xs
xsm
sm
md
lg

"APF"ชี้ไทยยังเนื้อหอม-แนะรัฐเร่งลงทุนพื้นฐาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอพีเอฟกรุ๊ป ไม่หวั่นปัญหาการเมืองไทยกระทบการลงทุนของกลุ่ม ชี้เป็นโอกาสการลงทุนที่ดีในสินทรัพย์ราคาถูก ย้ำยังสนใจอสังหาริมทรัพย์ และนอนแบงก์ ระบุพร้อมลงทุนทันทีหากสถานการณ์เอื้อ พร้อมแนะแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ฝากรัฐบาลเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รองรับการลงทุนและเพื่อประสิทธิภาพแก่ผู้ประกอบการ ชี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญ ชี้ชะตาเศรษฐกิจไทย ติดลบหรือไม่

มร.มิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอเชียพาร์ทเนอร์ชิพ ฟันด์ กรุ๊ป (APF Group) หรือกองทุน เอพีเอฟ เปิดเผยถึง สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศไทยว่า เศรษฐกิจประเทศไทยในขณะนี้ ถือว่ายังมีความน่าลงทุนและมองว่าเป็นโอกาสในการลงทุนที่ดี เนื่องจากสินทรัพย์ต่างๆมีราคาที่ถูก โดยเฉพาะการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ประเภทออฟฟิตและรีสอร์ท รวมถึงการลงทุนในสถาบันการเงินที่ไม่ใช่แบงก์ ซึ่งถือว่าสินทรัพย์ดังกล่าวในประเทศไทยนั้น ยังมีความแข็งแกร่งและน่าลงทุนอยู่ ซึ่งทางกลุ่มเองได้มีการลงทุนอยู่ในสินทรัพย์ดังกล่าวเช่นเดียวกันและพร้อมที่จะเพิ่มสินทรัพย์เข้าไปลงทุนอีกหากสถานการณ์เหมาะสม

ทั้งนี้ แม้จะเกิดสถานการณ์ความไม่ปกติทางการเมืองขึ้นในประเทศไทยแต่ มร. มิทซึจิ มองว่า สถานการณ์ทางการเมืองดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้น แม้ว่าจะส่งผลกระทบต่อนักลงทุนในด้านของจิตวิทยาถึง 99% ก็ตาม แต่มองว่า สถานการณ์ความไม่ปกติทางการเมืองนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะแต่ในประเทศไทยเท่านั้น ทั่วโลกก็เกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้เช่นกัน

"ความไม่ปกติทางการเมืองของไทยที่เกิดขึ้น เป็นกระบวนการที่มีความจำเป็น เพื่อจะนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่าแต่เรากลับมองว่าเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะสามารถปรับปรุงบริษัทให้มีความแข็งแกร่งขึ้นไปอีก ซึ่งเราไม่ได้กลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่อย่างไร เรายังชอบและรักประเทศไทยอยู่ " มร. มิทซึจิ กล่าว

สำหรับในเรื่องของการท่องเที่ยวในประเทศไทยนั้น มองว่า การท่องเที่ยวของประเทศไทยไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คาดกันไว้ แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ปิดสนามบินจนมีการมองกันว่าธุรกิจการท่องเที่ยวของไทยอาจจะประสบปัญหาเป็นระยะเวลา 1 ปี แต่หลังจากเหตุการณ์การปิดสนามบินจบลงแล้วสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวก็กลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในระยะเวลาเพียง 3-4 สัปดาห์เท่านั้น ขณะเดียวกันในส่วนของธุรกิจรีสอร์ทท่องเที่ยวบนเกาะพีพีนั้น มีผลการประกอบการหลังจากผ่านช่วงไตรมาสที่ 1 ออกมาดีที่สุดที่เคยมีมาโดยมีอัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวสูงถึง 80%

สำหรับแผนการงานของเอพีเอฟกรุ๊ปในปีนี้ มร. มิทซึจิ กล่าวว่า ยังคงแผนการดำเนินงานเหมือนกับในปีที่ผ่านมา โดยยังคงให้ความสนใจกับสินทรัพย์ประเภทอสังหาริมทรัพย์และสถาบันการเงินอยู่ ซึ่งหากมีโอกาสที่เหมาะสมและมีเป้าหมายที่ดี ก็จะเข้าลงทุนทันที
ขณะที่ความคืบหน้าทางด้านของ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูไนเต็ด ในเรื่องของการเจรจากับพันธมิตรในตะวันออกให้เข้ามาลงทุนนั้น ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการพูดคุยกันอยู่

ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยังระบุด้วยว่า สิ่งที่รัฐบาลควรดำเนินการเพื่อรองรับการลงทุนทั้งในและต่างประเทศนั้น คือ การดำเนินการในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สำคัญสำหรับการลงทุน โดยหากเศรษฐกิจของไทยมีการระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ดีพอ ผู้ประกอบการก็จะได้รับประโยชน์และดำเนินกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพมร. มิทซึจิ ยังกล่าวถึง ภาวะเศรษฐกิจโลกด้วยว่า วิกฤตเศรษฐกิจในขณะนี้อาจจะฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่คาดไว้จากในปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เป็เพราะรัฐบาลทั่วโลกได้ช่วยกันดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งในเรื่องของการลดดอกเบี้ยรวมถึงการอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเคลื่อนตัวไปในทิศทางที่ดีได้เร็วขึ้น

ส่วนประเทศไทยนั้น จากที่มีการมองว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยในปีนี้อาจจะติบลบนั้น ผู้บริหาร เอพีเอฟ กรุ๊ป มองว่า เศรษฐกิจของไทยในปีนี้จะติดลบหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะสามารถอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบในการดำเนินการในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานได้มากน้อยเพียงใด หากรัฐบาลอัดฉีดเงินในเรื่องดังกล่าวไม่เพียงพอ อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้อาจมีแนวโน้มที่จะติดลบได้
กำลังโหลดความคิดเห็น