เอเจนซี - ว่าที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์(7) ว่าแผนพลิกฟื้นเศรษฐกิจของเขา จะมีการเน้นเรื่องการกำกับดูแลที่เข้มงวดมากขึ้น เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่อุตสาหกรรมการธนาคารของประเทศ
นอกจากนี้โอบามาก็เตือนอีกครั้งหนึ่งว่าวิกฤตเศรษฐกิจของสหรัฐฯกำลังจะย่ำแย่ลงไปอีกหลายเท่าก่อนที่จะดีขึ้น สัญญาณประการหนึ่งนั้นก็คือ จำนวนคนมากกว่าครึ่งล้านที่ต้องตกงานเมื่อเดือนพฤศจิกายนเพียงเดือนเดียว
ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯบอกว่า การดูแลปากท้องของประชาชนอเมริกันนับล้าน ๆที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวรุนแรงครั้งนี้ เป็นงานที่สำคัญที่สุด
โอบามาแสดงความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลได้เดินมาถูกทางแล้วในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ในการออกมาตรการต่าง ๆให้เศรษฐกิจกลับมาเป็นปกติ "เราจะสามารถกลับมารุ่งเรือง และมีความสามารถในการแข่งขันได้เหมือนเดิม ในขณะเดียวกันก็จะว่องไวและแข็งแกร่งมากกว่าเดิม""
โอบามาจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม แต่เขาก็ได้ประกาศโครงร่างแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจของเขาตั้งแต่เมื่อวันเสาร์(6) โดยเฉพาะแผนการสร้างงานใหม่อย่างน้อย 2,500,000 ตำแหน่งาภายในปี 2011 และวางโครงการลงทุนทางด้านโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ปี 1950 เป็นต้นมา
แม้ว่าเขามิได้กล่าวว่าโครงการทั้งหลายนั้นจะต้องใช้เงินเท่าไร แต่ก็บอกว่าน่าจะเป็นจำนวนไม่น้อยและอาจทำให้การขาดดุลงบประมาณของรัฐเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อยก็ในระยะสั้น ในขณะที่บรรดานักวิเคราะห์ก็คาดกันว่าน่าจะต้องใช้เงินไม่น้อยกว่า 500,000 ล้านดอลลาร์
"เราต้องเติมเลือดแก่ผู้ป่วยทั้งหลายเพื่อให้แน่ใจว่าอาการของพวกเขาจะไม่ทรุดลง" โอบามากล่าวในรายการ "มีตเดอะเพรส" ทางเครือข่ายโทรทัศน์เอ็นบีซี "เราไม่ควรกังวลกับการขาดดุลระยะสั้น...เราจะต้องทำให้แน่ใจว่าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นมีเงินมากพอที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้"
เขาชี้ว่าแกนกลางของนโยบายของเขาก็คือกฎเกณฑ์ด้านการเงินที่เข้มงวด ซึ่งจะกระตุ้นให้ธนาคาร บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ และนายหน้าสินเชื่อบ้านมีความรับผิดชอบมากขึ้น และทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะสามารถรับผิดในความเสียหายที่ก่อขึ้นได้
"เราจำเป็นต้องมีระเบียบที่มีความโปร่งใส เปิดกว้างและยุติธรรมในการดูแลภาคการเงินของเรา ซึ่งเป็นภาคที่ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาไม่เคยมีการดูแลที่เหมาะสมเลย"
โอบามาได้แสดงความผิดหวังที่ความพยายามของสหรัฐฯที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจร้ายแรงยังไม่ไปถึงไหน โดยเฉพาะการช่วยเหลือเจ้าของบ้านที่ถูกบังคับยึดบ้านติดจำนองเพราะไม่สามารถจะจ่ายหนี้สินได้ เขายังคงเห็นว่าการชะลอการบังคับยึดบ้านออกไปก่อนชั่วคราว เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ส่วนทางเลือกอื่น ๆก็มีอย่างเช่น กระตุ้นให้ธนาคารเปิดการเจรจากับลูกหนี้สินเชื่อบ้านที่ขาดส่งใหม่ๆ
"การเดินหน้าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ จำเป็นจะต้องมีนโยบายเรื่องการช่วยเหลือเจ้าของบ้านเหล่านี้ด้วย เพราะหากว่าเรามัวแต่แก้ไขปัญหาให้กับวอลล์สตรีทโดยไม่สนใจเมนสตรีท(ประชาชนทั่วไป) ก็เท่ากับว่าเราแก้ไขปัญหาได้แค่ครึ่งเดียว"
โอบามาก็ยังได้แสดงการสนับสนุนต่อการให้ความช่วยเหลือแก่อุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐฯที่กำลังตะเกียกตะกายเอาตัวรอด ที่คาดว่าจะได้รับเงินช่วยเหลือราว 15,000 -17,000 ล้านดอลลาร์จากรัฐสภา แต่เขาก็เน้นด้วยว่าเพื่อแลกกับความช่วยเหลือ บิ๊กทรีแห่งดีทรอยต์จะต้องมีแผนธุรกิจที่มีประสิทธิภาพพอที่จะอยู่รอดไปได้ในระยะยาว
