คอลัมน์ – เงินทองต้องวางแผน
โดยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)
ครั้งที่ผ่านมาพูดถึงเหตุผล 4 ประการไปแล้วว่า อะไรบ้างที่เป็นเหตุผลที่เราควรต้อง วางแผนการเงินโดยเฉพาะอย่างยิ่งของตัวเองให้รอบคอบ วันนี้เรามาพิจารณากันต่อไปว่า อะไรคือสิ่งที่ต้องคิดต่อไป
เหตุผลข้อที่ 5 : เพราะอยากให้ลูกมีการศึกษาสูงๆ
คนส่วนใหญ่ก็อยากจะให้ลูกเรียนสูง ๆ หรืออย่างน้อยก็สูงกว่าหรือเท่ากับคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ และแนวโน้มค่าใช้จ่ายในการศึกษาก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ นับจากชั้นประถม มัธยม ไปจนถึงมหาวิทยาลัย ลองเทียบค่าใช้จ่ายในปัจจุบันกับสมัยที่เราเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย ถ้าเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐสมัยนั้นแค่ 600 บาท ต่อเทอม แต่วันนี้ค่าเรียนเป็นหมื่นแล้ว แล้วลอง คาดการณ์ดูว่าเมื่อถึงเวลาที่ลูกเราจะต้องเข้ามหาวิทยาลัย ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าไร เราจึงต้องวางแผนเรื่องเงินควบคู่ไปกับการตั้งความหวังว่าอยากให้ลูก ๆ เรียนสูง ๆ เพื่อจะได้เป็นเจ้าคนนายคน และไม่ต้องลำบาก
เหตุผลข้อที่ 6 : เพื่อใช้จ่ายในการจัดงานแต่งงานให้ลูก
ถ้าบังเอิญคุณมีลูกชาย ในสังคมไทยก็หมายความว่าเราจะต้องเตรียมพร้อมที่จะมีเงินไว้ก้อนหนึ่งเพื่อไปสู่ขอผู้หญิงที่ลูกชายของเราอยากจะแต่งงานด้วย และยังมีค่าจัดงานเลี้ยงและอื่นๆ อีกไม่ใช่น้อยๆ เลย หรือถ้ามีลูกสาวก็ต้องเตรียมเงินไว้ให้เพื่อเป็นทุนรอนในการออกไปมีครอบครัวเป็นของตัวเอง
เหตุผลข้อที่ 7 : เพื่อซื้อรถสำหรับใช้
เมื่อตัดสินใจที่จะมีรถแล้วไม่ว่าจะเป็นรถของเราเอง หรือ รถยนต์ให้ลูก นอกจากจะต้องมีค่าใช้จ่ายก้อนโตแล้วในตอนที่ซื้อแล้ว ยังเต็มไปด้วยค่าบำรุงรักษา ค่าทะเบียน ค่าประกันภัย ตลอดอายุการใช้งานของรถยนต์นั้นด้วย แถมยังต้องมาตัดสินใจเลือกอีกว่าจะซื้อเป็นเงินสดหรือจะผ่อนดี ซึ่งจะต้องคิดให้รอบคอบ
เหตุผลข้อที่ 8 : เพื่อซื้อบ้าน
ทุกๆคนก็คงมีเป้าหมายที่จะมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองทั้งสิ้น ถ้าเป็นโสดก็ต้องหาที่อยู่อาศัยและอาจจะง่ายหน่อยที่ไม่ต้องคำนึงถึงหลายเรื่อง แต่ถ้ามีครอบครัวก็ต้องมีเรื่องคู่สมรส เรื่องลูก ๆ หรือแม้แต่ญาติที่มาเข้ามาอยู่อาศัยด้วย รวมไปถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกจิปาถะ แต่เราจะไม่สามารถทำให้ความฝันนั้นเป็นจริงได้เลย ถ้าไม่วางแผนการเงินให้ดี ๆ ล่วงหน้าไว้ก่อน
เหตุผลข้อที่ 9 : เพราะจะได้เลือกเวลาที่จะเกษียณและชีวิตหลังเกษียณได้ตามแบบที่ต้องการ
เราลองคิดเล่น ๆ ดูก็ได้ว่า เพียงแค่คิดว่าเราต้องกินอาหารทุกวัน และลองคิดเล่น ๆว่า ตัวเราวางแผนที่จะเกษียณตอนอายุ 60 ปี คาดว่าจะมีอายุยืนไปถึง 80 ปี หมายถึงหลังเกษียณเราจะมีอายุยืนไป 20 ปี และวันนึงเรากินอาหาร 3 มื้อ นั่นหมายถึงตลอด 365 วัน แต่ละคนจะต้องกินอาหารไปอีกคนละ 21,900 มื้อ และลองสมมุติว่าค่าอาหารเฉลี่ยมื้อละ 100 บาท เราต้องมีเงินสำหรับค่าอาหาร 2,190,000บาท เราจะเอาเงินก้อนนี้มาจากไหนถ้าเราไม่คิดและวางแผนเรื่องเงินตั้งแต่วันนี้ โดยที่ถ้าเราคิดให้ดี ๆ เราก็จะรู้ว่า จริง ๆ แล้วเมื่อบั้นปลายชีวิต เราต้องมีเงินเท่าไหร่ และ เริ่มเก็บเงินเดือนละเท่าไหร่ ลงทุนอย่างไร จึงจะได้เงินตามเป้าหมาย และ สบายเมื่อเกษียณ
พักนี้มีโอกาสได้พบท่านผู้ใหญ่หลายคน หลายคนที่มีเงินไม่พอใช้ในช่วงชีวิตหลังเกษียณ สาเหตุหนึ่งก็เป็นเพราะไม่มีการวางแผนล่วงหน้า พร้อมกับไม่คิดว่าสภาวะแวดล้อมทางสังคม การต้องทำงานของลูกหลานอย่างหนักในปัจจุบันจนแทบไม่มีเวลามาดูแลพ่อแม่ หรือเงินทองที่มีเก็บจะได้ดอกเบี้ยต่ำติดดินอย่างทุกวันนี้จะเกิดขึ้น ทุกอย่างเป็นความไม่แน่นอนทั้งนั้น ดังนั้นจึงต้องมีการวางแผนที่จะมีเงินด้วยเหตุนี้
เพราะตนเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุดแห่งตนนั่นเอง
โดยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)
ครั้งที่ผ่านมาพูดถึงเหตุผล 4 ประการไปแล้วว่า อะไรบ้างที่เป็นเหตุผลที่เราควรต้อง วางแผนการเงินโดยเฉพาะอย่างยิ่งของตัวเองให้รอบคอบ วันนี้เรามาพิจารณากันต่อไปว่า อะไรคือสิ่งที่ต้องคิดต่อไป
เหตุผลข้อที่ 5 : เพราะอยากให้ลูกมีการศึกษาสูงๆ
คนส่วนใหญ่ก็อยากจะให้ลูกเรียนสูง ๆ หรืออย่างน้อยก็สูงกว่าหรือเท่ากับคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ และแนวโน้มค่าใช้จ่ายในการศึกษาก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ นับจากชั้นประถม มัธยม ไปจนถึงมหาวิทยาลัย ลองเทียบค่าใช้จ่ายในปัจจุบันกับสมัยที่เราเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย ถ้าเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐสมัยนั้นแค่ 600 บาท ต่อเทอม แต่วันนี้ค่าเรียนเป็นหมื่นแล้ว แล้วลอง คาดการณ์ดูว่าเมื่อถึงเวลาที่ลูกเราจะต้องเข้ามหาวิทยาลัย ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าไร เราจึงต้องวางแผนเรื่องเงินควบคู่ไปกับการตั้งความหวังว่าอยากให้ลูก ๆ เรียนสูง ๆ เพื่อจะได้เป็นเจ้าคนนายคน และไม่ต้องลำบาก
เหตุผลข้อที่ 6 : เพื่อใช้จ่ายในการจัดงานแต่งงานให้ลูก
ถ้าบังเอิญคุณมีลูกชาย ในสังคมไทยก็หมายความว่าเราจะต้องเตรียมพร้อมที่จะมีเงินไว้ก้อนหนึ่งเพื่อไปสู่ขอผู้หญิงที่ลูกชายของเราอยากจะแต่งงานด้วย และยังมีค่าจัดงานเลี้ยงและอื่นๆ อีกไม่ใช่น้อยๆ เลย หรือถ้ามีลูกสาวก็ต้องเตรียมเงินไว้ให้เพื่อเป็นทุนรอนในการออกไปมีครอบครัวเป็นของตัวเอง
เหตุผลข้อที่ 7 : เพื่อซื้อรถสำหรับใช้
เมื่อตัดสินใจที่จะมีรถแล้วไม่ว่าจะเป็นรถของเราเอง หรือ รถยนต์ให้ลูก นอกจากจะต้องมีค่าใช้จ่ายก้อนโตแล้วในตอนที่ซื้อแล้ว ยังเต็มไปด้วยค่าบำรุงรักษา ค่าทะเบียน ค่าประกันภัย ตลอดอายุการใช้งานของรถยนต์นั้นด้วย แถมยังต้องมาตัดสินใจเลือกอีกว่าจะซื้อเป็นเงินสดหรือจะผ่อนดี ซึ่งจะต้องคิดให้รอบคอบ
เหตุผลข้อที่ 8 : เพื่อซื้อบ้าน
ทุกๆคนก็คงมีเป้าหมายที่จะมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองทั้งสิ้น ถ้าเป็นโสดก็ต้องหาที่อยู่อาศัยและอาจจะง่ายหน่อยที่ไม่ต้องคำนึงถึงหลายเรื่อง แต่ถ้ามีครอบครัวก็ต้องมีเรื่องคู่สมรส เรื่องลูก ๆ หรือแม้แต่ญาติที่มาเข้ามาอยู่อาศัยด้วย รวมไปถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกจิปาถะ แต่เราจะไม่สามารถทำให้ความฝันนั้นเป็นจริงได้เลย ถ้าไม่วางแผนการเงินให้ดี ๆ ล่วงหน้าไว้ก่อน
เหตุผลข้อที่ 9 : เพราะจะได้เลือกเวลาที่จะเกษียณและชีวิตหลังเกษียณได้ตามแบบที่ต้องการ
เราลองคิดเล่น ๆ ดูก็ได้ว่า เพียงแค่คิดว่าเราต้องกินอาหารทุกวัน และลองคิดเล่น ๆว่า ตัวเราวางแผนที่จะเกษียณตอนอายุ 60 ปี คาดว่าจะมีอายุยืนไปถึง 80 ปี หมายถึงหลังเกษียณเราจะมีอายุยืนไป 20 ปี และวันนึงเรากินอาหาร 3 มื้อ นั่นหมายถึงตลอด 365 วัน แต่ละคนจะต้องกินอาหารไปอีกคนละ 21,900 มื้อ และลองสมมุติว่าค่าอาหารเฉลี่ยมื้อละ 100 บาท เราต้องมีเงินสำหรับค่าอาหาร 2,190,000บาท เราจะเอาเงินก้อนนี้มาจากไหนถ้าเราไม่คิดและวางแผนเรื่องเงินตั้งแต่วันนี้ โดยที่ถ้าเราคิดให้ดี ๆ เราก็จะรู้ว่า จริง ๆ แล้วเมื่อบั้นปลายชีวิต เราต้องมีเงินเท่าไหร่ และ เริ่มเก็บเงินเดือนละเท่าไหร่ ลงทุนอย่างไร จึงจะได้เงินตามเป้าหมาย และ สบายเมื่อเกษียณ
พักนี้มีโอกาสได้พบท่านผู้ใหญ่หลายคน หลายคนที่มีเงินไม่พอใช้ในช่วงชีวิตหลังเกษียณ สาเหตุหนึ่งก็เป็นเพราะไม่มีการวางแผนล่วงหน้า พร้อมกับไม่คิดว่าสภาวะแวดล้อมทางสังคม การต้องทำงานของลูกหลานอย่างหนักในปัจจุบันจนแทบไม่มีเวลามาดูแลพ่อแม่ หรือเงินทองที่มีเก็บจะได้ดอกเบี้ยต่ำติดดินอย่างทุกวันนี้จะเกิดขึ้น ทุกอย่างเป็นความไม่แน่นอนทั้งนั้น ดังนั้นจึงต้องมีการวางแผนที่จะมีเงินด้วยเหตุนี้
เพราะตนเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุดแห่งตนนั่นเอง