xs
xsm
sm
md
lg

ราคาขายปลีกน้ำมันเตรียมปรับขึ้นอีกรอบ 80 สตางค์ ภายในสัปดาห์นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กระทรวงพลังงาน เล็งเก็บเงินคืนกองทุนน้ำมัน ลดภาระภาษีสรรพสามิตอีก 80-90 สตางค์ต่อลิตร กลางสัปดาห์นี้ ชี้หากราคาน้ำมันตลาดโลกสูงขึ้นอาจพิจารณาปรับราคาต่ำกว่า 80 สตางค์ เพราะยังเหลือภาระในส่วนของแก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 อยู่อีก 3.73 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ อี 20 จำนวน 3.14 บาทต่อลิตร ดีเซล 2.33 บาทต่อลิตร และไบโอดีเซล บี 5 จำนวน 0.92 บาทต่อลิตร ส่วนเบนซิน 95 และ 91 ได้ปรับราคาขึ้นไปจนครอบคลุมภาษีทั้งหมดแล้ว

วันนี้ (9 ก.พ.) มีรายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน แจ้งว่า กระทรวงมีแผนจะประกาศเปลี่ยนแปลงราคาขายปลีกน้ำมันภายในประเทศอีกรอบในสัปดาห์นี้ เพื่อเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้ครอบคลุมภาษีสรรพสามิตที่ปรับขึ้นไปก่อนหน้านี้ โดยคาดว่าจะปรับขึ้นอีกประมาณ 80-90 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งอัตราการปรับจะขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันตลาดโลกช่วงเวลานั้นด้วยว่าจะอยู่ที่ระดับใด

ทั้งนี้ หากราคาน้ำมันตลาดโลกปรับขึ้นสูง สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ก็จะพิจารณาปรับราคาต่ำกว่า 80-90 สตางค์ ทั้งนี้ การปรับราคาครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สอง หลังจากได้ปรับราคาตามอัตราภาษีสรรพสามิต และมีผลไปเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 ที่ผ่านมา ในอัตรา 1.55 บาทต่อลิตร

อย่างไรก็ตาม หลังการปรับราคาครั้งนั้นแล้วยังเหลือภาระในส่วนของแก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 อยู่อีก 3.73 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ อี 20 จำนวน 3.14 บาทต่อลิตร ดีเซล 2.33 บาทต่อลิตร และไบโอดีเซล บี 5 จำนวน 0.92 บาทต่อลิตร ส่วนเบนซิน 95 และ 91 นั้นได้ปรับราคาขึ้นไปจนครอบคลุมภาษีทั้งหมดแล้ว ซึ่งกระทรวงพลังงานมีเป้าหมายจะดำเนินการปรับราคา เพื่อให้ครอบคลุมภาษีทั้งหมดภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2552

ด้านฐานะของกองทุนน้ำมันพบว่า มีรายรับล่าสุดเดือนละ 3,800 ล้านบาท และมียอดค้างจากการชดเชยพลังงานทดแทน และการสนับสนุนการผลิตน้ำมันมาตรฐาน ยูโร 4 ประมาณ 3,500 ล้านบาท มีฐานะการเงินสุทธิอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท โดยฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 20 มกราคม 2552 มีเงินสุทธิ 14,706 ล้านบาท หลังจากดูแลการขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันไปแล้ว และหากทยอยขึ้นอีกจะทำให้ภาระจุดนี้ลดต่ำลงตามลำดับ ซึ่งภาพรวมฐานะถือว่ามีสภาพคล่องระดับหนึ่งจะนำมาดูแลราคาแอลพีจีส่วนหนึ่งก็คงไม่มีปัญหาและต้องดูจังหวะราคาน้ำมันตลาดโลกลดลง เพื่อเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนฯ เพิ่มขึ้น

ด้านกรมธุรกิจพลังงาน รายงานปริมาณจำหน่ายน้ำมันในเดือนมกราคม 2552 โดยเบนซิน 95 มียอดจำหน่ายวันละ 4.9 แสนลิตร ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 73% เบนซิน 91 มียอดจำหน่ายวันละ 8.4 ล้านลิตร ลดลง 18.9% ส่วนแก๊สโซฮอล์ 95 มียอดจำหน่ายวันละ 8.56 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 51.9% แก๊สโซฮอล์91 มียอดจำหน่ายวันละ 3.87 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นถึง 161% จากเดือน มกราคม 2551 ที่มียอดจำหน่ายเพียง 1.4 ล้านลิตรต่อวัน โดยการใช้น้ำมันในกลุ่มเบนซินลดลงทั้ง 2 ชนิด

ขณะที่แก๊สโซฮอล์ 91 มียอดใช้เพิ่มสูงขึ้นมาก สอดคล้องกับแก๊สโซฮอล์ 95 ที่มียอดการใช้สูงกว่าเบนซิน 95 ไปแล้ว ส่วน น้ำมันอี 20 อยู่ที่วันละ 1.49 แสนลิตร จากเดือน มกราคม 2551 อยู่ที่วันละ 9 หมื่นล้านลิตร เนื่องจากจำนวนปั๊มอี 20 ยังมีไม่มากทำให้รถรุ่นใหม่ที่ใช้อี20 ได้หันไปเติมแก๊สโซฮอล์ 91 จนยอดจำหน่ายเพิ่มสูงมาก

สำหรับยอดจำหน่ายดีเซลอยู่ที่วันละ 55.08 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 4.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ดีเซลบี 5 วันละ 18.57 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นถึง 277% เทียบเดือน มกราคม 2551 วันละ 4.9 ล้านลิตร
กำลังโหลดความคิดเห็น