xs
xsm
sm
md
lg

หอการค้าขานรับโรลแบ็ก 2 พัน พร้อมใจหั่นราคาสินค้า 5-10%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หอการค้าหนุนมาตรการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ-กระตุ้นการใช้จ่าย โดยอัดเม็ดเงินใส่กระเป๋าผู้มีรายได้น้อยรายละ 2 พันบาท จำนวน 9 ล้านคน ยืนยัน ภาคเอกชนพร้อมให้ความร่วมมือลดราคาสินค้าลง 5-10% คาดเม็ดเงินอัดฉีดตรง 2 หมื่นล้าน หมุนในระบบ 2-3 รอบ สามารถเพิ่มมูลค่าได้ถึง 4-6 หมื่นล้าน มั่นใจส่งผลให้การบริโภคภายในประเทศหนุนเศรษฐกิจฟื้นตัวได้จริง

นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานสภาหอการค้าไทย กล่าวในงานสัมมนาเสริมพลังสถาบันการค้าไทยกู้ภัยเศรษฐกิจโลก โดยกล่าวถึงมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนผ่านการจ่ายเงิน 2 พันบาท ถือว่าเป็นมาตรการที่จะนำเงินไปถึงมือผู้ที่มีรายได้น้อยได้เร็ว ซึ่งจะผลักดันให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย และสามารถกระตุ้นการบริโภคในประเทศได้

ส่วนกรณีที่รัฐบาลขอความร่วมมือมายังภาคเอกชน เพื่อให้ปรับลดราคาสินค้าลง 5-10% ให้กับประชาชนนั้น ภาคเอกชนก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ เนื่องจากผู้ประกอบการเองก็ต้องการที่จะขายสินค้าอยู่แล้ว ซึ่งการลดราคาก็น่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายให้แก่ผู้ประกอบการได้

ขณะที่ประเมินว่า งบประมาณที่รัฐบาลจะจัดสรรให้แก่ประชาชนในรอบนี้ จำนวน 9 ล้านคน คาดว่า จะมีวงเงินประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเงินดังกล่าวที่เข้ามาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 2-3 รอบ จะสามารถเพิ่มมูลค่าได้ถึง 4-6 หมื่นล้านบาท และเชื่อว่า จะทำให้การบริโภคภายในประเทศหนุนเศรษฐกิจให้ดีขึ้น

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ภาคเอกชนก็ให้ความร่วมมือและได้เสนอความคิดเห็นในการแก้ปัญหา รวมถึงมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ซึ่งการประสานงานระหว่างรัฐและเอกชนนั้นจะทำให้การแก้ปัญหามีประสิทธิภาพมากขึ้น

ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะต้องเพิ่มงบประมาณในการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่นั้น จะต้องรอติดตามโครงการที่ภาครัฐได้เสนอไว้ให้เกิดเป็นรูปธรรมได้ก่อน โดยจะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน ในการพิจารณาและหาข้อสรุปว่ายังคงมีจุดบกพร่องในเรื่องใดหรือไม่และจะรวบรวมข้อคิดเห็นรวมไปถึงแนวทางการแก้ปัญหาเสนอต่อรัฐบาลเพื่อปรับปรุงต่อไป

“ถึงแม้ว่างบประมาณที่รัฐบาลจัดสรรเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและส่งออกอาจจะมีงบประมาณที่น้อยแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สามารถทำงานได้ ส่วนการที่รัฐบาลจะโรดโชว์เพื่อหวังกระตุ้นการส่งออกนั้น เชื่อว่า จะสามารถเรียกความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนให้กลับมาได้ แต่ถ้ามีการจัดสรรงบประมาณมากกว่านี้ ก็น่าจะดีกว่า” นายประมนต์ กล่าวสรุปทิ้งท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น