เอเอฟพี – ราคาน้ำมันดิบดิ่งลงมากกว่า 3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในตลาดนิวยอร์ก และตลาดลอนดอน หลังจากราคากระเตื้องขึ้นมาเล็กน้อย 2 วัน ขณะที่ตลาดหุ้นก็ยังร่วงระนาว ท่ามกลางความกังวลถึงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
การซื้อขายในตลาดนิวยอร์กวานนี้ (11) สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคมมีราคาตกลง 3.08 ดอลลาร์ เหลือเพียง 59.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2007 เป็นต้นมา โดยครั้งนั้นราคาน้ำมันดิ่งลงมากสุดเหลือที่ 58.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่ ตลาดลอนดอน น้ำมันดิบเบรนต์นอร์ธซี สำหรับส่งมองเดือนธันวาคมก็รูดลง 3.37 ดอลลาร์เหลือเพียง 55.71 ดอลลาร์ ในตลาดแลกเปลี่ยนระหว่างทวีป โดยในระหว่างวันราคาน้ำมันยังร่วงลงไปแตะที่ 54.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ 30 มกราคม ปี 2007
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันร่วงลงถึง 60% จากสถิติราคาสูงสุดมากกว่า 147 ดอลลาร์ ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ด้วยภาวะการชะลอตัว ทั้งด้านการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และความต้องการพลังงาน
ตลาดค้าน้ำมันเสียหายหนักเช่นเดียวกับตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ร่วงจนติดแดนลบ ด้วยนักลงทุนกำลังกังวลว่าเจเนอรัล มอเตอร์ บริษัทยานยนต์ยักษ์ใหญ่อาจจะล้มละลาย และอีกหลายบริษัทก็มีข่าวในเชิงลบออกมามากขึ้น ท่ามกลางวิกฤตสินเชื่อ
ตลาดค้าน้ำมันดิบปิดด้วยราคาที่สูงขึ้น 2 ดอลลาร์ในวันจันทร์ (10) ที่ผ่านมา ด้วยความคาดหวังว่าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 589,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ของจีนจะเพิ่มความต้องการพลังงานได้ แต่ทางสหรัฐฯ มีรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ออกมาไม่ดีนัก จึงทำให้นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบโลกดิ่งลงอย่างรวดเร็วอีกครั้ง
