xs
xsm
sm
md
lg

แอร์พอร์ตลิงก์เลื่อนเปิดปลายปี บิ๊ก ร.ฟ.ท.ห่วงเปิดเร็วขาดทุนเร็ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้บริหาร ร.ฟ.ท.คาด แผนเปิด “แอร์พอร์ตลิงก์” 12 ส.ค.เลื่อนแน่ หลังแผนฟื้นฟูฯ ยังไม่คืบ ย้ำชัด วิ่งไม่ทันก็ไม่เป็นไร เพราะเปิดเร็วก็ขาดทุนเร็ว พร้อมคาดเปิดได้ 5 ธ.ค.ปีนี้ ยืนยัน ยังอยากให้เอกชนเดินรถ

นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ยอมรับกำหนดเปิดเดินรถโครงการระบบรถไฟฟ้าเชื่อมต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกับสถานีรับส่งผู้โดยสารภายในเมือง (แอร์พอร์ตลิงก์) มีแนวโน้มที่จะต้องเลื่อนจากเดิม 12 สิงหาคม 2552 ไปเป็น 5 ธันวาคม 2552 เนื่องจากการจัดตั้งบริษัทเดินรถ รฟท.ล่าช้าออกไป ขณะที่ที่ปรึกษาวิศวกรอิสระ (ICE) ยังไม่ได้ตรวจสอบระบบความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล รวมทั้งมีแนวโน้มผู้รับเหมาจะขยายเวลาการก่อสร้าง

ส่วนการที่จะเปิดให้เอกชนเข้ามาประมูลบริหารการเดินรถตามแนวคิดของ รัฐมนตรีช่วงว่าการกระทรวงการคลัง คงทำไม่ได้ในขณะนี้ เนื่องจาก ร.ฟ.ท.กำหนดแผนงานตั้งแต่ต้นที่จะให้บริษัทเดินรถที่เป็นบริษัทลูกของ ร.ฟ.ท.เป็นผู้บริหารจัดการเดินรถเอง และการเปิดให้เอกชนยังต้องเข้ากระบวนการตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนรัฐวิสาหกิจ ซึ่งอาจทำให้กำหนดเปิดเดินรถยิ่งล่าช้าออกไป

“สรุปง่ายๆ ชัดๆ คือ วิ่งไม่ทันก็ไม่เป็นไร เพราะรัฐบาลอาจจะมองว่าเปิดเร็วก็ขาดทุนเร็ว แต่ถ้าเป้าหมายเปลี่ยนให้เอกชนมาวิ่ง คำตอบคือต้องนับหนึ่งใหม่ ต้องไปเคลียร์กับสหภาพ ต้องเข้า พ.ร.บ.ร่วมทุน ความเป็นไปได้ตรงนี้ถ้าถามผมว่ามี แต่ไม่ใช่วันนี้ เป็นเรื่องในอนาคต แต่ตอนนี้ต้องทำไปก่อนเพราะกำลังจะเสร็จ เพราะฉะนั้นเอกชนมีสิทธิ์เข้ามาเดินรถไหม ตอบว่า มีแน่ แต่คงไม่ใช่วันนี้”

นายยุทธนา ระบุว่า หากจะนำเอกชนมาเดินรถในขณะนี้ คงจะกลายเป็นปัญหาถ่วงการเดินรถได้ เพราะสหภาพพนักงาน รฟท. คงไม่ยอม และต้องศึกษาเรื่อง พ.ร.บ.ร่วมทุนอีก ขณะที่ ร.ฟ.ท.มีแผนจะว่าจ้างบริษัท Deutsche Bahn International (DBI) จากเยอรมนี เพื่อเดินรถสายแอร์พอร์ตลิ้งค์ ในช่วง 2 ปีแรกไปก่อน

นายยุทธนา กล่าวว่า ถ้าเปิดให้เอกชนเดินรถก็ต้องคุยกันตั้งแต่วันแรกที่สร้าง เพราะนโยบายเดิมของรัฐบาล โครงการนี้เป็นของ ร.ฟ.ท.และรัฐจะลงทุนเองทั้งหมด แต่หากปรับแผนให้เอกชนมาร่วมทุนทำ ตุ้นทูนโครงการจะเปลี่ยนแปลง ซึ่งควรจะตั้งบริษัทร่วมทุนเอกชนตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว ฉะนั้น ขณะนี้ก็ยังเป็นแผนเดิมที่จะจ้างบริษัทที้ปรึกษาเดินรถก่อนพร้อมกับให้พนักงานเรียนรู้การเดินรถไปด้วยประมาณ 2 ปี

สำหรับแผนฟื้นฟูกิจการ ร.ฟ.ท.ขณะนี้ นายยุทธนา ยอมรับว่า ยังไม่ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ฉะนั้น การจัดตั้งบริษัทลูก คือ บริษัทเดินรถ ร.ฟ.ท.จึงยังล่าช้าออกไป ขณะที่ ICE ก็ยังไม่สามารถออกไปตรวจสอบระบบความปลอดภัยได้ อีกทั้งบริษัทรับเหมาก็อาจจะใช้สิทธิขยายเวลาก่อสร้างอีก ถีงแม้ว่าตอนนี้มีความคืบหน้าไป 98% แต่ก็เกรงว่าจะไม่พร้อมส่งมอบงาน

“ตอนนี้เชื่อมั่นว่า ตามกำหนด 12 สิงหาคม 2552 คงเปิดไม่ได้แล้ว เพราะบริษัทลูกยังไม่มี และยังไม่มีการทดสอบระบบที่ใช้เวลา 3 เดือน มีปัจจัยไม่เอื้อ เราก็เอาใหม่ว่าเป็นเดือนธันวาคม 2552 นี้ จะเป็นไปได้ไหม เป้าหมายอยากให้เปิดให้บริการเลย แต่นี่เป็นความตั้งใจ แต่นี่กรณี Best Case ผมอยากจะเปิดใจจะขาด แต่ในเมื่อสิงหาคมไม่ได้ก็ไปธันวาคม บริษัทลูกก็ยังไม่ได้ตั้งอีก แผนฟิ้นฟูไม่นำเข้าพิจารณา กระบวนการล่าช้าไป แต่ก็คิดว่าสัปดาห์หน้า ครม.จะพิจารณา”

ทั้งนี้ ตามแผนฟื้นฟูกิจการ ร.ฟ.ท.จะมีการแยกการบริหาร โดยจัดตั้งบริษัทลูก 2 บริษัท ได้แก่ บริษัทเดินรถที่ รฟท.ถือหุ้น 100% และบริษัทบริหารสินทรัพย์ ซึ่งรวมถึงสัญญาเช่าพื้นที่กับเอกชน

อย่างไรก็ตาม ตามเป้าหมายใหม่ที่จะเปิดให้บริการแอร์พอร์ตลิงก์ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2552 นั้น ตอนนี้มีขบวนรถไฟฟ้าพร้อมแล้ว โดยมีจำนวนรถไฟฟ้า 31 ตู้ แบ่งเป็นท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(เอ็กซ์เพรส ไลน์) 4 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้ และรถไฟฟ้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้บริการสถานีพญาไท-สุวรรณภูมิ 5 ขบวน ขบวนละ 3 ตู้ โดยวิ่งได้ 20-30 เที่ยวต่อวัน

นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า กลุ่มกิจการร่วมค้า บี.กริมม์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งมีบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC เป็นแกนนำกำหนดว่างานก่อสร้างโครงสร้างงานโยธาและการติดตั้งระบบรางและระบบไฟฟ้าเครื่องกล (E&M) จะต้องเสร็จในต้นเดือนสิงหาคม 2552 จากนั้นจะต้องมีการทดสอบการเชื่อมต่อระบบ (integrate) อีกประมาณ 3 เดือน และมีกำหนดส่งมอบงานทั้งหมดอย่างเป็นทางการให้ ร.ฟ.ท.ในเดือนพฤศจิกายน 2552 นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น