจะออกหลักฐานการจัดสรรวงเงินของสำนักงานฯและนำไป ประกอบหนังสืออนุญาตของธปท.ในการซื้อเงินตราต่างประเทศต่อไป
ส่วนการจัดสรรวงเงินผ่านระบบ FIA นั้น ระบบจะจัดสรรวงเงินให้ครั้งละ 5 แสนดอลลาร์สหรัฐ และเมื่อใช้ถึง 4 แสนดอลลาร์สหรัฐ จึงสามารถขอจัดสรรจากระบบเพิ่มได้อีกครั้ง ทั้งนี้วงเงินที่ได้รับการจัดสรรดังกล่าวจะมีอายุ 1 เดือน ในกรณีที่ต้องการใช้วงเงินมากกว่า 5 แสนดอลลาร์สหรัฐแต่ไม่เกิน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในครั้งเดียว มาร์เกตเมคเกอร์สามารถขอใช้วงเงินผ่านช่องทางพิเศษ (fast Track)โดยวงเงินที่ได้รับการจัดสรรจะมีอายุ 7 วัน โดยกรณีที่มาร์เกตเมคเกอร์รายใดใช้วงเงินถึง 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สามารถมีหนังสือถึงก.ล.ต.เพื่อขอจัดสรรวงเงินเพิ่มได้อีก 5 ล้านดอลลาร์
นายชาญชัย กงทองลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บล. ทรีนีตี้ จำกัด และในฐานะรองประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า กล่าวถึงในเรื่องนี้ว่า ทางก.ล.ต.ได้มีการออกเกณฑ์มาแล้ว ทั้งนี้คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน ก็สามารถที่จะไปซื้อขายต่างประเทศได้ โดยเชื่อว่าภายในปีนี้จะไปซื้อขายสัญญาทองคำในต่างประเทศ เพื่อป้องกันความเสี่ยงของมาร์เกตเมคเกอร์หากราคาทองคำในช่วงเวลากลางคืนมีความผันผวนสูง จากขณะนี้ทางมาร์เกตเมคเกอร์เองอยู่ระหว่างการศึกษาขั้นตอนการปฏิบัติอย่างละเอียด
โดย ทางบล.ทรีนีตี้อยู่ระหว่างการทำระบบเพื่อรองรับการไปเทรดต่างประเทศ และการติดต่อกับโบรกเกอร์ต่างประเทศในเรื่องการเปิดบัญชีซื้อขาย อย่างไรก็ตามแม้ธปท.อนุญาตให้มาร์เกตเมคเกอร์ไปเทรดกองทุนทองคำต่างประเทศได้นั้น แต่ทางบริษัทยังมีการขอให้นักลงทุนรายบุคคลสามารถเทรดกองทุนทองคำในต่างประเทศด้วย ซึ่งขณะนี้คงอยู่ระหว่างการพิจารณาของธปท.
“เดิมเราขอธปท.ไป 2 เรื่อง คือ การให้มาร์เกตเมคเกอร์โกลด์ฟิวเจอร์ไปเทรดกองทุนทองคำในต่างประเทศ และการขอให้นักลงทุนรายบุคคลสามารถเทรดโกลด์ฟิวเจอร์ในช่วงกลางคืนได้นั้น แต่ปัจจุบันอนุญาตมาในส่วนมาร์เกตเมคเกอร์แต่รายย่อยยังไม่อนุญาต ”นายชาญชัย กล่าว
นายอภิชาติ ลักษณะสิริศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.ซี.ออสสิริส ฟิวเจอร์สจำกัด กล่าวว่าการที่ธนาคารแห่งประเทศ อนุมัติวงดังกล่าวให้นั้นถือเป็นเรื่องที่ดี ส่วนทางบริษัทนั้นมีความสนใจในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งคงต้องใช้ระยะเวลาอีกประมาณ 1 เดือน หรืออีก 2 สัปดาห์ที่เหลือของเดือนนี้ เพราะเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) (TFEX) โดยหากทุกอย่างราบรื่นก็จะเข้าไปซื้อขายสัญญาทองคำในในย่านสิงคโปร์ ฮ่องกง เพราะมองว่าเป็นตลาดใกล้บ้าน ซึ่งสามารถติดตามความเคลื่อนไหวและข้อมูลได้ดีกว่าในยุโรป
สำหรับราคาของโกลด์ฟิวเจอร์สในช่วงที่ผ่านมา จะเห็นว่ามีการปรับตัวลงไปมาก จากความกังวลของนักลงทุนที่มองว่าราคาทองคำไม่เซฟเฮฟเว่นแล้ว อีกทั้งมีข่าวออกมาว่าก.ล.ต.ของสหรัฐฯ ออกกฎมาควบคุมการซื้อขายคอมมอดิตี ฟิวเจอร์ส ทำให้ช่วงระยะ 1 เดือนข้างหน้าราคาโกลด์ ฟิวเจอร์ส น่าจะเคลื่อนไหวไปในลักษณะไซด์เวย์อัพ ปัจจัยหลักน่าจะมาจากค่าเงินดอลลาร์และเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมทั้งค่าเงินสกุลใหม่ที่เริ่มมีการพูดถึงกันเรื่อยๆในตอนนี้ โดยราคาน่าจะช่วงระหว่าง 700 -990 เหรียญ/ออนซ์
**คาดก่อนสิ้นเดือนทองแท่ง15,500.-
นายพิชญา พิสุทธิกุล เลขาธิการสมาคมค้าทองคำ กล่าวถึงสาเหตุที่ราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมามีความผันผวนมาก ว่า เกิดจากบรรดากองทุนต่างประเทศมีการเก็งกำไรในระยะสั้น ทำให้ส่วนต่างของราคาเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนมีถึง 700 -800 บาท เพราะเป็นช่วงปิดบัญชีทำให้กองทุนเหล่านี้ต้องเทขาย เพื่อทำให้งบดุลและผลประกอบการของกองทุนดูดี จนเป็นที่สร้างความมั่นใจต่อลูกค้าได้ เพื่อให้การลงทุนในไตรมาส3 มีเม็ดเงินเข้ามาเพิ่มเติม โดยวานนี้ (21ก.ค.) ราคาทองแท่งรับซื้อที่ 15,150 บาท ขาย 15,250 บาท
“ช่วงนี้แม้ราคาทองมีการปรับตัวขึ้น แต่ก็จะเป็นเพียงระยะสั้น และที่ดีขึ้นมาเพียงเพราะค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า ถ้าหากมองในระยะสั้นช่วง 1 เดือนนี้ โดยหากพิจารณาจากความซบเซาของเศรษฐกิจในทุกภูมิภาคราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 890 -960 เหรียญ/ออนซ์ โดยทองคำแท่งอาจปรับตัวขึ้นยืนแถว15,500 บาทได้ในช่วง 2สัปดาห์นี้ แต่ก็จะเป็นเพียงระยะสั้น”นายพิชญา กล่าว
**GBXจีบต่างชาติลงทุนทองคำ
นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก(GLOBLEX) กล่าวว่า มีกลุ่มนักลงทุนจากตะวันออกกลาง และจากสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ด้วย ให้ความสนใจที่จะเข้าลงทุนธุรกิจค้าทองคำกันมาก และมีความสนใจที่จะขยายการลงทุนเข้ามาในไทยด้วย โดยสัปดาห์นี้จะมีการนัดพบกลุ่มนักลงทุนดังกล่าวนี้เข้ามาหารือ หากเป็นไปได้ก็จะมีการลงทุนธุรกิจค้าทองผ่านมาที่ GBX แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปอะไร ส่วนการเปิดเทรดทองคำ 24 ชั่วโมง GBX ระบุว่าได้มีการหารือกับTFEX แล้ว ซึ่งการเทรดทองตลอด 24 ชั่วโมงก็ยังมีความเป็นไปได้