รมว.คลัง จับตาสถานการณ์ ศก.โลกใกล้ชิด คาดวิกฤตยังไม่จบง่ายๆ เตรียมงัดมาตรการชุดใหม่รับมือ พร้อมยืนยัน รัฐบาลจะเข็นมาตรการชุด 2-3 ออกมาใช้ เร็วๆ นี้
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้ามาตรการรับมือผลกระทบเศรษฐกิจโลกที่หนักกว่าคาด โดยระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ จะมีออกมาต่อเนื่องแน่นอน และยังมีความรู้สึกหนักใจ เพราะในเวลานี้สถาบันการเงินขนาดใหญ่หลายแห่งในโลกยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้หมด และมีแนวโน้มว่าธนาคารพาณิชย์หลายแห่งยังต้องได้รับการช่วยเหลือจากทางการ จนกลายเป็นแบงก์รัฐ ซึ่งจะกระทบกับการนำเงินออกมาลงทุนต่างประเทศ รวมทั้งคำสั่งซื้อสินค้าได้
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยได้เตรียมหามาตรการเพื่อรองรับปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในขณะนี้รัฐบาลใกล้จะนำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดที่ 2 และ 3 ออกมาใช้แล้ว ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นผ่านงบประมาณกลางปี ก็จะเริ่มมีการเบิกจ่ายงบประมาณตามกำหนดการในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2552 นี้
นายกรณ์ กล่าวถึงกรณีที่บริษัทยานยนต์ต่างชาติขนาดใหญ่ 2 แห่ง เข้าพบเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า บริษัทรถยนต์ดังกล่าว ได้แสดงเจตจำนงว่าจะขยายการลงทุนในประเทศไทยต่อไปเช่นเดิม เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ส่งผลให้บริษัทเหล่านี้สามารถแยกแยะได้ว่าควรจะนำเม็ดเงินลงทุนที่มีจำนวนจำกัดมากขึ้นไปลงทุนที่ใดที่หนึ่งเพียงแห่งเดียว ซึ่งหลายอุตสาหกรรมประเมินว่าประเทศไทยมีความเหมาะสมมากที่สุด และเชื่อว่าเราจะมีอุตสาหกรรมอีกหลายประเภทย้ายการลงทุนจากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อมาลงทุนในประเทศไทยต่อไป
นายกรณ์ กล่าวว่า วานนี้ ตนเองได้รับข่าวร้ายจากรายงานของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) แจ้งว่า ผลของการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในเดือนกุมภาพันธ์ 2552 จะต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการนำเข้าที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้รายได้จากภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าลดลงตามไปด้วย แต่ถือเป็นสิ่งที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว โดยในสัปดาห์หน้า สศค. จะแถลงผลการจัดเก็บรายได้อย่างเป็นทางการต่อไป
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้ามาตรการรับมือผลกระทบเศรษฐกิจโลกที่หนักกว่าคาด โดยระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ จะมีออกมาต่อเนื่องแน่นอน และยังมีความรู้สึกหนักใจ เพราะในเวลานี้สถาบันการเงินขนาดใหญ่หลายแห่งในโลกยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้หมด และมีแนวโน้มว่าธนาคารพาณิชย์หลายแห่งยังต้องได้รับการช่วยเหลือจากทางการ จนกลายเป็นแบงก์รัฐ ซึ่งจะกระทบกับการนำเงินออกมาลงทุนต่างประเทศ รวมทั้งคำสั่งซื้อสินค้าได้
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยได้เตรียมหามาตรการเพื่อรองรับปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในขณะนี้รัฐบาลใกล้จะนำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดที่ 2 และ 3 ออกมาใช้แล้ว ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นผ่านงบประมาณกลางปี ก็จะเริ่มมีการเบิกจ่ายงบประมาณตามกำหนดการในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2552 นี้
นายกรณ์ กล่าวถึงกรณีที่บริษัทยานยนต์ต่างชาติขนาดใหญ่ 2 แห่ง เข้าพบเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า บริษัทรถยนต์ดังกล่าว ได้แสดงเจตจำนงว่าจะขยายการลงทุนในประเทศไทยต่อไปเช่นเดิม เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ส่งผลให้บริษัทเหล่านี้สามารถแยกแยะได้ว่าควรจะนำเม็ดเงินลงทุนที่มีจำนวนจำกัดมากขึ้นไปลงทุนที่ใดที่หนึ่งเพียงแห่งเดียว ซึ่งหลายอุตสาหกรรมประเมินว่าประเทศไทยมีความเหมาะสมมากที่สุด และเชื่อว่าเราจะมีอุตสาหกรรมอีกหลายประเภทย้ายการลงทุนจากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อมาลงทุนในประเทศไทยต่อไป
นายกรณ์ กล่าวว่า วานนี้ ตนเองได้รับข่าวร้ายจากรายงานของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) แจ้งว่า ผลของการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในเดือนกุมภาพันธ์ 2552 จะต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการนำเข้าที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้รายได้จากภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าลดลงตามไปด้วย แต่ถือเป็นสิ่งที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว โดยในสัปดาห์หน้า สศค. จะแถลงผลการจัดเก็บรายได้อย่างเป็นทางการต่อไป
