xs
xsm
sm
md
lg

เปิดแผนพัฒนาที่ดิน"ทรัพย์สินฯ" ดึงเอกชนลงทุนบางกอกบาร์ซ่าครึ่งปีหลัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สำนักงานทรัพย์สินฯ ปรับนโยบายลงทุนที่ดินแปลงศักยภาพเชิงพาณิชย์ พร้อมสางปัญหาไล่ที่ผู้เช่าเดิม แจงแผนพัฒนาพื้นที่บางกอกบาร์ซ่า ราชดำริ เตรียมเปิดให้เอกชนยื่นทีโออาร์ ครึ่งปีหลัง ภายหลังหมดอายุสัญญาเช่ารายสุดท้ายกลางปี เผยเปิดกว้างเอกชนักลงทุนไม่มีข้อกำหนดตายตัว แต่พิจารณาผู้เช่ารายเดิมก่อน และต้องมีถนนระบายการจราจร

นายสมบูรณ์ ชัยเดชสุริยะ หัวหน้าฝ่ายโครงการพิเศษ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เปิดเผยว่า นโยบายการดำเนินงานของสำนักททรัพย์สินฯ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยในส่วนแรกจะเป็นการบริหารและพัฒนาที่ดินเพื่อประโยชน์ด้านที่อยู่อาศัย และการพัฒนาที่ดินในเชิงพาณิชย์บนที่ดินที่มีศักยภาพ และมีความเหมาะสมต่อการพัฒนาเชิงพาณิชย์

โดยในส่วนของการพัฒนาที่ดินเชิงพาณิชย์บนที่ดินพื้นที่ศักยภาพของสำนักงานทรัพย์สินฯก่อนหน้านั้น จะดำเนินการในรูปแบบการเปิดให้เอกชนที่มีศักยภาพ ร่วมการประมูลเสนอแผนรูปแบบการพัฒนาพื้นที่ ที่สำนักงานทรัพย์สินฯ มีแผนการพัฒนาในเชิงพาณิชย์ แต่การดำเนินการดังกล่าวจะก่อให้เกิดปัญหาการย้ายผู้อยู่อาศัยเดิมหรือผู้เช่าพื้นที่รายเดิมออกจากพื้นที่ ซึ่งบริษัทเอกชนที่ชนะการประมูลจะทำหน้าที่ในการย้ายผู้อยู่อาศัยเดิมออกจากพื้นที่เอง

“ปัญหาที่พบจากการย้ายประชาชนที่อยู่ในอาศัยพื้นที่เดิมออกคือ ความเดือดร้อนของผู้อยู่อาศัยเดิม บางรายยินยอมย้ายออกจากพื้นที่แต่โดยดีหลังได้รับค่าชดเชย แต่บางรายต้องมีการผลักดันออกจากพื้นที่ ทำให้เกิดความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัยต่อประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่เช่าอยู่เดิม”

ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าว สำนักงานทรัพย์สินฯจึงเปลี่ยนนโยบายการดำเนินงานพัฒนาพื้นที่ศักยภาพเชิงพาณิชย์ใหม่ โดยกำหนดให้การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์แต่ละแห่งจะต้องรอให้ผู้อยู่อาศัยเดิม หมดอายุสัญญาเช่าก่อนจึงเปิดประมูลเพื่อที่เพื่อหาเอกชนเข้ามาพัฒนาโครงการบนที่ดินที่มีแผนจะนำมาพัฒนาโครงการเชิงพาณิชย์

สำหรับปี 52 นี้ สำนักงานทรัพย์สินฯ มีที่ดินที่มีศักยภาพในการพัฒนาเชิงพาณิชย์ ซึ่งปลอดสัญญาเช่าจำนวน 1 แปลง คือพื้นโครงการบางกอกบาร์ซ่า ตรงข้ามห้างสรรพสินค้าเซ็นทรั่ลเวิลด์ ติดถนนราชดำริ ซึ่งก่อนหน้านั้นสัญญาเช่าพื้นที่ของผู้อยู่อาศัยเดิมเริ่มทยอยหมดลงตั้งแต่ 1-2 ปีที่ผ่านมาล่าสุดมีเพียงผู้เช่าอีก 1 รายเท่านั้นที่ยังมีสัญญาเช่าอยู่และจะหมดอายุสัญญาเช่าในช่วงกลางปีนี้

นายสมบูรณ์ กล่าวว่า สำหรับผู้เช่าอีก 1 รายที่ยังเหลือสัญญาเช่าพื้นที่อาคารพาณิชย์กับสำนักงานทรัพย์สินนั้นสัญญาเช่าจะหมดอายุในช่วงกลางปีนี้ และหลังจากนั้น สำนักงานทรัพย์สินฯจะดำเนินการทุบรื้ออาคารเช่าดังกล่าวเพื่อเตรียมพื้นที่รองรับการพัฒนาโครงการใหม่ โดยในส่วนของอาคารอื่นๆที่หมกสัญญาไปก่อนหน้านั้นได้มีการรื้อทุบไปแล้วบางส่วน

สำหรับพื้นที่โครงการบางกอกบาร์ซ่า มีขนาดพื้นที่ 20 ไร่ เดิมเป็นตึกแถว แผงค้าขาย มีถนนตัดผ่านด้านกลาง ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริษัทเอกชนที่ต้องการเข้ามาพัฒนาพื้นที่สามารถยื่นแบบทีโออาร์ ได้ช่วงครึ่งหลังของปี 52 นี้ ทั้งนี้รูปแบบของ ทีโออาร์ของผู้ที่จะพัฒนาโครงการในพื้นที่ดังกล่าวนั้น สำนักทรัพย์สินฯจะไม่มีการกำหนดรูปแบบการพัฒนาที่ตายตัวว่าจะต้องมีรูปแบบอย่างไร แต่จะปล่อยให้เอกชนเป็นผู้เสนอรูปแบบเองทั้งมด แต่อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการช่วยในการระบายการจราจร สำนักทรัพย์สินฯจะกำหนดเพียงว่าให้คงถนนด้านกลางที่มีการตัดผ่านในพื้นที่ไว้ และการจัดสรรพื้นที่ต้องมีความเหมาะสม

“รูปแบบที่เอกชนจะเสนอนั้นสำนักงานทรัพย์สินฯจะไม่ปิดกั้นรูปแบบการพัฒนา ว่าจะต้องมีอาคารที่อยู่อาศัยหรือต้องเป็นอาคารพาณิชย์หรืออาคารชุด แต่จะเปิดให้ออกแบบได้เต็มที่ และต้องพิจารณาให้สิทธิ์ผู้เช่าเดิมในการจับจองพื้นที่ก่อนผู้เช่ารายใหม่ที่จะเข้ามาอยู่อาศัย หรือประกอบอาชีพในพื้นที่เท่านั้น”

ส่วนการพัฒนาที่ดินเพื่อประโยชน์ด้านที่อยู่อาศัยของประชาชนนั้น ที่ผ่านมานโยบายการพัฒนาที่ดินจะและโครงการที่อยู่อาศัยบนที่ดินนั้น สำนักทรัพย์สินจะลงทุนพัฒนาทั้งในส่วนของอาคารที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมและเปิดให้สิทธิ์การเช่าต่อประชนชาในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาการดำเนินงานของสำนักทรัพย์สินฯ พบว่ามีปัญหาในการดำเนินการเนื่องจากผู้อยู่อาศัยไม่มีความรู้ศึกว่ามีความเป็นเจ้าของ ดังนั้นจึงมีการเปลี่ยนรูปแบบโดยเปิดให้ประชาชนผู้อยู่อาศัยมีส่วนร่วมในการพัฒนาพื้นที่ร่วมด้วย ซึ่งจะสามารถสร้างความยั่งยืนด้านที่อยู่อาศัยได้
กำลังโหลดความคิดเห็น