“ท่าอากาศยานไทย” กำไรสุทธิไตรมาส 2 ลดฮวบ 51% เหลือเพียง 1,832 ล้านบาท โดยเฉพาะงวด 6 เดือน เหลือแค่ 153 ล้านบาท ฉุดกำไรสุทธิต่อหุ้นเหลือ 0.11 บาท เหตุชวดรับรู้รายได้จาก “คิงพาวเวอร์”ตามที่ศาลแพ่งได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษา
นางสุภาภรณ์ บุรพกุศลศรี รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานแผนงานและการเงิน) บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT เปิดเผยถึงผลดำเนินงานของAOT ในงวดไตรมาส 2/2552 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,832.91 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 2/2551 ซึ่งกำไรสุทธิ 3,157.58 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้นลดลงเหลือเพียง 1.28 บาท จากงวดเดียวกันในปีที่แล้วซึ่งมี 2.21 บาท/หุ้น
ขณะเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบเป็นงวด 6 เดือน กลับพบว่ากำไรสุทธิของบริษัทยิ่งลดลงมากขึ้นโดยเหลือเพียง 153.60 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิงวด 6 เดือนในปี 2551 บริษัทมีกำไรถึง 3,497.06 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้กำไรต่อหุ้นในงวด 6 เดือนปีนี้เหลือ 0.11 บาท/หุ้น จากงวดเดียวกันในปี2551 ซึ่งมี 2.45 บาท/หุ้น
โดยการที่ผลดำเนินงานของบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงเกินร้อยละ 20 นี้ บริษัทชี้แจงว่า เนื่องจากผลการดำเนินงาน ไตรมาสที่ 2 ปี 2552 เริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม - 31 มีนาคม 2552 ของบริษัทฯและบริษัทย่อย มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 5,740.32 ล้านบาท ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานรวม 4,365.99 ล้านบาท ทำให้มีกำไรจากการดำเนินงาน 1,374.33 ล้านบาท ลดลง 1,434.15 ล้านบาท หรือร้อยละ 51.06 เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานของไตรมาสที่ 2 ปี 2551
อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมรายได้อื่น 170.20 ล้านบาท กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน978.13 ล้านบาท ดอกเบี้ยจ่ายและค่าใช้จ่ายอื่น 631.80 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิของส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยจำนวน 22.37 ล้านบาทแล้ว จะทำให้ AOT มีกำไรสุทธิหลังภาษีเงินได้ 1,832.91 ล้านบาท เปลี่ยนแปลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิจำนวน 3,157.58 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 1,324.67 ล้านบาท หรือร้อยละ 41.95
ทั้งนี้ สาเหตุหลักของการลดลงของผลประกอบการ เกิดจากไตรมาสที่ 2 ปี 2551 ได้รับรู้รายได้ของบริษัทเอกชนรายหนึ่งในโครงการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรย้อนหลังตั้งแต่เริ่มเปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (28 กันยายน 2549) จำนวนรวมทั้งสิ้น 3,030.88 ล้านบาท ตามที่ศาลแพ่งได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษา ส่งผลให้กำไรสุทธิของปีนี้ลดลงเกินร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับปีก่อน
นางสุภาภรณ์ บุรพกุศลศรี รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานแผนงานและการเงิน) บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT เปิดเผยถึงผลดำเนินงานของAOT ในงวดไตรมาส 2/2552 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,832.91 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 2/2551 ซึ่งกำไรสุทธิ 3,157.58 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้นลดลงเหลือเพียง 1.28 บาท จากงวดเดียวกันในปีที่แล้วซึ่งมี 2.21 บาท/หุ้น
ขณะเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบเป็นงวด 6 เดือน กลับพบว่ากำไรสุทธิของบริษัทยิ่งลดลงมากขึ้นโดยเหลือเพียง 153.60 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิงวด 6 เดือนในปี 2551 บริษัทมีกำไรถึง 3,497.06 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้กำไรต่อหุ้นในงวด 6 เดือนปีนี้เหลือ 0.11 บาท/หุ้น จากงวดเดียวกันในปี2551 ซึ่งมี 2.45 บาท/หุ้น
โดยการที่ผลดำเนินงานของบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงเกินร้อยละ 20 นี้ บริษัทชี้แจงว่า เนื่องจากผลการดำเนินงาน ไตรมาสที่ 2 ปี 2552 เริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม - 31 มีนาคม 2552 ของบริษัทฯและบริษัทย่อย มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 5,740.32 ล้านบาท ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานรวม 4,365.99 ล้านบาท ทำให้มีกำไรจากการดำเนินงาน 1,374.33 ล้านบาท ลดลง 1,434.15 ล้านบาท หรือร้อยละ 51.06 เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานของไตรมาสที่ 2 ปี 2551
อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมรายได้อื่น 170.20 ล้านบาท กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน978.13 ล้านบาท ดอกเบี้ยจ่ายและค่าใช้จ่ายอื่น 631.80 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิของส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยจำนวน 22.37 ล้านบาทแล้ว จะทำให้ AOT มีกำไรสุทธิหลังภาษีเงินได้ 1,832.91 ล้านบาท เปลี่ยนแปลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิจำนวน 3,157.58 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 1,324.67 ล้านบาท หรือร้อยละ 41.95
ทั้งนี้ สาเหตุหลักของการลดลงของผลประกอบการ เกิดจากไตรมาสที่ 2 ปี 2551 ได้รับรู้รายได้ของบริษัทเอกชนรายหนึ่งในโครงการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรย้อนหลังตั้งแต่เริ่มเปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (28 กันยายน 2549) จำนวนรวมทั้งสิ้น 3,030.88 ล้านบาท ตามที่ศาลแพ่งได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษา ส่งผลให้กำไรสุทธิของปีนี้ลดลงเกินร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับปีก่อน