xs
xsm
sm
md
lg

ปิโตรเคมีแย่เร่ขายกิจการให้ปตท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยักษ์ใหญ่ปิโตรเคมีระดับโลกย่ำแย่จากวิกฤติการเงินโลก เร่ขายกิจการให้ปตท. คาดเห็นความชัดเจนในกลางปีนี้ มั่นใจราคาปิโตรเคมีพ้นจุดต่ำสุดแล้ว มีสัญญาณเริ่มผงกหัวขึ้น ด้านปตท.เคมิคอลฟุ้งมีความสามารถจัดหาเงินลงทุนภายใน 5ปีถึง 6 หมื่นล้านบาท แย้มสนใจทำ M&Aโรงงานทั้งไทยและต่างประเทศ

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไออาร์พีซีจำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีรายใหญ่อันดับต้นของโลกยื่นข้อให้ปตท.เข้าไปซื้อกิจการ เนื่องจากประสบปัญหาทางการเงินจากวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งปตท.อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดและความเป็นไปได้ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้

นับจากนี้ไปจะเห็นการควบรวมกิจการของผู้ผลิตปิโตรเคมีรายใหญ่ของโลกเพิ่มมากขึ้นนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ปีนี้ ซึ่งผู้ผลิตปิโตรเคมีรายใหญ่ในยุโรปและสหรัฐฯกำลังย่ำแย่ ขณะที่ผู้ประกอบการในญี่ปุ่นก็ออกอาการเช่นกัน

นายไพรินทร์ กล่าวต่อไปว่า สถานการณ์อุตสาหกรรมปิโตรเคมีในปีนี้น่าจะดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วเมื่อเดือนพ.ย. 2551 ซึ่งขณะนั้นราคาพลาสติกลดลงไปต่ำสุด จาก 1,800 เหรียญสหรัฐต่อตัน เหลือ 700 เหรียญต่อตัน และปัจจุบันราคาได้ปรับขึ้นไปอยู่ที่ 900 เหรียญสหรัฐต่อตัน โดยจักรอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเริ่มสั้นลงเหลือ 4-5 ปีต่างจากในอดีตที่ใช้เวลาถึง 7 ปี เนื่องจากเทคโนโลยีที่ทันสมัย

นอกจากนี้จีนยังมีศักยภาพในการนำเข้าพลาสติกดีอยู่ ทำให้ไทยสามารถส่งออกพลาสติกไปตลาดจีนได้มาก ขณะที่เศรษฐกิจในสหรัฐฯและอียูยังน่าเป็นห่วง ด้วยภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยเช่นนี้ จึงไม่ใช่จังหวะที่ดีของไออาร์พีซีในการขยายการลงทุนมากนัก โดยบริษัทฯยังเดินหน้าโครงการลงทุนตามแผนงานเดิมไว้ รวมทั้งโครงการโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซฯแทนถ่านหิน ซึ่งจะช่วยลดมลพิษ

*** ปตท.เคมิคอลฟุ้งมีเงินลงทุน5ปี 6หมื่นล.

นายวีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทฯมีขีดความสามารถในการจัดหาเงินเพื่อลงทุนทั้งในและต่างประเทศ 6 หมื่นล้านบาทใน 5ปีข้างหน้า ซึ่งไม่รวมกับงบลงทุนตามแผนเดิม โดยขณะนี้มีหลายบริษัทในต่างประเทศเสนอให้บริษัทฯเเข้าไปควบรวมกิจการ(M&A)ด้วย

สำหรับโครงการลงทุนใหม่ที่จะแล้วเสร็จในปลายปีนี้ ประกอบ โครงการแครกเกอร์ 1ล้านตัน โครงการแอลแอลดีพีอี 4 แสนตัน โครงการผลิตเอชดีพีอี 2.5 แสนตัน ส่วนโครงการผลิตแอลดีพีอี 3 แสนตันจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/2553 ส่งผลให้บริษัทมีกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกรวมทั้งสิ้น 1. 5 ล้านตัน และโรงงานผลิตเอทิลีนเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านตัน
กำลังโหลดความคิดเห็น