กรุงไทยติดลมโปรโมทขายหุ้นกู้ภาคเอกชนต่อ หลังยอดขายพันธบัตรออมทรัพย์รัฐบบาลกระฉูด พร้อมขยายธุรกิจ"ธนบดีธนกิจ"ควบคู่ไปด้วย ระบุขณะนี้อยู่ระหว่าดำเนินการขายหุ้นกู้ปตท.อีก 3 หมื่นล้าน พร้อมสรุปขายพันธบัตร 2 รอบรวม 16,300 ล้าน มีผู้จองซื่อรวม 24,077 ราย
นางกิตติยา โตธนะเกษม รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงาน สายงานบริหารการเงิน ธนาคารกรุงไทยกล่าวถึงผลการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็ง ซึ่งกระทรวงการคลังมอบหมายให้ธนาคารจำหน่ายในวงเงิน 16,300 ล้านบาท จากยอดพันธบัตรทั้งสิ้น 80,000 ล้านบาท ว่ามีผู้จองซื้อผ่านสาขาทั่วประเทศของธนาคารจำนวนรวม 24,077 ราย ครอบคลุมทุกจังหวัด โดยธนาคารใช้ระบบแบบจองก่อนมีสิทธิ์ก่อน ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จด้วยดี และในอนาคตหากกระทรวงการคลังออกพันธบัตรจำหน่ายให้กับประชาชนและนักลงทุนอีก ธนาคารก็พร้อมให้ความร่วมมือในการจัดจำหน่ายอย่างเต็มที่
นอกจากการจำหน่ายพันธบัตรแล้ว ธนาคารยังให้บริการจำหน่ายหุ้นกู้ให้กับผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งปีแรกนี้ หุ้นกู้ที่ธนาคารเป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายมีมูลค่าถึง 139,683 ล้านบาท หรือคิดเป็น 66%ของหุ้นกู้ทั้งหมดที่ออกจำหน่ายในช่วงครึ่งปีแรก 212,883 ล้านบาท เช่น หุ้นกู้บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส กลุ่ม ปตท. และปูนซีเมนต์ไทย และขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างดำเนินการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ของ บมจ.ปตท. จำนวน 30,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มผลตอบแทนในการลงทุนในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ในระดับต่ำ รวมทั้งจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อการออมและการลงทุนที่หลากหลายของบริษัทในเครือ เช่น กองทุนรวม และประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
นางกิตติยากล่าวต่อไปว่า ธนาคารตระหนักถึงความไว้วางใจที่ได้รับจากลูกค้าเงินฝากจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์การออมที่มีความมั่นคงสูง ดังนั้น ธนาคารจึงได้ขยายบริการเพื่อสร้างความมั่นคงและเสริมสร้างอิสรภาพทางการเงิน โดยเป็นที่ปรึกษาวางแผนการเงินส่วนบุคคลให้กับลูกค้า ด้วยบริการกรุงไทยธนบดี ที่ฝ่ายธนบดีธนกิจ และมีแผนขยายบริการกรุงไทยธนบดีไปยังสาขาต่างๆ โดยจะให้บริการตรวจสุขภาพทางการเงินและการจัดพอร์ตการลงทุน โดยให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงสำหรับลูกค้าที่มีเวลาจำกัด และต้องการผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงินดูแลและให้คำปรึกษา
นางกิตติยา โตธนะเกษม รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงาน สายงานบริหารการเงิน ธนาคารกรุงไทยกล่าวถึงผลการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็ง ซึ่งกระทรวงการคลังมอบหมายให้ธนาคารจำหน่ายในวงเงิน 16,300 ล้านบาท จากยอดพันธบัตรทั้งสิ้น 80,000 ล้านบาท ว่ามีผู้จองซื้อผ่านสาขาทั่วประเทศของธนาคารจำนวนรวม 24,077 ราย ครอบคลุมทุกจังหวัด โดยธนาคารใช้ระบบแบบจองก่อนมีสิทธิ์ก่อน ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จด้วยดี และในอนาคตหากกระทรวงการคลังออกพันธบัตรจำหน่ายให้กับประชาชนและนักลงทุนอีก ธนาคารก็พร้อมให้ความร่วมมือในการจัดจำหน่ายอย่างเต็มที่
นอกจากการจำหน่ายพันธบัตรแล้ว ธนาคารยังให้บริการจำหน่ายหุ้นกู้ให้กับผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งปีแรกนี้ หุ้นกู้ที่ธนาคารเป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายมีมูลค่าถึง 139,683 ล้านบาท หรือคิดเป็น 66%ของหุ้นกู้ทั้งหมดที่ออกจำหน่ายในช่วงครึ่งปีแรก 212,883 ล้านบาท เช่น หุ้นกู้บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส กลุ่ม ปตท. และปูนซีเมนต์ไทย และขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างดำเนินการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ของ บมจ.ปตท. จำนวน 30,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มผลตอบแทนในการลงทุนในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ในระดับต่ำ รวมทั้งจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อการออมและการลงทุนที่หลากหลายของบริษัทในเครือ เช่น กองทุนรวม และประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
นางกิตติยากล่าวต่อไปว่า ธนาคารตระหนักถึงความไว้วางใจที่ได้รับจากลูกค้าเงินฝากจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์การออมที่มีความมั่นคงสูง ดังนั้น ธนาคารจึงได้ขยายบริการเพื่อสร้างความมั่นคงและเสริมสร้างอิสรภาพทางการเงิน โดยเป็นที่ปรึกษาวางแผนการเงินส่วนบุคคลให้กับลูกค้า ด้วยบริการกรุงไทยธนบดี ที่ฝ่ายธนบดีธนกิจ และมีแผนขยายบริการกรุงไทยธนบดีไปยังสาขาต่างๆ โดยจะให้บริการตรวจสุขภาพทางการเงินและการจัดพอร์ตการลงทุน โดยให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงสำหรับลูกค้าที่มีเวลาจำกัด และต้องการผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงินดูแลและให้คำปรึกษา