รัฐเดินหน้าแผน PPP ระดมเงินลงทุนร่วมภาครัฐ-เอกชนเพื่อทำโครงการเมกะโปรเจกต์ ครม.ตั้ง "กอร์ปศักดิ์" นั่งประธานบอร์ด ประเดิมโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า สายสีม่วง สีน้ำเงิน และสีเขียว วงเงินลงทุนรวม 80,000 ล้านบาท และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-นครราชสีมา วงเงิน 50,000 ล้านบาท
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.)เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2552 ได้มีมติเห็นชอบกรอบแนวทางการระดมทุนในรูปแบบ Public Private Partnership (PPPs) พร้อมเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาแนวทางการเพิ่มบทบาทภาคเอกชนในรูปแบบ PPPs โดยมีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
ขณะนี้ รัฐบาลเตรียมโครงการนำร่องการลงทุนในรูปแบบ PPP โดยเน้นโครงการที่มีผลตอบแทนสูงและมีการกระจายความเสี่ยงร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน ได้แก่ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า สายสีม่วง สีน้ำเงิน และสีเขียว วงเงินลงทุนรวม 80,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการร่วมลงทุนให้ภาคเอกชนจัดซื้อตัวรถ ระบบอาณัติสัญญาณ และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-นครราชสีมา วงเงิน 50,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม รูปแบบการลงทุนดังกล่าวจำเป็นต้องมีการปรับปรุง แก้ไข กฎหมาย กฎกระทรวง และระเบียบต่างๆที่เกี่ยวข้องกับโครงการ PPP รวมถึง พ.ร.บ.ว่าด้วยให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินในกิจการของรัฐปี 35 เพื่อให้สอดคล้องการดำเนินงาน เบื้องต้น อาจจะต้องมีการแก้ไขกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้อง ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ปี 2535 ให้แล้วเสร็จภายใน 3-6 เดือน เพื่อรองรับการเดินหน้าโครงการลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้า และอนาคต จะต้องมีการแก้ไข พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ปี 2535 ต่อไป
สำหรับกรอบแนวคิดของ PPP ซึ่งมีการปรับรูปแบบการจัดซื้อจัดจ้างจาก Asset Based Contract เป็น Output Performance Based Contract จะช่วยลดต้นทุน และความล่าช้าในการดำเนินโครงการ โดยที่รัฐบาลจ่ายเงินตามบริการที่ได้รับ ลดภาระการลงทุนของรัฐบาล โดยเฉพาะในช่วงการก่อสร้าง ลดข้อจำกัดด้านงบประมณ และรัฐบาลสามารถขยายการลงทุนได้เพิ่มขึ้น
ด้านนายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล รองผู้อำนวยการ สบน. กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐวิสาหกิจหลายแห่งดำเนินโครงการลงทุนในรูปแบบ PPP แล้ว เช่น โครงการ IP ของการไฟฟ้าการผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) หรือ การผลิตน้ำประปาของการประปานครหลวง โดยบริษัทลูก ซึ่งทำให้สามารถกำหนดรูปแบบค่าบริการได้ และรับรู้ต้นทุนได้ชัดเจน