เอ็กซิมแบงก์เดินหน้าประกันสินเชื่อส่งออกให้ลูกค้าอิสลามแบงก์ หวังช่วยเสริมตลาดส่งออกใหม่ในแถบตะวันออกกลาง โดยเฉพาะธุรกิจอาหารฮาลาลที่มีมูลค่าการนำเข้าทั่วโลกสูงถึง 2.65 แสนล้านดอลล์ พร้อมปรับลดเป้าสินเชื่อปีนี้ลงเล็กน้อย หลังสินเชื่อไตรมาสแรกยังต่ำกว่าเป้า
นายอภิชัย บุญธีรวร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ธนาคารได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงการให้ความร่วมมือภายใต้บริการประกันการส่งออกกับธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(ธอท.)หรือ iBank เพื่อรับประกันการส่งออกให้กับลูกค้าธนาคารอิสลาม เพราะช่วยกระตุ้นและขยายตลาดส่งออกของไทยไปยังตลาดใหม่ในแถบตะวันออกกลาง โดยเฉพาะธุรกิจส่งออกสินค้าอาหารฮาลาล ซึ่งเป็นตลาดที่น่าจับตา จากมูลค่าการนำเข้าทั่วโลกที่สูงถึง 2.65 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี จากผู้บริโภคทั่วโลกที่นับถือศาสนาอิสลาม 1,800 ล้านคนและยังได้รับความนิยมมากขึ้นจากผู้ที่ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลามด้วย
นายอภิชัยกล่าวต่อว่า ลูกค้าเป้าหมายของโครงการดังกล่าวจะมาจากทั้งที่เป็นลูกค้าของธสน.และลูกค้าประเภทสถาบัน โดยคาดว่ากระบวนการดังกล่าวจะเสร็จใน 1-2 เดือนก็น่าจะเดินหน้าได้ แต่หลังจากได้เงินสนับสนุนจากรัฐบาล ก็น่าจะปล่อยสินเชื่อก้อนใหญ่ได้ เพราะความสามารถในการปล่อยสินเชื่อธนาคารจะทำได้ 5 เท่า ของเงินกองทุน หากธนาคารสามารถเพิ่มทุนได้ 5 พันล้านบาท น่าจะมีความสามารถรับประกันสินเชื่อได้ถึง 1-1.5 แสนล้านบาทใน 1 ปี แต่ก็ขึ้นกับความต้องการกู้เงินของลูกค้าด้วย
นายอภิชัยกล่าวถึงเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อปีนี้ว่า จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนที่มียอดสินเชื่อประมาณ 5-5.2 หมื่นล้านบาท แต่ขณะนี้คาดว่าจะปรับเป้าหมายลงเล็กน้อยจากส่งออกที่ชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจตัว เนื่องจากตัวเลขสินเชื่อไตรมาสแรกที่ออกมาต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)อยู่ที่ระดับ 5 พันล้านบาทหรือคิดเป็น 9-10% ของสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นประมาณ 1 พันล้านบาทจากสิ้นปี ขณะนี้เริ่มชะลอตัวลง
สำหรับปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้น โดยหลักการค่าเงินที่แข็งขึ้นจะทำให้ขายสินค้าได้ยากขึ้น แต่ปัจจุบันพบว่าการส่งออกที่ชะลอลงมาจากฐานะการเงินและภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆมากกว่า การที่ค่าเงินบาทแข็งขึ้น โดยจะเห็นว่ากลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากจะเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ประเภท อัญมณี เฟอร์นิเจอร์ แต่ยังมีกลุ่มที่ส่งออกได้ดี ประเภทอาหารกระป๋อง โดยเฉพาะทูน่ากระป๋องเพราะเป็นโปรตีนถูกที่สุดและภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้คนใช้จ่ายกับกิจกรรมนอกบ้านหรือกิจกรรมฟุ่มเฟือยน้อยลง
นายแพทย์พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า การเพิ่มทุนของธนาคารรัฐอยู่ในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 ภายใต้วงเงิน 1.49 หมื่นล้านบาท โดยจะเป็นส่วนของธสน. 3-5 พันล้านบาท ซึ่งหากพ.ร.ก.ผ่านการพิจารณาจะรัฐสภา ก็คาดว่าจะมีความคืบหน้าในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น
นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(ธอท.)กล่าวว่า ขณะนี้มีลูกค้าที่มึความต้องการส่งออกไปยังประเทศซูดานและแอฟริกาใต้ แต่มีปัญหาได้รับผลกระทบจากการชำระเงินล่าช้า ซึ่งมีมูลค่าประมาณรวม 6 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะมาใช้บริการค้ำประกันการส่งออกจากธสน.ประมาณ 4 พันล้าบาท ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้ามีความมั่นใจในการส่งออกมากขึ้น รวมถึงประเทศในยุโรปตะวันออกที่เริ่มมีคำสั่งซื้อในสินค้าอาหารกระป๋องเข้ามาจำนวนมาก โดยเฉพาะทูน่ากระป๋องที่เพิ่มขึ้นถึง 40%
นายอภิชัย บุญธีรวร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ธนาคารได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงการให้ความร่วมมือภายใต้บริการประกันการส่งออกกับธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(ธอท.)หรือ iBank เพื่อรับประกันการส่งออกให้กับลูกค้าธนาคารอิสลาม เพราะช่วยกระตุ้นและขยายตลาดส่งออกของไทยไปยังตลาดใหม่ในแถบตะวันออกกลาง โดยเฉพาะธุรกิจส่งออกสินค้าอาหารฮาลาล ซึ่งเป็นตลาดที่น่าจับตา จากมูลค่าการนำเข้าทั่วโลกที่สูงถึง 2.65 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี จากผู้บริโภคทั่วโลกที่นับถือศาสนาอิสลาม 1,800 ล้านคนและยังได้รับความนิยมมากขึ้นจากผู้ที่ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลามด้วย
นายอภิชัยกล่าวต่อว่า ลูกค้าเป้าหมายของโครงการดังกล่าวจะมาจากทั้งที่เป็นลูกค้าของธสน.และลูกค้าประเภทสถาบัน โดยคาดว่ากระบวนการดังกล่าวจะเสร็จใน 1-2 เดือนก็น่าจะเดินหน้าได้ แต่หลังจากได้เงินสนับสนุนจากรัฐบาล ก็น่าจะปล่อยสินเชื่อก้อนใหญ่ได้ เพราะความสามารถในการปล่อยสินเชื่อธนาคารจะทำได้ 5 เท่า ของเงินกองทุน หากธนาคารสามารถเพิ่มทุนได้ 5 พันล้านบาท น่าจะมีความสามารถรับประกันสินเชื่อได้ถึง 1-1.5 แสนล้านบาทใน 1 ปี แต่ก็ขึ้นกับความต้องการกู้เงินของลูกค้าด้วย
นายอภิชัยกล่าวถึงเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อปีนี้ว่า จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนที่มียอดสินเชื่อประมาณ 5-5.2 หมื่นล้านบาท แต่ขณะนี้คาดว่าจะปรับเป้าหมายลงเล็กน้อยจากส่งออกที่ชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจตัว เนื่องจากตัวเลขสินเชื่อไตรมาสแรกที่ออกมาต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)อยู่ที่ระดับ 5 พันล้านบาทหรือคิดเป็น 9-10% ของสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นประมาณ 1 พันล้านบาทจากสิ้นปี ขณะนี้เริ่มชะลอตัวลง
สำหรับปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้น โดยหลักการค่าเงินที่แข็งขึ้นจะทำให้ขายสินค้าได้ยากขึ้น แต่ปัจจุบันพบว่าการส่งออกที่ชะลอลงมาจากฐานะการเงินและภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆมากกว่า การที่ค่าเงินบาทแข็งขึ้น โดยจะเห็นว่ากลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากจะเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ประเภท อัญมณี เฟอร์นิเจอร์ แต่ยังมีกลุ่มที่ส่งออกได้ดี ประเภทอาหารกระป๋อง โดยเฉพาะทูน่ากระป๋องเพราะเป็นโปรตีนถูกที่สุดและภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้คนใช้จ่ายกับกิจกรรมนอกบ้านหรือกิจกรรมฟุ่มเฟือยน้อยลง
นายแพทย์พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า การเพิ่มทุนของธนาคารรัฐอยู่ในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 ภายใต้วงเงิน 1.49 หมื่นล้านบาท โดยจะเป็นส่วนของธสน. 3-5 พันล้านบาท ซึ่งหากพ.ร.ก.ผ่านการพิจารณาจะรัฐสภา ก็คาดว่าจะมีความคืบหน้าในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น
นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(ธอท.)กล่าวว่า ขณะนี้มีลูกค้าที่มึความต้องการส่งออกไปยังประเทศซูดานและแอฟริกาใต้ แต่มีปัญหาได้รับผลกระทบจากการชำระเงินล่าช้า ซึ่งมีมูลค่าประมาณรวม 6 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะมาใช้บริการค้ำประกันการส่งออกจากธสน.ประมาณ 4 พันล้าบาท ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้ามีความมั่นใจในการส่งออกมากขึ้น รวมถึงประเทศในยุโรปตะวันออกที่เริ่มมีคำสั่งซื้อในสินค้าอาหารกระป๋องเข้ามาจำนวนมาก โดยเฉพาะทูน่ากระป๋องที่เพิ่มขึ้นถึง 40%
