บล. บัวหลวง ตั้ง "พิเชษฐ สิทธิอำนวย" เป็นกรรมการผู้อำนวยการคนใหม่ หลัง "ญาณศักดิ์" ลดบทบาททำหน้าที่ให้คำปรึกษาธุรกิจ พร้อมตั้งเป้าขึ้นแท่นติด 1 ใน 5 ของธุรกิจหลักทรัพย์จากปัจจุบันอยู่อันดับ 7 คาดวอลุ่มซื้อขายเฉลี่ยปีนี้ 1.3 หมื่นล้านบาท เผยมาร์จิ้นปัจจุบันต่ำกว่า 400 ล้านบาท เหตุได้รับความเสียหายจากภาวะหุ้นในช่วงปี 51 พร้อมกับตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ปีนี้ 5% เน้นกลยุทธ์เรื่อง Wealth Mannagement ในส่วนลูกค้าบุคคล และลูกค้าสถาบันเน้นสร้างความเชื่อมั่นกับบริการที่มีประสิทธิภาพ
นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BLS เปิดเผยถึงการเปลี่ยนแปลงกรรมการผู้อำนวยการคนใหม่เป็นนายพิเชษฐ สิทธิอำนวย เนื่องจากนายญาณศักดิ์ มโนมัยพิบูลย์ กรรมการผู้อำนวยการคนปัจจุบันได้มีความประสงค์จะลดบทบาทจากตำแหน่งดังกล่าว แต่ยังคงทำงานให้กับบล.บัวหลวงต่อไปในตำแหน่งกรรมการบริหาร และหน้าที่เป็นผู้ให้คำปรึกษาทางด้านธุรกิจกับผู้บริหารของบริษัท ซึ่งการเข้ารับตำแหน่งใหม่และการลาออกจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552
นายญาณศักดิ์ มโนมัยพิบูลย์ กรรมการอำนวยการ บล. บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตนชื่อมั่นว่าด้วยความแข็งแกร่งของผู้ถือหุ้นบล.บัวหลวงและทีมงานมืออาชีพภายในบริษัท การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะมีผู้บริหารใหม่เข้ามาผลักดันธุรกิจต่อไปในอนาคต ขณะที่ตนยังทำงานให้กับ บล.บัวหลวงในฐานะกรรมการบริหาร ที่จะให้คำปรึกษากับกรรมการผู้อำนวยการคนใหม่และพนักงานทุกคนในการทำธุรกิจ และจะรวมถึงการที่จะชักนำธุรกิจด้านต่างๆ เข้ามาให้กับ บล.บัวหลวงตามปกติ และจะใช้เวลาอีกส่วนหนึ่งทำกิจกรรมต่างๆ ภายนอกบริษัท ที่จะเป็นประโยชน์กับบล.บัวหลวงและอุตสาหกรรม
โดยปีนี้ บริษัทคาดว่ามูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันปีนี้อยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งสมมุติฐานดังกล่าวสัดส่วนรายได้จากการซื้อขายหลักทรัพย์อยู่ที่ 60% ตลาดอนุพันธ์อยู่ที่ 10% วาณิชธกิจ 10% กองทุนส่วนบุคคล 4-5 ที่เหลือเป็นรายได้จากส่วนอื่นๆ ทั้งนี้สัดส่วนรายได้ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ลดลงเป็นผลจากภาวะตลาดหุ้นที่ผันผวน แต่มีรายได้จากตลาดอนุพันธ์เพิ่มขึ้น หลังเริ่มขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ในตลาดอนุพันธ์ ( TFEX ) โดยปัจจุบันสัดส่วนรายได้ตลาดอนุพันธ์ เพิ่มขึ้นเป็น 2 ใน 3 ของรายได้รวม ตลอดจนจะพยายามดันให้บริษัทติดอยู่ในอันดับ 1-5 ของธุรกิจหลักทรัพย์ในปีนี้ จากปัจจุบันบริษัทอยู่อันดับที่ 7
ขณะที่ปัจจุบัน บริษัทปล่อยวงเงินสินเชื่อ (มาร์จิ้น) ต่ำกว่า 400 ล้านบาท จากปี 51 ที่บอร์ดอนุมัติไว้ 1 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการปล่อยมาร์จิ้นหุ้นจำนวน 40 ตัว สาเหตุที่ปล่อยมาร์จิ้นลดลง เนื่องจากบริษัทได้รับความเสียหายจากภาวะตลาดหุ้นผันผันในช่วงไตรมาส 2 ถึงไตรมาส 4 ของปี 2551
ด้านนายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการคนใหม่ บล.บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้เป็นความท้าทายเพราะจะต้องบริหารงานบริษัทในภาวะที่ตลาดหลักทรัพย์ฯไม่ดีเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกย่ำแย่ และการที่ตนห่างหายไปนานจากวงการธุรกิจหลักทรัพย์ ทำให้ต้องเร่งเรียนรู้เพื่อให้เข้าใจรูปแบบงาน และทำให้การบริหารงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับแผนการดำเนินงานปี 2552 จากวิกฤตการเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก จึงทำให้ต้องเพิ่มความรอบคอบ ระมัดระวัง ในการบริหารงาน และเตรียมความพร้อมที่จะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสอยู่เสมอ โดยเชื่อว่าในปีนี้ส่วนแบ่งทางการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์จะเพิ่มเป็น 5% จากปี 2551 ที่มีมาร์เก็ตแชร์ 4% โดยเน้นกลยุทธ์เรื่อง Wealth Mannagement ในส่วนลูกค้าบุคคล ขณะที่ลูกค้าสถาบันจะเน้นสร้างความเชื่อมั่นกับบริการที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนจะจัดอบรมความรู้แก่พนักงานเพิ่มเติ่ม เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและประเทศให้มากขึ้นด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่
ขณะที่ปัจจุบันมีบัญชีลูกค้าอยู่ประมาณ 2 หมื่นบัญชี เป็นบัญชีที่เป็นการซื้อขายสม่ำเสมอจำนวน 1 หมื่นบัญชี ซึ่งในปีนี้บริษัทจะไม่เน้นเพิ่มลูกค้าใหม่ แต่จะเน้นขยายผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าที่ซื้อขายประจำมากกว่ารวมถึงบริษัทที่อยู่ระหว่างนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยประมาณ 2-3 ราย
นอกจากนี้ปี 2552 บล.บัวหลวง ตั้งเป้ารายได้ธุรกิจวาณิชธกิจเพิ่มขึ้นเป็น 120 ล้านบาท จากเดิมในปี 51 ที่ 90 ล้านบาท โดยจะเน้นการเป็นที่ปรึกษาการควบรวมกิจการ ส่วนเป้าหมายมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การจัดการกองทุนในปีนี้น่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 14,000 ล้านบาท เทียบจากปี 2551 ที่อยู่ 11,000 ล้านบาท พร้อมกับเริ่มดำเนินการธุรกิจยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ได้ในไตรมาส 2 ซึ่งเชื่อว่าจะมีศักยภาพดีในอนาคต
นอกจากนี้ บล.บัวหลวง ยังได้เลื่อนตำแหน่งผู้บริหาร 3 ท่าน คือ นายกำธร ศิลาอ่อน และนายวรารัตน์ ชุติมิต จากเดิมเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวาณิชธนกิจ ขึ้นเป็นรองกรรมการผู้จัดการสายงานวาณิชธนกิจ และนางสาวอรนุช วชิรัคศศวกุล เดิมเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานค้าหลักทรัพย์สถาบัน เป็นรองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์สถาบันด้วย
นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BLS เปิดเผยถึงการเปลี่ยนแปลงกรรมการผู้อำนวยการคนใหม่เป็นนายพิเชษฐ สิทธิอำนวย เนื่องจากนายญาณศักดิ์ มโนมัยพิบูลย์ กรรมการผู้อำนวยการคนปัจจุบันได้มีความประสงค์จะลดบทบาทจากตำแหน่งดังกล่าว แต่ยังคงทำงานให้กับบล.บัวหลวงต่อไปในตำแหน่งกรรมการบริหาร และหน้าที่เป็นผู้ให้คำปรึกษาทางด้านธุรกิจกับผู้บริหารของบริษัท ซึ่งการเข้ารับตำแหน่งใหม่และการลาออกจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552
นายญาณศักดิ์ มโนมัยพิบูลย์ กรรมการอำนวยการ บล. บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตนชื่อมั่นว่าด้วยความแข็งแกร่งของผู้ถือหุ้นบล.บัวหลวงและทีมงานมืออาชีพภายในบริษัท การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะมีผู้บริหารใหม่เข้ามาผลักดันธุรกิจต่อไปในอนาคต ขณะที่ตนยังทำงานให้กับ บล.บัวหลวงในฐานะกรรมการบริหาร ที่จะให้คำปรึกษากับกรรมการผู้อำนวยการคนใหม่และพนักงานทุกคนในการทำธุรกิจ และจะรวมถึงการที่จะชักนำธุรกิจด้านต่างๆ เข้ามาให้กับ บล.บัวหลวงตามปกติ และจะใช้เวลาอีกส่วนหนึ่งทำกิจกรรมต่างๆ ภายนอกบริษัท ที่จะเป็นประโยชน์กับบล.บัวหลวงและอุตสาหกรรม
โดยปีนี้ บริษัทคาดว่ามูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันปีนี้อยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งสมมุติฐานดังกล่าวสัดส่วนรายได้จากการซื้อขายหลักทรัพย์อยู่ที่ 60% ตลาดอนุพันธ์อยู่ที่ 10% วาณิชธกิจ 10% กองทุนส่วนบุคคล 4-5 ที่เหลือเป็นรายได้จากส่วนอื่นๆ ทั้งนี้สัดส่วนรายได้ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ลดลงเป็นผลจากภาวะตลาดหุ้นที่ผันผวน แต่มีรายได้จากตลาดอนุพันธ์เพิ่มขึ้น หลังเริ่มขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ในตลาดอนุพันธ์ ( TFEX ) โดยปัจจุบันสัดส่วนรายได้ตลาดอนุพันธ์ เพิ่มขึ้นเป็น 2 ใน 3 ของรายได้รวม ตลอดจนจะพยายามดันให้บริษัทติดอยู่ในอันดับ 1-5 ของธุรกิจหลักทรัพย์ในปีนี้ จากปัจจุบันบริษัทอยู่อันดับที่ 7
ขณะที่ปัจจุบัน บริษัทปล่อยวงเงินสินเชื่อ (มาร์จิ้น) ต่ำกว่า 400 ล้านบาท จากปี 51 ที่บอร์ดอนุมัติไว้ 1 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการปล่อยมาร์จิ้นหุ้นจำนวน 40 ตัว สาเหตุที่ปล่อยมาร์จิ้นลดลง เนื่องจากบริษัทได้รับความเสียหายจากภาวะตลาดหุ้นผันผันในช่วงไตรมาส 2 ถึงไตรมาส 4 ของปี 2551
ด้านนายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการคนใหม่ บล.บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้เป็นความท้าทายเพราะจะต้องบริหารงานบริษัทในภาวะที่ตลาดหลักทรัพย์ฯไม่ดีเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกย่ำแย่ และการที่ตนห่างหายไปนานจากวงการธุรกิจหลักทรัพย์ ทำให้ต้องเร่งเรียนรู้เพื่อให้เข้าใจรูปแบบงาน และทำให้การบริหารงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับแผนการดำเนินงานปี 2552 จากวิกฤตการเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก จึงทำให้ต้องเพิ่มความรอบคอบ ระมัดระวัง ในการบริหารงาน และเตรียมความพร้อมที่จะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสอยู่เสมอ โดยเชื่อว่าในปีนี้ส่วนแบ่งทางการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์จะเพิ่มเป็น 5% จากปี 2551 ที่มีมาร์เก็ตแชร์ 4% โดยเน้นกลยุทธ์เรื่อง Wealth Mannagement ในส่วนลูกค้าบุคคล ขณะที่ลูกค้าสถาบันจะเน้นสร้างความเชื่อมั่นกับบริการที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนจะจัดอบรมความรู้แก่พนักงานเพิ่มเติ่ม เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและประเทศให้มากขึ้นด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่
ขณะที่ปัจจุบันมีบัญชีลูกค้าอยู่ประมาณ 2 หมื่นบัญชี เป็นบัญชีที่เป็นการซื้อขายสม่ำเสมอจำนวน 1 หมื่นบัญชี ซึ่งในปีนี้บริษัทจะไม่เน้นเพิ่มลูกค้าใหม่ แต่จะเน้นขยายผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าที่ซื้อขายประจำมากกว่ารวมถึงบริษัทที่อยู่ระหว่างนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยประมาณ 2-3 ราย
นอกจากนี้ปี 2552 บล.บัวหลวง ตั้งเป้ารายได้ธุรกิจวาณิชธกิจเพิ่มขึ้นเป็น 120 ล้านบาท จากเดิมในปี 51 ที่ 90 ล้านบาท โดยจะเน้นการเป็นที่ปรึกษาการควบรวมกิจการ ส่วนเป้าหมายมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การจัดการกองทุนในปีนี้น่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 14,000 ล้านบาท เทียบจากปี 2551 ที่อยู่ 11,000 ล้านบาท พร้อมกับเริ่มดำเนินการธุรกิจยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ได้ในไตรมาส 2 ซึ่งเชื่อว่าจะมีศักยภาพดีในอนาคต
นอกจากนี้ บล.บัวหลวง ยังได้เลื่อนตำแหน่งผู้บริหาร 3 ท่าน คือ นายกำธร ศิลาอ่อน และนายวรารัตน์ ชุติมิต จากเดิมเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวาณิชธนกิจ ขึ้นเป็นรองกรรมการผู้จัดการสายงานวาณิชธนกิจ และนางสาวอรนุช วชิรัคศศวกุล เดิมเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานค้าหลักทรัพย์สถาบัน เป็นรองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์สถาบันด้วย
