xs
xsm
sm
md
lg

เปิดแผนพัฒนาตลาดทุน คืบหน้า 85% สรุปใน 1 เดือนก่อนชง ครม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รมว.คลัง แจงข่าวดี! แผนพัฒนาตลาดทุนคืบหน้า 85% คาดแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน "กรณ์" เปิดรายละเอียด 8 มาตรการเชิงรุกภายใต้แผนพัฒนาตลาดทุน เตรียมชงเข้า ครม.ภายในเดือน ก.ย.นี้ ลั่นตั้งเป้า มาร์เกตแคปตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น 150% ภายใน 4 ปี



นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุน โดยระบุว่า ได้มีการหารือถึงแผนการพัฒนาโครงสร้างตลาดทุน ซึ่งมีความคืบหน้าไปแล้ว 85% และคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายใน 1 เดือน หลังจากนั้น กระทรวงการคลังจะมีการนำเสนอ 8 มาตรการภายใต้แผนพัฒนาตลาดทุนให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ในเดือนกันยายน 2552 นี้

ทั้งนี้ ตั้งเป้าแผนพัฒนาตลาดทุนดังกล่าวจะทำให้สัดส่วนมูลค่าตลาดรวมของดัชนีหุ้นไทยเมื่อเทียบกับจีดีพีเพิ่มขึ้นถึง 150% ภายในระยะเวลา 4 ปี จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนลดลงเหลือเพียง 2% เท่านั้น ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ขณะที่ก่อนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจมีสัดส่วนอยู่ที่ 10%

สำหรับมาตรการทั้ง 8 ข้อ ประกอบด้วย 1.ยกเลิกการผูกขาดและยกระดับความสามารถในการแข่งขันของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 2.การเปิดเสรีและเพิ่มประสิทธิภาพของสถาบันตัวกลาง 3.การปฏิรูประบบกฎหมายสำหรับการพัฒนาตลาดทุน โดยเฉพาะการแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการถือหุ้นเพื่อพัฒนาตลาดทุนและส่งเสริมการควบรวมกิจ 4.การปรับระบบภาษีสำหรับการพัฒนาตลาดทุนเพื่อส่งเสริมให้เกิดการขยายการลงทุนทั้งในส่วนของผู้ประกอบการและนักลงทุน

5.การพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เช่น การตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน , การออกกรรมธรรม์ประกันภัยแบบบำนาญที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้ 6.การจัดตั้งระบบการออมเพื่อการชราภาพ(กอช.) เพื่อเปิดให้ผู้มีอาชีพอิสระ หรือผู้ที่อยู่นอกระบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนบำเหน็จบำนาญราชการ สามารถเข้าถึงการออมในระยะยาว โดยรัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณอุดหนุนราว 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเร่งเสนอกฎหมายเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรให้ทันภายในปีนี้ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ในต้นเดือนม.ค.ปีหน้า 7.การสร้างวัฒนธรรมการลงทุนผ่านการออมระยะยาวให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง และ 8.การพัฒนาตลาดพันธบัตร

รมว.คลัง กล่าวว่า ในส่วนของการปรับระบบภาษีสำหรับการพัฒนาตลาดทุน ได้แก่ คืนสิทธิประโยชน์เรื่องภาษีกรณีที่มีการควบรวมกิจการกับบริษัทที่เคยได้รับสิทธิประโยชน์เรื่องภาษี , ปรับปรุงการยื่นแบบลงทุนในตราสารหนี้ให้เกิดความกระชับ , ขจัดภาระภาษีเงินได้ที่ซ้ำซ้อนกรณีที่เป็นกลุ่มบริษัท , สนับสนุนการลงทุนผ่านตัวกลางเพื่อลดปัญหาการจัดเก็บภาษีซ้ำซ้อน , ยกเว้นภาษีกรณีโอนย้ายเงินออมในระบบระยะยาว โดยให้สิทธิเลือกที่จะคงไว้หลังเกษียนหรือลงทุนต่อเนื่องเมื่อเปลี่ยนงาน

การยกเว้นภาษีกรณีการออมเพื่อการชราภาพ , ยกเว้นภาษีกรณีถือกรมธรรม์แบบบำนาญ , ยกเว้นภาษีกรณีการระดมทุนตามหลักศาสนาอิสลาม , ยกเว้นภาษีการลงทุนในตลาดพันธบัตร และยกเว้นภาษีสำหรับธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Venture Capital) ในธุรกิจเอสเอ็มอี โดยลดขนาดวงเงินลงทุนจาก 200 ล้านบาท เหลือ 50 ล้านบาท

สำหรับประเด็นการปรับโครงสร้างระบบภาษีใหม่ รมว.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลน่าจะได้ภาษีเพิ่มเข้ามาจากการปรับปรุงระบบภาษี หลังจากผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งทุนก็จะทำให้การทำธุรกิจมีประสิทธิภาพ ทำให้มีผลกำไรสูงขึ้น การปรับปรุงระบบภาษีไม่น่าจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้
กำลังโหลดความคิดเห็น