N-Park แจ้งปรับโครงสร้างหนี้แบงก์กรุงไทย มูลหนี้ 859.90 ล้านบาท โอนที่ดินโครงการบางกระเจ้า มูลค่า 422.88 ล้านบาท กำหนดซื้อคืนภายใน 2 ปี ดอกเบี้ย MLR ต่อปี ที่เหลือ 437.02 ล้านบาท ผ่อนชำระเดือนละไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท นาน 24 เดือน
นายจุมพลภัทร์ พูลทรัพย์ ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ N-Park ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์กรณี การปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ว่า ตามที่บริษัทได้กู้ยืมเงินจากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 1,898 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งบริษัทได้ทยอยชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นผลให้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 บริษัทมีเงินต้นค้างชำระ 859.90 ล้านบาท ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผู้บริหารได้เจรจาขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับธนาคารอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2552 บริษัทได้ลงนามในสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับธนาคารเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นไปตามมติของที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2552 โดยทางธนาคารตกลงขยายระยะเวลาชำระหนี้ออกไปอีก 2 ปี นับจากเดือนที่ได้ลงนามในสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และคิดดอกเบี้ยในอัตรา MLR ต่อปี โดยมีเงื่อนไขในการผ่อนปรนการชำระหนี้ โดยสรุปดังนี้
1. บริษัทต้องโอนที่ดินรวม 292 โฉนด พร้อมสิ่งปลูกสร้าง (โครงการบางกระเจ้า) ที่ได้จำนองเป็นประกันไว้กับธนาคาร กรรมสิทธิ์ของบริษัท แนเชอรัล โปรเจ็ค เจ้าพระยา จำกัด (บริษัทย่อย) เพื่อชำระคืนหนี้เงินต้น โดย
มีราคาโอน 422.88 ล้านบาท แต่บริษัทต้องซื้อคืนที่ดินดังกล่าวภายในระยะเวลา 2 ปี ในราคาโอนบวกค่าถือครองในอัตรา MLR ต่อปี
2. ภาระหนี้เงินต้นส่วนที่เหลือจำนวน 437.02 ล้านบาท ให้บริษัทผ่อนชำระคืนเงินต้นเดือนละไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท เป็นเวลา 24 เดือน นอกจากนั้น ให้บริษัททยอยนำหุ้นสามัญบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
("SIRI") จำนวน 62,721,231 หุ้น, บริษัท ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ("SYNTEC") จำนวน 190,000,000 หุ้นและหน่วยลงทุนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ยูโอบี อะพาร์ทเม้นท์ หนึ่ง ("UOBAPF") จำนวน 23,000,000 หน่วย ที่ได้จำนำไว้กับธนาคารออกขายเพื่อชำระหนี้
3. ภาระดอกเบี้ยในอัตรา MLR ต่อปี ที่เกิดขึ้นจากภาระหนี้เงินต้นในข้อ 2. ให้ตั้งพักชำระไว้ก่อนจนกว่าบริษัทจะชำระหนี้เงินต้นครบถ้วนแล้ว, 4. ณ วันโอนที่ดิน บริษัทชำระดอกเบี้ยคงค้างในอัตราร้อยละ MLR+2 ต่อปี เป็นเงินจำนวนไม่เกิน 30 ล้านบาท (สุทธิจากค่าใช้จ่ายในการโอนที่ดิน) โดยส่วนที่เกินให้ตั้งพักไว้และชำระเมื่อบริษัททยอยขายหุ้นในข้อ 2. และ5. ณ วันโอนที่ดิน ธนาคารจะยกดอกเบี้ยคงค้างในอัตราผิดนัดส่วนที่เกินจากอัตราร้อยละ MLR+2 ต่อปี ให้ทันทีเป็นจำนวนเท่ากับค่าใช้จ่ายในการโอนที่ดิน ส่วนที่เหลือธนาคารจะยกให้เมื่อชำระหนี้เสร็จสิ้น
สำหรับการโอนที่ดินที่บริษัทต้องซื้อคืน ตามเงื่อนไขในข้อ 1. บริษัทยึดตามหลักความระมัดระวัง(conservative) โดยถือเสมือนว่าเป็นการทำรายการขายแบบไม่มีเงื่อนไขต้องซื้อคืน ตามกฎเกณฑ์รายการจำหน่ายไปซึ่ง
สินทรัพย์ตามประกาศของคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ทจ. 20/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน มีขนาดรายการเท่ากับร้อยละ 12.65 ตามเกณฑ์มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน ซึ่งคณะกรรมการบริษัทสามารถอนุมัติการเข้าทำรายการดังกล่าวได้และบริษัทไม่ต้องแจ้งสารสนเทศให้ผู้ถือหุ้นทราบ อย่างไรก็ดี สำหรับการขายหุ้นสามัญ SIRI, SYNTEC และหน่วยลงทุน UOBAPF ตามเงื่อนไขในข้อ 2. จะต้องอยู่ภายใต้มติของที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท ครั้งที่ 1/2552 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2552
ส่วนกรณีข้อพิพาทระหว่างบริษัทไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด ยื่นฟ้องแนเชอรัล พาร์ค เมื่อปี 2542 ก่อนเข้าสู่กระบวรการฟื้นฟูกิจการ คิดเป็นมูลหนี้หุ้นกู้ 260.30 ล้านบาท กระทั้งเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 51 N-Park ได้รับคำพิพากษาที่เป็นลายลักษณ์อักษรและมีรายละเอียดครบถ้วนจาก ศาลแพ่ง ให้ แนเชอรัล พาร์ค ชำระหนี้พร้อมดอกเบี้ยให้แก่ ไทยสมุทร
กระทั้งเมื่อปลายปี 51 ได้ตกประนีประนอมยอมความ โดยบริษัทจะชำระเงินจำนวน 200 ล้านบาท เพื่อยุติคดีแพ่งและคดีล้มละลาย ไทยสมุทร จะถอนอุทธรณ์ คดีล้มละลาย ภายใน 4 เดือน หากบริษัทโอนชำระหนี้ครบถ้วน ภายในวันที่ 20 ตุลาคม 2552 การชำระเงินแบ่งเป็นงวดๆภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2552 ซึ่งเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2552 บริษัทได้ชำระเงินงวดแรกจำนวน 75 ล้าน บาท และได้ชำระงวดที่ 2 เป็นเช็คจำนวน 19,893,270 บาท ให้แก่ไทยสมุทรเรียบร้อยแล้ว
นายจุมพลภัทร์ พูลทรัพย์ ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ N-Park ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์กรณี การปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ว่า ตามที่บริษัทได้กู้ยืมเงินจากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 1,898 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งบริษัทได้ทยอยชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นผลให้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 บริษัทมีเงินต้นค้างชำระ 859.90 ล้านบาท ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผู้บริหารได้เจรจาขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับธนาคารอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2552 บริษัทได้ลงนามในสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับธนาคารเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นไปตามมติของที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2552 โดยทางธนาคารตกลงขยายระยะเวลาชำระหนี้ออกไปอีก 2 ปี นับจากเดือนที่ได้ลงนามในสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และคิดดอกเบี้ยในอัตรา MLR ต่อปี โดยมีเงื่อนไขในการผ่อนปรนการชำระหนี้ โดยสรุปดังนี้
1. บริษัทต้องโอนที่ดินรวม 292 โฉนด พร้อมสิ่งปลูกสร้าง (โครงการบางกระเจ้า) ที่ได้จำนองเป็นประกันไว้กับธนาคาร กรรมสิทธิ์ของบริษัท แนเชอรัล โปรเจ็ค เจ้าพระยา จำกัด (บริษัทย่อย) เพื่อชำระคืนหนี้เงินต้น โดย
มีราคาโอน 422.88 ล้านบาท แต่บริษัทต้องซื้อคืนที่ดินดังกล่าวภายในระยะเวลา 2 ปี ในราคาโอนบวกค่าถือครองในอัตรา MLR ต่อปี
2. ภาระหนี้เงินต้นส่วนที่เหลือจำนวน 437.02 ล้านบาท ให้บริษัทผ่อนชำระคืนเงินต้นเดือนละไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท เป็นเวลา 24 เดือน นอกจากนั้น ให้บริษัททยอยนำหุ้นสามัญบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
("SIRI") จำนวน 62,721,231 หุ้น, บริษัท ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ("SYNTEC") จำนวน 190,000,000 หุ้นและหน่วยลงทุนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ยูโอบี อะพาร์ทเม้นท์ หนึ่ง ("UOBAPF") จำนวน 23,000,000 หน่วย ที่ได้จำนำไว้กับธนาคารออกขายเพื่อชำระหนี้
3. ภาระดอกเบี้ยในอัตรา MLR ต่อปี ที่เกิดขึ้นจากภาระหนี้เงินต้นในข้อ 2. ให้ตั้งพักชำระไว้ก่อนจนกว่าบริษัทจะชำระหนี้เงินต้นครบถ้วนแล้ว, 4. ณ วันโอนที่ดิน บริษัทชำระดอกเบี้ยคงค้างในอัตราร้อยละ MLR+2 ต่อปี เป็นเงินจำนวนไม่เกิน 30 ล้านบาท (สุทธิจากค่าใช้จ่ายในการโอนที่ดิน) โดยส่วนที่เกินให้ตั้งพักไว้และชำระเมื่อบริษัททยอยขายหุ้นในข้อ 2. และ5. ณ วันโอนที่ดิน ธนาคารจะยกดอกเบี้ยคงค้างในอัตราผิดนัดส่วนที่เกินจากอัตราร้อยละ MLR+2 ต่อปี ให้ทันทีเป็นจำนวนเท่ากับค่าใช้จ่ายในการโอนที่ดิน ส่วนที่เหลือธนาคารจะยกให้เมื่อชำระหนี้เสร็จสิ้น
สำหรับการโอนที่ดินที่บริษัทต้องซื้อคืน ตามเงื่อนไขในข้อ 1. บริษัทยึดตามหลักความระมัดระวัง(conservative) โดยถือเสมือนว่าเป็นการทำรายการขายแบบไม่มีเงื่อนไขต้องซื้อคืน ตามกฎเกณฑ์รายการจำหน่ายไปซึ่ง
สินทรัพย์ตามประกาศของคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ทจ. 20/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน มีขนาดรายการเท่ากับร้อยละ 12.65 ตามเกณฑ์มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน ซึ่งคณะกรรมการบริษัทสามารถอนุมัติการเข้าทำรายการดังกล่าวได้และบริษัทไม่ต้องแจ้งสารสนเทศให้ผู้ถือหุ้นทราบ อย่างไรก็ดี สำหรับการขายหุ้นสามัญ SIRI, SYNTEC และหน่วยลงทุน UOBAPF ตามเงื่อนไขในข้อ 2. จะต้องอยู่ภายใต้มติของที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท ครั้งที่ 1/2552 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2552
ส่วนกรณีข้อพิพาทระหว่างบริษัทไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด ยื่นฟ้องแนเชอรัล พาร์ค เมื่อปี 2542 ก่อนเข้าสู่กระบวรการฟื้นฟูกิจการ คิดเป็นมูลหนี้หุ้นกู้ 260.30 ล้านบาท กระทั้งเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 51 N-Park ได้รับคำพิพากษาที่เป็นลายลักษณ์อักษรและมีรายละเอียดครบถ้วนจาก ศาลแพ่ง ให้ แนเชอรัล พาร์ค ชำระหนี้พร้อมดอกเบี้ยให้แก่ ไทยสมุทร
กระทั้งเมื่อปลายปี 51 ได้ตกประนีประนอมยอมความ โดยบริษัทจะชำระเงินจำนวน 200 ล้านบาท เพื่อยุติคดีแพ่งและคดีล้มละลาย ไทยสมุทร จะถอนอุทธรณ์ คดีล้มละลาย ภายใน 4 เดือน หากบริษัทโอนชำระหนี้ครบถ้วน ภายในวันที่ 20 ตุลาคม 2552 การชำระเงินแบ่งเป็นงวดๆภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2552 ซึ่งเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2552 บริษัทได้ชำระเงินงวดแรกจำนวน 75 ล้าน บาท และได้ชำระงวดที่ 2 เป็นเช็คจำนวน 19,893,270 บาท ให้แก่ไทยสมุทรเรียบร้อยแล้ว