xs
xsm
sm
md
lg

‘ปกรณ์’สยบปมขัดแย้งบิ๊กตลท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ปกรณ์” ประธานตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกโรงสยบกระแสความขัดแย้งระหว่างผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ฯ แจงเรื่องเข้าใจผิดที่จะไม่ต่อวาระรองเอ็มดีทั้ง 3 คน อ้างข้อเสนอฝ่ายจัดการได้เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียตามปกติ พร้อมเรียกร้องความเป็นธรรมให้ “ภัทรียา” หลังเสนอให้สรรหาผู้จัดการคนใหม่ แทนการต่อวาระกรรมการผู้จัดการที่จะครบกลางปีหน้า ขณะที่สำนักงานก.ล.ต. ตั้ง “ชาลี” นั่งรองเลขาธิการฯ เพิ่มอีก 1 ตำแหน่ง พร้อมปรับโครงสร้างสายบังคับบัญชาใหม่

นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึง กรณีกระแสข่าวความขัดแย้งภายในองค์กรระหว่างผู้บริหารระดับสูงของตลาดหลักทรัพย์ฯว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเข้าใจผิด โดยการประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา ไม่ได้เป็นการประชุมลับ แต่ได้เลื่อนมาจากการประชุมในวันที่ 27 พฤษภาคม 52 เนื่องจากตนเองติดภารกิจส่วนตัวไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ รวมถึงกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ อีก 2 คนครบวาระ ทำให้ต้องเลื่อนเพื่อให้มีกรรมการใหม่เข้ามาให้ครบก่อน

ทั้งนี้ จากการที่ผู้บริหารระดับสูงของตลาดหลักทรัพย์ฯ จะครบสัญญาจ้างงาน 3 คน คือ นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย นางนงราม วงษ์วานิช และนายสุทธิชัย จิตรวาณิช คณะกรรมการสรรหาได้เสนอแนวทางในการพิจารณาหลายแนวทาง ทั้งการต่อวาระและไม่ต่อวาระ เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย เพื่อเสนอให้คณะกรรมการพิจารณาในการเตรียมความพร้อมในเรื่องทรัพยากรระดับผู้บริหารรองรับการแปรสภาพตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า แม้ว่าขณะนี้ยังมีความไม่แน่นอนในเรื่องการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่

สำหรับสาเหตุที่คณะกรรมการได้มีมติให้ต่อวาระผู้บริหารทั้ง 3 คน เนื่องจากเป็นผู้บริหารที่มีความรู้ความสามารถ และมีผลงานดีในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างเพื่อรองรับการแปรรูป จึงจำเป็นที่ต้องได้ผู้บริหารระดับสูงทุกคนร่วมมือร่วมใจ ระดมสมองในการทำงาน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดไว้

“ผมมองว่าข่าวที่ออกมาไม่เป็นธรรมแก่นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ระบุว่านางภัทรียา ในฐานะบิ๊กของฝ่ายจัดการ เป็นคนเสนอไม่ให้มีการต่อวาระ แต่ในความเป็นจิงนางภัทรียาเอง ได้แสดงความจำนงตั้งแต่แรกว่าไม่ต้องการต่อวาระในการเป็นกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ หลังจากครบกำหนดในกลางปีหน้า และต้องการให้มีการสรรหาเลย แต่ทางบอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นว่ายังไม่จำเป็นต้องรีบ ไว้ค่อยพิจารณาต้นปีหน้ายังทัน” นายปกรณ์ กล่าว

นายปกรณ์ กล่าวยืนยันเพิ่มเติมว่า ภายในองค์กรตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่มีความขัดแย้งแต่อย่างใด และการปรับโครงสร้างภายในตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น ได้มีการประกาศนโยบายอย่างชัดเจนว่า จะไม่มีการบังคับให้พนักงานลาออก แต่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้จัดโครงการเกษียณก่อนกำหนด (เออรี่รีไทร์) ขึ้นเพื่อดูแลพนักงานจากที่มีพนักงานต้องการให้มีการจัดโครงการนี้

โดยตั้งแต่มีการจัดโครงการถึงปัจจุบันมีพนักงานเข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 98 คน และเมื่อรวมกับพนักงานที่ออกตั้งแต่ต้นปีอีก 45 คน ทำให้ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันมีพนักงานออกรวมแล้ว 143 คน ซึ่งใช้เงินในการจ่ายชดเชยพนักงานรวม 180 ล้านบาท ทำให้ปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ฯ เหลือ 800คน จากเดิมที่มีกว่า 900 คน

ก.ล.ต.ตั้งรองเลขาฯเพิ่ม

ด้านสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า สำนักงานก.ล.ต. ได้ แต่งตั้งผู้บริหาร พร้อมทั้งปรับปรุงโครงสร้างสายการบังคับบัญชาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเชิงรุกและก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของตลาดหุ้น โดยระดับผู้บริหาร ได้เพิ่มตำแหน่งรองเลขาธิการอีก 1 ตำแหน่ง โดยแต่งตั้งนายชาลี จันทนยิ่งยง ดำรงตำแหน่ง

รวมทั้ง แต่งตั้งนางวรัชญา ศรีมาจันทร์ เป็นผู้ช่วยเลขาธิการ และรักษาการผู้อำนวยการฝ่ายตรวจสอบตลาดทุน นางปะราลี สุคนธมาน เป็นผู้อำนวยการโครงการบริหารการเปลี่ยนแปลง และนายธวัชชัย เกียรติกวานกุล เป็นผู้อำนวยการฝ่ายกำกับบัญชี

พร้อมกันนี้ ได้ปรับปรุงสายการบังคับบัญชา โดยประสงค์ วินัยแพทย์ รองเลขาธิการฯ เป็นผู้บังคับบัญชาสายงานที่ประกอบด้วย สายงานกำกับดูแลการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ ที่มีนายวสันต์ เทียนหอม ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส ดูแลงานฝ่ายจดทะเบียนหลักทรัพย์ ฝ่ายส่งเสริมบรรษัทภิบาล ฝ่ายงานเลขาธิการ และฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รวมทั้งสายงานกฎหมายและตรวจสอบ ที่มีนางวรัชญา ศรีมาจันทร์ ผู้ช่วยเลขาธิการ ดูแลงานฝ่ายตรวจสอบตลาดทุน ฝ่ายคดี ฝ่ายกฎหมาย และฝ่ายบริหารทั่วไป รวมถึง โครงการบริหารการเปลี่ยนแปลง

ขณะที่ นายชาลี รองเลขาธิการฯ คนใหม่ เป็นผู้บังคับบัญชาสายงานที่ประกอบด้วยสายงานกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ที่มีนายประเวช องอาจสิทธิกุล ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส ดูแลงานฝ่ายกำกับธุรกิจนายหน้าและค้าหลักทรัพย์ ฝ่ายกำกับธุรกิจจัดการลงทุน ฝ่ายใบอนุญาตธุรกิจหลักทรัพย์ และฝ่ายกำกับบัญชีตลาดทุน รวมถึงสายงานกลยุทธ์องค์กร ที่มีนางทิพยสุดา ถาวรามร ผู้ช่วยเลขาธิการ ดูแลงานฝ่ายยุทธศาสตร์และการต่างประเทศ ฝ่ายวิจัยและพัฒนา ฝ่ายกำกับตลาด และฝ่ายทรัพยากรบุคคล

สำหรับการแต่งตั้งผู้บริหารและการปรับปรุงสายงานดังกล่าวของสำนักงานก.ล.ต. มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2552 เป็นต้นไป

***สรุปผลสอบ “วิสิฐ” กลางก.ค.นี้

พร้อมกันนี้ นายปกรณ์ ได้กล่าวในฐานะประธานกรรมการตรวจสอบกรณีนายวิสิฐ ตันติสุนทร อดีตเลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ กบข.ในการรายงานการซื้อขายหุ้นเพื่อบัญชีส่วนตัวและมีกระบวนการลงทุนที่ไม่โปร่ง ว่า ขณะนี้ทางคณะกรรมการตรวจสอบได้มีการสรุปประเด็นการตรวจสอบแล้ว

ทั้งนี้ กระบวนการดำเนินงานเหลือเพียงให้ทางอดีตเลขาธิการกบข.มาชี้แจงข้อกล่าวหาต่างๆ ซึ่งเดิมนั้นได้มีการส่งหนังสือเชิญนัดให้มาชี้แจงในวันพุธที่ 24 มิถุนายน แต่จากการที่นายวิสิฐ มีการเดินทางไปต่างประเทศ และยังติดภาระกิจทำให้กลับมาไม่ทันจึงได้มีการเลื่อนเป็นวันจันทร์ที่ 29 มิถุนายนนี้ แต่จากเป็นวันเดียวกันกับที่มีการประชุมสมาชิกกบข.เช่นกัน จึงต้องมีการเลื่อนออกไปอีกประมาณ 2 สัปดาห์จากำหนดเดิม ซึ่งคาดว่าจะมีการสรุปผลและประกาศผลการตรวจสอบได้ประมาณกลางเดือนกรกฎาคมนี้แน่นอน

สำหรับคณะกรรมการตรวจสอบนั้นพร้อมในการสรุปเรื่องการตรวจสอบแล้ว เพียงแต่เปิดโอกาสให้ทางอดีตเลขธิการได้มีโอกาสเข้ามาชี้แจงข้อกล่าวหา ซึ่งหากให้มีการประกาศผลสรุปออกมาภายในสิ้นเดือนนี้สามารถทำได้ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดในเรื่องผลสรุกการตรวจสอบของคณะกรรมการได้ในขณะนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น