xs
xsm
sm
md
lg

ร้องแก้เสรีคอมฯ หวั่นกระทบ บล.เพิ่มเพดานวอลุ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมาคมโบรกเกอร์ เสนอสำนักงาน ก.ล.ต.ปรับเกณฑ์คำนวณค่าคอมมิชชันแบบขั้นบันไดใหม่ โดยกำหนดมูลค่าการซื้อขายเกิน 100 ล้านบาทขึ้นไป สามารถต่อรองค่าคอมมิชชันเสรีได้ จากเดิมกำหนดไว้ที่ 20 ล้านบาทขึ้นไป หวั่นกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทหลักทรัพย์อย่างรุนแรง ด้าน บล.ธนชาต แจงลูกค้าส่วนใหญ่วอลุ่มเทรด 1-10 ล้านบาท ไม่กระทบหากเปิดให้ต่อรองค่าคอมมิชชันเสรีวอลุ่มมากกว่า 20 ล้านบาทขึ้นได้

นางอัศวินี ไตลังคะ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ ได้มีการเสนอต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) การขอปรับเปลี่ยนการคิดค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ (ค่าคอมมิชชัน) แบบขั้นบันไดที่จะเริ่มในปี 2553 โดยจะขอเพิ่มมูลค่าการซื้อขายในส่วนที่ให้นักลงทุนสามารถต่อรองค่าธรรมเนียมกับโบรกเกอร์อย่างเสรีเป็น 100 ล้านบาท จากเดิมที่กำหนดมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 20 ล้านบาทขึ้นไปสามารถต่อรองได้เสรี

โดยสาเหตุที่มีการขอแก้ไขครั้งนี้ เนื่องจากลูกค้าโบรกเกอร์ส่วนใหญ่มีมูลค่าการซื้อขายประมาณ 20 ล้านบาท หากเปิดให้มีการต่อรองค่าคอมได้อย่างเสรีจะกระทบต่อผลการดำเนินงานของบล.อย่างรุนแรง เพราะจากเดิมที่นักลงทุนมีการส่งคำสั่งซื้อขายหลายโบรกเกอร์ หากมีการเปิดให้ต่อรองค่าคอมฯเสรีได้ในระดับมูลค่าการซื้อขายที่ 20 ล้านบาทขึ้นไป อาจจะทำให้นักลงทุนหันมาส่งคำสั่งซื้อขายกับโบรกเกอร์รายเดียว และจะส่งผลให้ค่าคอมมิชชันเฉลี่ยเมื่อรวมกับค่าคอมมิชชั่นผ่านอินเทอร์เน็ตแล้ว จะลดลงจากปัจจุบันถึง 60% จึงทำให้โบรกเกอร์อยู่รอดยาก แต่หากเพิ่มวอลุ่มเป็น 100 ล้านบาท จะทำให้ บล.สามารถอยู่รอดได้

สำหรับขณะนี้ทางสมาคมโบรกเกอร์อยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องการขอแก้ไขข้อกำหนดในการคิดค่าคอมมิชชันแบบขั้นบันได ก่อนจะทยอยส่งข้อมูลให้สำนักงาน ก.ล.ต. พิจารณาต่อไป โดยเกณฑ์คิดอัตราค่าคอมมิชชันขั้นบันไดที่กำหนดไว้ ซึ่งมี 4 ขั้น คือ หากวอลุ่มการซื้อขายไม่เกิน 1 ล้านบาท คิดค่าคอมมิชชัน 0.25% วอลุ่มเทรดมากกว่า 1 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาท คิดค่าคอมมิชชัน 0.22% และวอลุ่มเทรดมากกว่า 10 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 20 ล้านบาท คิดค่าคอมมิชชัน 0.18% และวอลุ่มมากกว่า 20 ล้านบาทขึ้นไปให้สามารถต่อรองเสรีได้ ซึ่งจะใช้ในวันที่1 มกราคม 2553-31 ธันวาคม 2554 หลังจากนั้น จะมีการเปิดเสรีค่าคอมมิชชันในปี 2555

“สมาคมโบรกเกอร์ได้มีการเสนอกับ ก.ล.ต.ในการขอปรับเพิ่มวอลุ่มเทรดเป็น 100 ล้านบาท ให้สามารถต่อรองเสรีได้ จากเกณฑ์เดิมที่กำหนดว่าวอลุ่มเทรดหากมากกว่า 20 ล้านบาทให้ต่อรองค่าคอมมัชชันเสรีได้ ตั้งแต่การประชุมร่วมกับก.ล.ต.ในครั้งที่ผ่านมาแล้ว ขณะนี้สมาคมโบรกเกอร์อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเพิ่มที่จะเสนอไปยัง ก.ล.ต.อีกครั้ง” นางอัศวินี กล่าว

นางอัศวินี กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทได้มีการประเมินแล้วว่า เมื่อมีการบังคับใช้ค่าคอมมิชชันแบบขั้นบันไดในปี 2553 นั้น หากมีการเปิดให้มีการต่อรองเสรีค่าคอมมิชชันที่วอลุ่มมากกว่า 20 ล้านบาทขึ้นไป จะไม่ส่งผลกระทบกับบริษัท เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทมีการซื้อขายอยู่ที่ 1-10 ล้านบาทขึ้นไป ทำให้ค่าคอมมิชชันของบริษัทจะอยู่ที่ช่วงประมาณ 0.25-0.22% ขณะที่มีลูกค้าที่มีวอลุ่มซื้อขายมากกว่า 20 ล้านบาทไม่มากนัก

พร้อมกันนี้ ได้ประเมินผลการดำเนินงานของบริษัทหลักทรัพย์ในไตรมาส 2/52 ว่า โบรกเกอร์ทุกแห่งคาดว่าจะสามารถทำกำไรได้ เนื่องจากมูลค่าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/52 โดยส่วนตัวคาดว่าวอลุ่มเฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ 15,000 ล้านบาทต่อวัน ขณะที่ บล.ธนชาต มีจุดคุ้มทุนที่วอลุ่มเทรดอยู่ที่ 9,000 ล้านบาทต่อวัน ภายใต้ส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์) ที่ 4% ดังนั้น บริษัทจะสามารถทำกำไรได้ในกรณีที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันสูงกว่า 9,000 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น