ผู้ถือหุ้นN-PARK ยกมือเพิ่มทุน 4.8 หมื่นล้านหุ้น เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิม 1 ต่อ 4 ราคา 0.01 บาท ส่งผลให้เกิดไดรูทเพียง 24% จากแผนเดิมจะไดรูทถึง 33% พร้อมไฟเขียวขายเงินลงทุนบริษัท 5 แห่ง โดยมีเงื่อนไขหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องขายไม่ต่ำกว่าราคาเทรดในกระดาน เตรียมนำเงิน 75 ล้านบาทชำระหนี้ให้ไทยสมุทรฯ วันนี้
นายเสริมสิน สะมะลาภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แนเชอรัลพาร์ค จำกัด(มหาชน) (N-PARK) แจ้งมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นวานนี้ว่าผู้ถือหุ้นให้เปลี่ยนแปลงแผนเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็นเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน 4.8 หมื่นล้านหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 4 หุ้นใหม่ ที่ราคา 0.01 บาทหุ้น ทำให้ต้องเพิ่มทุนเป็น 60,430,920,000 หุ้น ขณะที่แผนเดิมบริษัทจะเพิ่มทุน 24,172,368,000 บาท จากทุนจดทะเบียน 12,086,184,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 36,258,552,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่ 24,172,368,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 1 บาท เสนอขายให้ผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 2 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 0.02 บาท
เนื่องจากผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่เห็นว่าการเพิ่มทุน 1 ต่อ 4 นั้น เปอร์เซ็นต์หุ้นถูกไดรูทจะต่ำลงเพียง 24% เมื่อเทียบกับ 1 ต่อ 2 หุ้นจะไดรูทลงถึง 33% และยังจะซื้อหุ้นได้ในราคาถูกด้วย ขณะที่การซื้อหุ้นที่ราคาหุ้นละ 0.01 บาท ถือว่าเป็นราคาที่ต่ำมากและคงไม่ต่ำไปกว่านี้แล้ว และอนาคตก็จะมีกำไรหากราคาหุ้นดีดกลับ ซึ่งผู้ถือหุ้นก็มีสิทธิใช้สิทธิซื้อหุ้นเก็บได้อีกเท่าตัว
นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นยังเห็นชอบให้ขายหุ้นของบริษัทอื่นที่ถือหุ้นอยู่ คือ หุ้นสามัญ ของ Kyoto Resorts YK (Kyoto) 66.7% ของทุนชำระแล้ว และสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินให้กู้ยืมและดอกเบี้ยค้างรับจาก Kyoto, หน่วยลงทุนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ยูโอบี อะพาร์ทเมนท์ หนึ่ง (UOBAPF) 27.06% ของหน่วยลงทุนที่ชำระแล้ว, หุ้นสามัญของ บมจ. รถไฟฟ้ากรุงเทพ (BMCL) 2.68% ของทุนชำระแล้ว, หุ้นสามัญของ บมจ. แสนสิริ (SIRI) 4.26% ของทุนชำระแล้ว และ หุ้นสามัญของ บมจ. ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น (SYNTEC) 11.88% ของทุนชำระแล้ว โดยเฉพาะหุ้น 4 ตัวหลังมีเงื่อนไขต้องขายในราคาที่ไม่ต่ำกว่าราคาปิดของหุ้นในวันก่อนหน้าที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติกำหนดราคาเสนอขาย
โดยได้รับการยืนยันกรณีขายเงินลงทุนของบริษัท 4 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จาก "นายเสริมสิน สมะลาภา" ว่า จะขายสินทรัพย์เหล่านี้มื่อถึงเวลาที่เหมาะสม หรือถ้าจำเป็นต้องขายก็จะเลือกขายหุ้นที่มีราคาดี เพื่อที่จะได้เงินมาใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน
นายเสริมสินกล่าวว่า นอกเหนือจากนี้ ผู้ถือหุ้นยังเสนอให้ขายสินทรัพย์ในโครงการที่ไม่มีความชำนาญหรือไม่เป็นประโยชน์ต่อบริษัทในอนาคตออกไป ซึ่งคณะกรรมการรับที่จะนำไปพิจารณา และการที่ผู้ถือหุ้นอนุมัติในเรื่องที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ถือเป็นทางออกที่ดีและช่วยให้บริษัทมีทางออกในการบริหารงานเพื่อความอยู่รอด ทั้งการปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารกรุงไทย 860 ล้านบาท ภายใน 2 ปี หรือแม้แต่การเดินหน้าลุยโครงการต่าง ๆ ที่ค้างคามานานให้ลุล่วงไปด้วยดี
ขณะที่วันนี้ (3 ก.พ.52) บริษัทมีนัดทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับไทยสมุทรประกันชีวิตและศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาตามยอม ซึ่งบริษัทจะชำระเงินสดก้อนแรกไปจ่ายให้เจ้าหนี้ 75 ล้านบาท ตามสัญญา
นายเสริมสิน สะมะลาภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แนเชอรัลพาร์ค จำกัด(มหาชน) (N-PARK) แจ้งมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นวานนี้ว่าผู้ถือหุ้นให้เปลี่ยนแปลงแผนเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็นเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน 4.8 หมื่นล้านหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 4 หุ้นใหม่ ที่ราคา 0.01 บาทหุ้น ทำให้ต้องเพิ่มทุนเป็น 60,430,920,000 หุ้น ขณะที่แผนเดิมบริษัทจะเพิ่มทุน 24,172,368,000 บาท จากทุนจดทะเบียน 12,086,184,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 36,258,552,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่ 24,172,368,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 1 บาท เสนอขายให้ผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 2 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 0.02 บาท
เนื่องจากผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่เห็นว่าการเพิ่มทุน 1 ต่อ 4 นั้น เปอร์เซ็นต์หุ้นถูกไดรูทจะต่ำลงเพียง 24% เมื่อเทียบกับ 1 ต่อ 2 หุ้นจะไดรูทลงถึง 33% และยังจะซื้อหุ้นได้ในราคาถูกด้วย ขณะที่การซื้อหุ้นที่ราคาหุ้นละ 0.01 บาท ถือว่าเป็นราคาที่ต่ำมากและคงไม่ต่ำไปกว่านี้แล้ว และอนาคตก็จะมีกำไรหากราคาหุ้นดีดกลับ ซึ่งผู้ถือหุ้นก็มีสิทธิใช้สิทธิซื้อหุ้นเก็บได้อีกเท่าตัว
นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นยังเห็นชอบให้ขายหุ้นของบริษัทอื่นที่ถือหุ้นอยู่ คือ หุ้นสามัญ ของ Kyoto Resorts YK (Kyoto) 66.7% ของทุนชำระแล้ว และสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินให้กู้ยืมและดอกเบี้ยค้างรับจาก Kyoto, หน่วยลงทุนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ยูโอบี อะพาร์ทเมนท์ หนึ่ง (UOBAPF) 27.06% ของหน่วยลงทุนที่ชำระแล้ว, หุ้นสามัญของ บมจ. รถไฟฟ้ากรุงเทพ (BMCL) 2.68% ของทุนชำระแล้ว, หุ้นสามัญของ บมจ. แสนสิริ (SIRI) 4.26% ของทุนชำระแล้ว และ หุ้นสามัญของ บมจ. ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น (SYNTEC) 11.88% ของทุนชำระแล้ว โดยเฉพาะหุ้น 4 ตัวหลังมีเงื่อนไขต้องขายในราคาที่ไม่ต่ำกว่าราคาปิดของหุ้นในวันก่อนหน้าที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติกำหนดราคาเสนอขาย
โดยได้รับการยืนยันกรณีขายเงินลงทุนของบริษัท 4 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จาก "นายเสริมสิน สมะลาภา" ว่า จะขายสินทรัพย์เหล่านี้มื่อถึงเวลาที่เหมาะสม หรือถ้าจำเป็นต้องขายก็จะเลือกขายหุ้นที่มีราคาดี เพื่อที่จะได้เงินมาใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน
นายเสริมสินกล่าวว่า นอกเหนือจากนี้ ผู้ถือหุ้นยังเสนอให้ขายสินทรัพย์ในโครงการที่ไม่มีความชำนาญหรือไม่เป็นประโยชน์ต่อบริษัทในอนาคตออกไป ซึ่งคณะกรรมการรับที่จะนำไปพิจารณา และการที่ผู้ถือหุ้นอนุมัติในเรื่องที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ถือเป็นทางออกที่ดีและช่วยให้บริษัทมีทางออกในการบริหารงานเพื่อความอยู่รอด ทั้งการปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารกรุงไทย 860 ล้านบาท ภายใน 2 ปี หรือแม้แต่การเดินหน้าลุยโครงการต่าง ๆ ที่ค้างคามานานให้ลุล่วงไปด้วยดี
ขณะที่วันนี้ (3 ก.พ.52) บริษัทมีนัดทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับไทยสมุทรประกันชีวิตและศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาตามยอม ซึ่งบริษัทจะชำระเงินสดก้อนแรกไปจ่ายให้เจ้าหนี้ 75 ล้านบาท ตามสัญญา