xs
xsm
sm
md
lg

“ขุนคลัง” ตำหนิ สศค.คำนวณ “จีดีพี” ต้องอัปเดตข้อมูล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ขุนคลัง” ตำหนิ “สศค.” รีบออกข่าวคาดการณ์ตัวเลข “จีดีพี” ปี 52 โตแค่ 0-2% โดยไม่รอนำตัวเลขมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นตัวแปรใหม่ ใส่เข้าไปคำนวณด้วย ส่งผลให้ตัวเลขเศรษฐกิจไม่สะท้อนความเป็นจริง ภาคธุรกิจที่จะเข้ามาลงทุน มองภาพเศรษฐกิจไทยไม่ชัด อาจขาดความเชื่อมั่นได้ ด้านแม่ค้าในกระทรวงกรี๊ดลั่นห้องอาหาร แห่เข้าคิวขอลายเซ็น

วันนี้ (25 ธ.ค.) นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ในปี 2552 จะขยายตัวที่อัตราร้อยละ 0-2 ถือเป็นการตั้งสมมติฐานจากปัจจัยแวดล้อมด้านต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่ไม่ได้นำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่จะประกาศออกมาในช่วงปลายเดือนนี้ เอาไปคำนวณเพื่อให้ได้ตัวเลขที่สะท้อนความเป็นจริงแก่ภาคเศรษฐกิจ

นายกรณ์ ยังมองว่า ตัวเลขจีดีพีในปี 2552 น่าจะขยายตัวได้มากกว่าเป้าหมายดังกล่าว เพราะมีการใส่ปัจจัยเข้าไปในโมเดลเศรษฐกิจ ซึ่งตัวเลขจะเป็นเท่าใดนั้น คงยังประเมินไม่ได้ในขณะนี้ เพราะต้องรอตัวเลขที่จะใช้กำหนดเป็นนโยบายทั้งหมดก่อน พร้อมยอมรับว่าเป็นห่วงปัญหาการขาดดุลแฝด ทั้งการขาดดุลงบประมาณและการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะยอดการส่งออกในเดือนธันวาคม 2551 อาจลดลงต่อเนื่องจากเดือนพฤศจิกายน 2551

รมว.คลัง ยังมองว่า การลดค่าเงินดองของเวียดนามลงร้อยละ 3 อาจกระทบต่อการส่งออกสินค้าที่เป็นประเภทเดียวกับสินค้าของไทย แต่การลดค่าเงินของเวียดนาม คงไม่กระทบต่อค่าเงินบาทของไทยมากนัก ซึ่งทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเป็นผู้ดูแลอัตราแลกเปลี่ยน

ส่วนประเด็นสภาพคล่องในระบบ เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมและประชาชนในชนบท มีสภาพคล่องเงินทุนหมุนเวียนในขณะนี้ อาจต้องให้สถาบันการเงินของรัฐช่วยปล่อยสินเชื่อออกสู่ระบบไปพลางๆ ก่อน เพราะงบกลางปีแสนล้านบาท อาจจะออกสู่ระบบได้ในช่วงต้นปีหน้า เพราะวันนี้ ได้หารือกับผู้บริหารเอสเอ็มอีแบงก์ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) เพื่อหาแนวทางปล่อยสินเชื่อออกสู่ระบบ

นายกรณ์ยอมรับว่า สถาบันการเงินของรัฐได้ปล่อยสินเชื่อออกสู่ระบบมากกว่าค่าเฉลี่ยของระบบ โดยมีสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อสูงกว่าฐานเงินฝากเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่สถาบันการเงินแห่งอื่นจะปล่อยสินเชื่อประมาณร้อยละ 95 ของฐานเงินฝาก ดังนั้นจึงต้องการให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อออกสู่ระบบมากขึ้น เนื่องจากรัฐบาลกำลังหาแหล่งทุนสนับสนุนให้กับสถาบันการเงินมากขึ้นจากการเพิ่มทุนให้แบงก์เหล่านี้ โดยในวันเสาร์-อาทิตย์นี้ จะหารือกับ นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายกอรปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อหาเงินทุนจากแหล่งเงินต่างๆ เพื่อใช้สำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจในปีนี้

สำหรับการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาระหว่างวันที่ 29-30 ธันวาคมนี้ เชื่อมั่นว่าจะดำเนินการได้ เพราะประชาชนกำลังรอฟังการแถลงนโยบายว่าจะมีแนวทางในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างไร เพื่อทุกคนเป็นห่วงประเทศก็ต้องช่วยกันสนับสนุนให้รัฐบาลแถลงนโยบาย

นายบรรยงค์ วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ (บสก.) กล่าวว่า หากรัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยเหลือในทุกส่วน คาดว่าจะทำให้จีดีพีในปี 2552 ขยายตัวได้ร้อยละ 3 แต่ต้องระวังการอัดฉีดเงินออกสู่ระบบในปี 2552 เพื่อช่วยเหลือในภาคต่างๆ มากเกินไป เพราะอาจส่งผลกระทบต่อการใช้เงินในปีต่อไป เพราะปัญหาเศรษฐกิจในรอบนี้ ต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหาอีกหลายปี

หลังประชุมกับหน่วยงานต่างๆ เสร็จสิ้น รมว.คลังได้เดินไปรับประทานอาหารที่ศูนย์อาหารกระทรวงการคลัง จากปกติรัฐมนตรีจะรับประทานบนห้องทำงานหรือนัดกับแขกไปรับประทานอาหารข้างนอกกระทรวง เมื่อนายกรณ์เดินไปถึงศูนย์อาหาร ทำให้มีพ่อค้าแม่ค้าของศูนย์อาหารจำนวนมากพากันเข้าแถวเพื่อขอลายเซ็น จนเจ้าหน้าที่ติดตามถึงกับต้องบอกว่าขออนุญาตไปหารือกับผู้มารอพบอีกหลายคณะ พ่อค้าแม่ค้าจึงปล่อยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
กำลังโหลดความคิดเห็น