จัดสรรโอดน้ำมันปรับ-วัสดุก่อสร้างตัวต่อเนื่อง ส่งผลต้นทุนก่อสร้างบ้านปรับตัว10-15% ขณะบ้านแพงกระทบหนักต้นทุนราคาวัสดุกระทบต้นทุนก่อสร้างกว่า 75% ด้านCMC เตรียมปรับราคาบ้าน10-15% ตามต้นทุนใหม่ พร้อมเปิดตัวโครงการใหม่2ไตรมาสท้าย7 โครงการ แจงแนวสูง4 แนวราบ 3 มูลค่าขายรวม 2,400 ล้านบาท
นายวิเชียร แพทยานันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด หรือ CMC กล่าวว่า การปรับตัวของราคาน้ำมัน และวัสดุก่อสร้าง ในช่วงที่ผ่านมาส่งผลต่อต้นทุนการก่อสร้างบ้าน และโครงการคอนโดมิเนียมปรับตัวสูงขึ้น10-15% ในขณะที่บ้านตลาดบ้านหรูระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไปได้รับผลกระทบมากที่สุดโดยต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลต่อต้นทุนก่อสร้างเพิ่มสูงขึ้น 75% ทำให้ในช่วงไตรมาสที่ 3-4 ของปีนี้ CMC มีแผนจะปรับราคาขายบ้านระดับกลางและคอนโดมิเนียมขึ้นอีก 10-15% ในขณะที่บ้านระดับบนในโครงการ เดอะ ริช พระราม2 นั้นจะปรับขึ้นประมาณ15% ในเฟสที่2 ส่วนเฟสแรกจะยังคงราคาขายเดิมอยู่
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวต่อเนื่องทำให้ต้นทุนก่อสร้างปรับสูงขึ้น ในขณะเดียวกันก็ส่งผลต่อรายได้และค่าครองชีพของลูกค้า ทำให้ในขณะนี้ลูกค้าเข้าชมโครงการคอนโดมิเนียมน้อยลง เนื่องจากไม่มั่นใจในกำลังซื้อของตนเอง ในขณะเดียวกันก็ส่งผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าให้เร็วขึ้นเช่นกัน เนื่องจากลูกค้าต้องการลดภาระจากการเดินทาง อย่างไรก็ดีการปรับราคาขายบ้านและคอนโดมิเนียมนั้นจะต้องรอดูภาวะราคาวัสดุก่อสร้างก่อน
สำหรับในปีนี้ บริษัทมีแผนการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 3 และ4 รวม7โครงการ มูลค่ารวม 2,400ล้านบาทแบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 4โครงการมูลค่ารวมประมาณ 1,200 ล้านบาท ประกอบด้วย แบรนด์ แบงค์คอก ฮอไรซอนราคาขายต่อตารางเมตร 40,000 บาทต่อ ตร.ม.2 โครงการ แบรนด์ชาโต้อินทาวน์ ราคาขาย 50,000-60,000บาทต่อ ตร.ม. 1โครงการและแบรนด์ แบงค์คอก เฟริช ราคาขาย 100,000 บาทต่อ ตร.ม. 1โครงการ
ส่วนโครงการแนวราบจะเปิดตัวโครงการใหม่รวม3 โครงการมูลค่ารวม 1,200ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการบ้านเดี่ยวกินรี ราคา5-7ล้านบาท จำนวน 100ยูนิต ย่านบางมดพื้นที่พัฒนาโครงการ 14 ไร่ โครงการทาวน์เฮาส์ คาซ่ายูเรก้า ระดับราคา 2-3 บ้านบาท จำนวน100 ยูนิต และโครงการโฮมออฟฟิช ระดับราคาซ่าดีวา ระดับราคา 4-6 ล้านบาท จำนวน50 ยูนิต โดยในส่วนของโครงการ เดอะริช นั้นบริษัทคาดว่าจะเปิดขายในไตรมาส2นี้ และจะสามารถปิดการขายในเฟสแรกได้ในไตรมาส2 เช่นกัน
นายวิเชียร แพทยานันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด หรือ CMC กล่าวว่า การปรับตัวของราคาน้ำมัน และวัสดุก่อสร้าง ในช่วงที่ผ่านมาส่งผลต่อต้นทุนการก่อสร้างบ้าน และโครงการคอนโดมิเนียมปรับตัวสูงขึ้น10-15% ในขณะที่บ้านตลาดบ้านหรูระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไปได้รับผลกระทบมากที่สุดโดยต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลต่อต้นทุนก่อสร้างเพิ่มสูงขึ้น 75% ทำให้ในช่วงไตรมาสที่ 3-4 ของปีนี้ CMC มีแผนจะปรับราคาขายบ้านระดับกลางและคอนโดมิเนียมขึ้นอีก 10-15% ในขณะที่บ้านระดับบนในโครงการ เดอะ ริช พระราม2 นั้นจะปรับขึ้นประมาณ15% ในเฟสที่2 ส่วนเฟสแรกจะยังคงราคาขายเดิมอยู่
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวต่อเนื่องทำให้ต้นทุนก่อสร้างปรับสูงขึ้น ในขณะเดียวกันก็ส่งผลต่อรายได้และค่าครองชีพของลูกค้า ทำให้ในขณะนี้ลูกค้าเข้าชมโครงการคอนโดมิเนียมน้อยลง เนื่องจากไม่มั่นใจในกำลังซื้อของตนเอง ในขณะเดียวกันก็ส่งผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าให้เร็วขึ้นเช่นกัน เนื่องจากลูกค้าต้องการลดภาระจากการเดินทาง อย่างไรก็ดีการปรับราคาขายบ้านและคอนโดมิเนียมนั้นจะต้องรอดูภาวะราคาวัสดุก่อสร้างก่อน
สำหรับในปีนี้ บริษัทมีแผนการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 3 และ4 รวม7โครงการ มูลค่ารวม 2,400ล้านบาทแบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 4โครงการมูลค่ารวมประมาณ 1,200 ล้านบาท ประกอบด้วย แบรนด์ แบงค์คอก ฮอไรซอนราคาขายต่อตารางเมตร 40,000 บาทต่อ ตร.ม.2 โครงการ แบรนด์ชาโต้อินทาวน์ ราคาขาย 50,000-60,000บาทต่อ ตร.ม. 1โครงการและแบรนด์ แบงค์คอก เฟริช ราคาขาย 100,000 บาทต่อ ตร.ม. 1โครงการ
ส่วนโครงการแนวราบจะเปิดตัวโครงการใหม่รวม3 โครงการมูลค่ารวม 1,200ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการบ้านเดี่ยวกินรี ราคา5-7ล้านบาท จำนวน 100ยูนิต ย่านบางมดพื้นที่พัฒนาโครงการ 14 ไร่ โครงการทาวน์เฮาส์ คาซ่ายูเรก้า ระดับราคา 2-3 บ้านบาท จำนวน100 ยูนิต และโครงการโฮมออฟฟิช ระดับราคาซ่าดีวา ระดับราคา 4-6 ล้านบาท จำนวน50 ยูนิต โดยในส่วนของโครงการ เดอะริช นั้นบริษัทคาดว่าจะเปิดขายในไตรมาส2นี้ และจะสามารถปิดการขายในเฟสแรกได้ในไตรมาส2 เช่นกัน