ธุรกิจอสังหาฯ เสนอ 4 มาตรการฟื้นเศรษฐกิจต่อรัฐบาล แนะเพิ่มทุน ธอส. 5,000-10,000 ล้านบาท สร้างความมั่นใจนักลงทุน-ผู้บริโภค พร้อมเพิ่มแพกเกจ ดบ.ต่ำให้ผู้กู้ ปลดล็อกเงินดาว์ 30% บ้านราคาเกิน 10 ล้านบาท และขยายเวลาให้ต่างชาติเช่า 30 ปี เพิ่มเป็น 90 ปี นักวิชาการ เตือนความเสี่ยงสินเชื่อ แบงก์ต้องรอบคอบขึ้น เผยกำลังซื้อลดลง บั่นทอนการตัดสินใจซื้อ ที่อยู่อาศัยประเภทปล่อยเช่าจะกลับมาได้รับอานิสงส์ แนะระวังในการปล่อยเงินดาวน์ ทิ้งเงินจอง
นายชายนิด โง้วศิริมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาคเอกชนมีข้อเสนอ 4 ข้อ ให้รัฐบาลพิจารณาออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น คือ กระตุ้นภาคการท่องเที่ยวให้ฟื้นตัวกลับมาเร็วที่สุด เพื่อส่งผลเชิงบวกให้ภาพรวมเศรษฐกิจ และจะส่งผลพวงต่อเนื่องไปยังภาคธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง
นอกจากนี้ นายชายนิด ยังเสนอให้รัฐเพิ่มทุนให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) อย่างน้อย 5,000-10,000 ล้านบาท เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนและผู้บริโภค อีกทั้งควรจะหาแพกเกจดอกเบี้ยต่ำให้ผู้กู้ ขยายระยะเวลาเช่าที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติ จากปัจจุบันอยู่ที่ 30 ปี เป็น 90 ปี เพื่อดึงดูดให้ชาวต่างชาติตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในไทยได้ง่ายขึ้น และปลดล็อกเงินดาวน์ร้อยละ 30 ให้บ้านที่มีราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อบ้านระดับราคาดังกล่าวมากขึ้น ส่วนมาตรการที่รัฐบาลประกาศออกมาใช้แล้วนั้น จะเป็นตัวช่วยภาคอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ได้ไม่น้อย และคาดว่าทาวน์เฮาส์ระดับราคา 1-4 ล้านบาท จะมียอดขายที่ดี แต่รัฐบาลควรมีมาตรการออกมากระตุ้นอย่างต่อเนื่อง
นายมานพ พงศทัต อาจารย์พิเศษประจำภาควิชาเคหการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ปีนี้ธนาคารของรัฐ โดยเฉพาะ ธอส. ต้องระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อ เพราะมีแนวโน้มที่จะเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) โดย ธอส.มีสัดส่วนในการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยสูงถึงร้อยละ 40 ของสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งระบบ จึงต้องพิจารณาการปล่อยสินเชื่ออย่างรอบคอบ
ขณะที่แนวโน้มการซื้อขายที่อยู่อาศัยนั้น เห็นได้ชัดว่าจะชะลอตัวลงจากปีที่ผ่านมา แต่ที่อยู่อาศัยประเภทปล่อยเช่าจะกลับมาได้รับอานิสงส์ เพราะคนมีกำลังซื้อน้อยลง จากเดิมที่จะตัดสินใจซื้อบ้าน ก็หันกลับมาเช่าแทน ซึ่งวิกฤติเศรษฐกิจปีนี้ ผู้ประกอบการมีบทเรียนแล้ว ทำให้ภาระหนี้สินของแต่ละรายไม่มากนัก และปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่ผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากวิกฤตในครั้งนี้ เป็นกลุ่มคนทำงานระดับล่าง คนทำงานในโรงงานที่ต้องปิดตัวไป จึงต้องระวังในแง่การปล่อยเงินดาวน์ ทิ้งเงินจอง เพราะเริ่มไม่มั่นใจว่าจะมีรายได้ มีกำลังผ่อนต่อระยะยาวหรือไม่