โบรกฯ เตือนหุ้นเดือน ธ.ค.ยังเสี่ยงสูง แม้พันธมิตรฯ จะประกาศสลายการชุมนุมไปแล้ว โดยมองว่า ปัจจัยทางการเมืองยังไม่เปลี่ยน เพราะพรรคทายาทอสูรแค่เปลี่ยนชื่อ หวั่นเบี่ยงเป้าโจมตี “กระบวนการยุติธรรม-ป้ายสีฝ่ายตรงข้าม” หนักขึ้น
วันนี้ (3 ธ.ค.) นางสาวจิตรา อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไซรัส กล่าวถึงทิศทางตลาดหุ้นไทยในเดือนสุดท้ายของปี 2551 โดยเชื่อว่า นักลงทุนต่างชาติน่าจะเบาการขายหุ้นออกจากตลาดหุ้นไทย เพราะก่อนหน้านี้ ต่างชาติได้ขายออกมาต่อเนื่องตลอดช่วงที่ผ่านมา ทำให้ปัจจัยจากต่างประเทศกดดันน้อยลง
ส่วนประเด็นการเมือง คาดว่า จะยังไม่จบโดยง่าย แม้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินยุบพรรคพลังประชาชน (พปช.) และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ประกาศชัยชนะของประชาชนกึก้อง พร้อมประกาศสลายการชุมนุมไปแล้ว เมื่อวานนี้
“การเมืองไทยเวลานี้ มองว่า เป็นแค่การเว้นวรรคเท่านั้น เพราะรัฐบาลที่จะมีการจัดตั้งขึ้นใหม่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีการเปลี่ยนขั้วไปไหน เพียงแต่เปลี่ยนชื่อจากพรรคพลังประชาชน เป็นพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ซึ่งท่าทีของกลุ่มพันธมิตรฯ ก็น่าจะออกมาชุมนุมต่อต้านเหมือนเดิม จึงต้องรอดูสัปดาห์หน้าต่อไป ซึ่งปัจจัยลบจากการเมืองก็อาจจะกลับมาใหม่อีก”
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.จิตรา กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยยังน่าจะที่ยืนในแดนบวกได้ตลอดทั้งวัน เพราะยังมีปัจจัยหนุนเรื่องการลดดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่เชื่อว่าจะปรับลด 0.5-1.0% แต่ภาคบ่ายวันนี้ อาจจะมีแรง take profit ออกมาบ้าง พร้อมให้แนวต้านที่ 410 จุด และแนวรับที่ 390 จุด
ตลาดหลุดแนว 400 จุด ก็ถือว่าหุ้นมีราคาถูกมาก ซึ่งเมื่อราคาหุ้นลงต่ำก็เลยมีแรงรับเข้ามา แต่หากราคาหุ้นมีการปรับตัวขึ้นไปก็คาดว่าน่าจะมีแรง take profit ออกมา จึงยังต้องระวังการลงทุนด้วย
ทั้งนี้ ดัชนีเปิดตลาดภาคบ่าย ยังคงแกว่งตัวในแดนบวก โดยเมื่อเวลา 15.31 น.ดัชนีอยู่ที่ระดับ 397.10 จุด เพิ่มขึ้น 9.78 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9,796.51 ล้านบาท และพบว่ามีแรงขายทำกำไรออกมาเป็นระยะ ส่งผลให้ดัชนีอยู่ในทิศทางที่อ่อนตัวลง
ล่าสุด ดัชนีหุ้นไทยปิดตาดภาคบ่ายที่ระดับ 392.92 จุด เพิ่มขึ้น 5.60 จุด เปลี่ยนแปลง +1.45% มูลค่าการซื้อขาย 12,955.31ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,354.04 ล้านบาท