หุ้นเปิดตลาดเช้าดีดขึ้นเกือบ 5 จุด ขานรับโปรดเกล้าฯ นายกรัฐมนตรีใหม่ นักลงทุนเชื่อมั่น "อภิสิทธ์" แถลงให้ความสำคัญศก. เป็นลำดับแรก โบรกฯ เตือนระวังแรงขายทำกำไรหุ้นพลังงาน และทำให้ตลาดมีโอกาสพักฐาน โดยตอนนี้ ต้องรอประเด็นหนุนใหม่ หากมีข่าวดีการเมืองสดใส เย็นวันนี้ ก็มีโอกาสบวกต่อได้ แนะจับตาแก๊งอันธพาลทาสไข่แม้วป่วนรุนแรง ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศเป็นลบ ทั้งดาวน์โจนส์ และราคาน้ำมัน
ภาวะตลาดหุ้นไทย เช้านี้ (18 ธันวาคม 2551) ดัชนีเปิดตลาดปรับตัวขึ้นแดนบวก โดยเมื่อเวลา 10.06 น. ดัชนีอยู่ที่ระดับ 450.90 จุด เพิ่มขึ้น 4.96 จุด เปลี่ยนแปลง +1.11% มูลค่าการซื้อขาย 1,370.85 ล้านบาท ขานรับโปรดเกล้านายกรัฐมนตรีคนที่ 27 นักลงทุนเชื่อมั่นหลังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดแถลงให้ความสำคัญต่อเศรษฐกิจเป็นลำดับแรก
นักวิเคราะห์ กล่าวถึงแนวโน้มการลงทุนตลาดหุ้นไทยวันนี้ โดยระบุว่า ตลาดมีโอกาสที่จะปรับฐาน เนื่องจากได้ปรับตัวขึ้นมาติดต่อกันหลายวันแล้ว แต่หากมีปัจจัยใหม่เข้ามา ก็มีโอกาสปรับขึ้นได้ โดยเฉพาะประเด็นการเมือง ซึ่งหากฝ่ายรัฐบาลเก่าไม่ใช้กลุ่มอันทพาลก่อเหตุรุนแรง ตลาดหุ้นก็จะปรับขึ้นต่อได้ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศเป็นลบ ดัชนีดาวโจนส์ก็ปรับตัวลง ราคาน้ำมันก็ลงเช่นกัน ส่วนตลาดหุ้นในแถบเอเชียเช้านี้ก็บวกแค่เล็กน้อย
ทั้งนี้ ประเด็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ตลาดได้รับรู้ไปเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้รอดูเพียงโฉมหน้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ เย็นวันนี้ และจังหวะนี้ตลาดกำลังหาปัจจัยใหม่ๆ สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวดัชนีวันนี้คาดแนวรับ 436 จุด แนวต้าน 450 จุด พร้อมแนะขายทำกำไร แล้วรอซื้อกลับบริเวณแนวรับ
ด้านนักวิเคราะห์ บล.ธนชาต เชื่อว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวและมีโอกาสแกว่งตัวลงตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ที่ปรับตัวลดลงจากความกังวลในแผนการใช้เงินช่วยเหลือเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มสูงขึ้น และการรายงานผลประกอบการของบริษัทมอร์แกน สแตนลีย์ ซึ่งเป็นสถาบันการเงินรายใหญ่ ที่ขาดทุนอย่างหนักในไตรมาสที่ 4 ถึง 23,700 ล้านดอลลาร์ ถึงแม้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเกือบอยู่ที่ระดับ 0% แล้วก็ตาม
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ตลาดนิวยอร์ก ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 40.6 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 4 ปี ถึงแม้การประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะมีมติให้ลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยมีผลในวันที่ 1 มกราคม 2552 ตาม ซึ่งน่าจะส่งผลให้หุ้นพลังงานในวันนี้มีแรงเทขายทำกำไรออกมา
ส่วนการเมืองในประเทศเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นหลังนายกรัฐมนตรีคนใหม่เร่งเดินหน้าสร้างความสมานฉันท์ และกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่มีข้อจำกัดในการลงทุนโครงการเมกะโปรเจกต์ ซึ่งอาจทำให้การบริโภคและการลงทุนในประเทศ ฟื้นตัวขึ้นได้ไม่มากนัก ประเมินต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีโดยมีแนวรับที่ 435-440 จุด และแนวต้านที่ 450-460 จุด
ล่าสุด ดัชนีปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 452.84 จุด เพิ่มขึ้น 6.90 จุด เปลี่ยนแปลง +1.55% มูลค่าการซื้อขาย 7,365.74 ล้านบาท
