ตลาด mai ไตรมาสแรกอวดกำไรรวม 322 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันปี 51 ที่ทำไว้ 838 ล้านบาท หรือลดลง 62% โอ่ 35 บริษัท ใน mai สามารถทำกำไรได้ต่อเนื่อง และ 1 ใน 3 ของบริษัททั้งหมดยังสามารถสร้างผลกำไรเพิ่มเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการ กลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์ฯ และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) 52 แห่งนำส่งผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี52 สิ้นสุด 31 มีนาคม 52 โดยมีกำไรสุทธิรวม 322 ล้านบาทลดลง 62 % จากยอดกำไร 838 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่สูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่มีผลกำไรรวม 67ล้านบาท โดยบริษัทที่มีกำไรสุทธิมี 35 บริษัท หรือคิดเป็น 2 ใน 3 ของบริษัทจดทะเบียนใน mai ทั้งหมด และมีถึง 17 บริษัทมีผลประกอบการดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับยอดขายของบริษัทจดทะเบียนใน mai ไตรมาส 1 ปีนี้อยู่ที่ 11,065 ล้านบาท ลดลงเพียง 0.5 % จากไตรมาส 1 ปี 51 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่บริษัทจดทะเบียนบางแห่งมียอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะบริษัทในธุรกิจบริการเฉพาะด้านที่มีลูกค้าในประเทศหรือมีสัญญาให้บริการ ได้ทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม บริษัท ส่วนใหญ่มียอดขายชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจในไตรมาส 1 ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิ ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนใน mai สามารถบริหารต้นทุนขายได้ดี ทำให้รักษาระดับกำไรขั้นต้นเฉลี่ยในไตรมาส 1 ปีนี้ไว้ได้ที่ 20 % ใกล้เคียงกับ 21% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และมีบริษัทถึง 20 แห่งที่มีระดับอัตรากำไรขั้นต้นดีกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณารายละเอียดของกำไรสุทธิที่ลดลง 62 % นั้น หากไม่นำยอดขาดทุน 185 ล้านบาทของ บมจ.ดราก้อน วัน (D1) ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งคอมพานีที่ขาดทุนจากการด้อยค่าของเงินลงทุนในบริษัทย่อยมารวม บริษัทใน mai จะมีกำไรรวมเพิ่มขึ้นเป็น 507 ล้านบาท หรือลดลง 41 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการ กลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์ฯ และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) 52 แห่งนำส่งผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี52 สิ้นสุด 31 มีนาคม 52 โดยมีกำไรสุทธิรวม 322 ล้านบาทลดลง 62 % จากยอดกำไร 838 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่สูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่มีผลกำไรรวม 67ล้านบาท โดยบริษัทที่มีกำไรสุทธิมี 35 บริษัท หรือคิดเป็น 2 ใน 3 ของบริษัทจดทะเบียนใน mai ทั้งหมด และมีถึง 17 บริษัทมีผลประกอบการดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับยอดขายของบริษัทจดทะเบียนใน mai ไตรมาส 1 ปีนี้อยู่ที่ 11,065 ล้านบาท ลดลงเพียง 0.5 % จากไตรมาส 1 ปี 51 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่บริษัทจดทะเบียนบางแห่งมียอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะบริษัทในธุรกิจบริการเฉพาะด้านที่มีลูกค้าในประเทศหรือมีสัญญาให้บริการ ได้ทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม บริษัท ส่วนใหญ่มียอดขายชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจในไตรมาส 1 ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิ ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนใน mai สามารถบริหารต้นทุนขายได้ดี ทำให้รักษาระดับกำไรขั้นต้นเฉลี่ยในไตรมาส 1 ปีนี้ไว้ได้ที่ 20 % ใกล้เคียงกับ 21% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และมีบริษัทถึง 20 แห่งที่มีระดับอัตรากำไรขั้นต้นดีกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณารายละเอียดของกำไรสุทธิที่ลดลง 62 % นั้น หากไม่นำยอดขาดทุน 185 ล้านบาทของ บมจ.ดราก้อน วัน (D1) ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งคอมพานีที่ขาดทุนจากการด้อยค่าของเงินลงทุนในบริษัทย่อยมารวม บริษัทใน mai จะมีกำไรรวมเพิ่มขึ้นเป็น 507 ล้านบาท หรือลดลง 41 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน