กรุงไทยเสือปืนไวหลังสบช่องคนแย่งซื้อพันธบัตรไทยเข้มแข็ง เปิดทางเลือกใหม่สะดวกไม่ต้องแย่งเข้าคิวด้วยผลิตภัณฑ์เงินฝากตัวใหม่ 48 เดือน ให้ดอกเบี้ยถึง 3.30% จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน รับฝากขั้นต่ำ 1 หมื่นบาท ตามคาดวานนี้พันธบัตรไทยเข้มแข็งที่เตรียมไว้ 5 หมื่นล้านหมดภายใน 5 นาที
นายอภิศักศิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) เปิดเผยว่า จากการที่มีลูกค้าและประชาชนจำนวนหนึ่งพลาดโอกาสจากการจองซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็ง ดังนั้นเพื่อรองรับความต้องการประชาชนกลุ่มนี้ รวมทั้งลูกค้าที่ประสงค์จะออมเงินระยะยาว ธนาคารจึงได้มอบข้อเสนอพิเศษ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ด้วยผลิตภัณฑ์เงินฝากกรุงไทย 48 เดือน ซึ่งให้อัตราดอกเบี้ยสูงถึง 3.30% ต่อปี และจ่าย ดอกเบี้ยให้กับลูกค้าทุกเดือน ตลอดระยะเวลาการฝากอีกด้วย
ธนาคารรับฝากขั้นต่ำ 10,000 บาท กับลูกค้าทุกกลุ่ม ยกเว้นสถาบันการเงิน กองทุนและบริษัทประกัน ทั้งนี้เพื่อให้ลูกค้ารายย่อยได้รับผลตอบแทนที่ดี โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ที่อาศัยดอกเบี้ยในการยังชีพ ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารให้ความสนใจและดูแลมาอย่างต่อเนื่อง โดยออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงทั้งระยะสั้นและระยะยาว
นอกจากนี้ ธนาคารยังมีผลิตภัณฑ์เงินฝากกรุงไทย 18 เดือน อัตราดอกเบี้ย 1.45% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน รับฝากขั้นต่ำ 10,000 บาท และผลิตภัณฑ์ตั๋วแลกเงินกรุงไทย (KTB B/E) 18 เดือน อัตราดอกเบี้ย 1.65% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ขั้นต่ำ 100,000 บาท สำหรับลูกค้าและประชาชนที่ต้องการลงทุนในระยะสั้น ซึ่งลูกค้าที่สนใจสามารถเปิดบัญชีเงินฝากหรือซื้อตั๋วแลกเงิน โดยไม่จำกัดวงเงินได้ที่ทุกสาขากว่า 850 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป
***พันธบัตรไทยเข้มแข็งยังฮอต
รายงานข่าวจาก 7 ธนาคารพาณิชย์ เกี่ยวกับบรรยากาศการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข็มแข็ง งวดที่ 2 ยังได้รับสนใจอย่างมาก มีประชาชนแห่มาเข้าคิวรอซื้อพันธบัตรฯ ตั้งแต่เช้ามืด แม้ว่ากระทรวงการคลังได้เพิ่มวงเงินพันธบัตรจาก 15,000 ล้านบาท เป็น 50,000 ล้านบาท (ไม่รวม 2 วันแรก ขายแล้ว 3 หมื่นล้านบาท) แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของประชาชนทั่วไปที่สนใจลงทุนในครั้งนี้
ที่บริเวณธนาคารกรุงไทยสำนักงานใหญ่ มีผู้สนใจเดินทางมารอซื้อพันธบัตรตั้งแต่เวลา 04.00 น. โดยธนาคารกรุงไทย ได้รับจัดสรรเพิ่มจากเดิม 3,050 ล้านบาท เป็น 10,200 ล้านบาท ปรากฏว่าเปิดจำหน่ายได้เพียง 10 นาที ก็จำหน่ายหมดทั้งจำนวน ส่วนธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB ได้จัดสรร 3,800 ล้านบาท ซึ่งจำหน่ายหมดภายในเวลา 15 นาที มีผู้สนใจมารอคิดตั้งแต่ 01.00 น.
ในขณะที่ธนาคารที่จำหน่ายหมดภายใน 30 นาที ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ได้รับจัดสรร 11,900 ล้านบาท มีผู้สนใจเดินทางมารอคิวแรกตั้งแต่เวลา 02.00 น. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY ได้รับจัดสรร 5,800 ล้านบาท และธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCIB ได้รับจัดสรร 3,100 ล้านบาท
สำหรับธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ได้ใช้รูปแบบการจำหน่ายพันธบัตร ด้วยการจัดสรรโควตาไปตามสาขา โดยนายกิตติพงษ์ คุ้มมั่น ผู้อำนวยการฝ่ายช่องทางบริการและการขาย ธนาคารกสิกรไทยกล่าวว่าได้รับการจัดสรร 7,800 ล้านบาท
การจำหน่ายพันธบัตรฯ งวดนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนมากกว่าที่ธนาคารประเมินไว้ เพราะจำนวนคิวที่มาจองในครั้งนี้มากกว่างวดที่จำหน่ายให้กับผู้สูงอายุเมื่อวันที่ 13-14 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยงวดนี้จำหน่ายหมดเวลา 11.00 น. เนื่องจากรอสาขาในห้างสรรสินค้าเปิดให้บริการ ส่วนธนาคารไทยพาณิชย์ ได้รับจัดสรร 8,700 ล้านบาท การจำหน่ายหมดในช่วงบ่าย
นายอภิศักศิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) เปิดเผยว่า จากการที่มีลูกค้าและประชาชนจำนวนหนึ่งพลาดโอกาสจากการจองซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็ง ดังนั้นเพื่อรองรับความต้องการประชาชนกลุ่มนี้ รวมทั้งลูกค้าที่ประสงค์จะออมเงินระยะยาว ธนาคารจึงได้มอบข้อเสนอพิเศษ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ด้วยผลิตภัณฑ์เงินฝากกรุงไทย 48 เดือน ซึ่งให้อัตราดอกเบี้ยสูงถึง 3.30% ต่อปี และจ่าย ดอกเบี้ยให้กับลูกค้าทุกเดือน ตลอดระยะเวลาการฝากอีกด้วย
ธนาคารรับฝากขั้นต่ำ 10,000 บาท กับลูกค้าทุกกลุ่ม ยกเว้นสถาบันการเงิน กองทุนและบริษัทประกัน ทั้งนี้เพื่อให้ลูกค้ารายย่อยได้รับผลตอบแทนที่ดี โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ที่อาศัยดอกเบี้ยในการยังชีพ ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารให้ความสนใจและดูแลมาอย่างต่อเนื่อง โดยออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงทั้งระยะสั้นและระยะยาว
นอกจากนี้ ธนาคารยังมีผลิตภัณฑ์เงินฝากกรุงไทย 18 เดือน อัตราดอกเบี้ย 1.45% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน รับฝากขั้นต่ำ 10,000 บาท และผลิตภัณฑ์ตั๋วแลกเงินกรุงไทย (KTB B/E) 18 เดือน อัตราดอกเบี้ย 1.65% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ขั้นต่ำ 100,000 บาท สำหรับลูกค้าและประชาชนที่ต้องการลงทุนในระยะสั้น ซึ่งลูกค้าที่สนใจสามารถเปิดบัญชีเงินฝากหรือซื้อตั๋วแลกเงิน โดยไม่จำกัดวงเงินได้ที่ทุกสาขากว่า 850 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป
***พันธบัตรไทยเข้มแข็งยังฮอต
รายงานข่าวจาก 7 ธนาคารพาณิชย์ เกี่ยวกับบรรยากาศการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข็มแข็ง งวดที่ 2 ยังได้รับสนใจอย่างมาก มีประชาชนแห่มาเข้าคิวรอซื้อพันธบัตรฯ ตั้งแต่เช้ามืด แม้ว่ากระทรวงการคลังได้เพิ่มวงเงินพันธบัตรจาก 15,000 ล้านบาท เป็น 50,000 ล้านบาท (ไม่รวม 2 วันแรก ขายแล้ว 3 หมื่นล้านบาท) แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของประชาชนทั่วไปที่สนใจลงทุนในครั้งนี้
ที่บริเวณธนาคารกรุงไทยสำนักงานใหญ่ มีผู้สนใจเดินทางมารอซื้อพันธบัตรตั้งแต่เวลา 04.00 น. โดยธนาคารกรุงไทย ได้รับจัดสรรเพิ่มจากเดิม 3,050 ล้านบาท เป็น 10,200 ล้านบาท ปรากฏว่าเปิดจำหน่ายได้เพียง 10 นาที ก็จำหน่ายหมดทั้งจำนวน ส่วนธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB ได้จัดสรร 3,800 ล้านบาท ซึ่งจำหน่ายหมดภายในเวลา 15 นาที มีผู้สนใจมารอคิดตั้งแต่ 01.00 น.
ในขณะที่ธนาคารที่จำหน่ายหมดภายใน 30 นาที ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ได้รับจัดสรร 11,900 ล้านบาท มีผู้สนใจเดินทางมารอคิวแรกตั้งแต่เวลา 02.00 น. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY ได้รับจัดสรร 5,800 ล้านบาท และธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCIB ได้รับจัดสรร 3,100 ล้านบาท
สำหรับธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ได้ใช้รูปแบบการจำหน่ายพันธบัตร ด้วยการจัดสรรโควตาไปตามสาขา โดยนายกิตติพงษ์ คุ้มมั่น ผู้อำนวยการฝ่ายช่องทางบริการและการขาย ธนาคารกสิกรไทยกล่าวว่าได้รับการจัดสรร 7,800 ล้านบาท
การจำหน่ายพันธบัตรฯ งวดนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนมากกว่าที่ธนาคารประเมินไว้ เพราะจำนวนคิวที่มาจองในครั้งนี้มากกว่างวดที่จำหน่ายให้กับผู้สูงอายุเมื่อวันที่ 13-14 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยงวดนี้จำหน่ายหมดเวลา 11.00 น. เนื่องจากรอสาขาในห้างสรรสินค้าเปิดให้บริการ ส่วนธนาคารไทยพาณิชย์ ได้รับจัดสรร 8,700 ล้านบาท การจำหน่ายหมดในช่วงบ่าย