โบรกฯ ลุ้นมาตรการต่อลมหายใจตลาดหุ้น ต่างชาติขวัญกระเจิง! บุกประท้วง รบ.หิวเลือด

โบรกฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ มีโอกาสรีบาวน์ช่วงสั้นๆ ขานรับมาตรการ ตลท.หารือ 4 สมาคมฯ แต่ยังมีปัจจัยการเมือง และปัจจัยต่างประเทศที่คอยกดดัน โดยเชื่อว่า การใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมฯ คงไม่จบโดยง่าย เพราะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนของต่างชาติ และทำลายบรรยากาศในการลงทุน ขณะที่หอการค้าต่างชาติฯ เตรียมประท้วงรัฐบาลทายาทอสูร ใช้ความป่าเถื่อนทำร้ายประชาชน พร้อมแสดงจุดยืนนักลงทุนต่างชาติไม่สบายใจ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดตลาดเช้าร่วงหนักกว่า 8-10% ผวาศก.ถดถอยรุนแรง

วันนี้ ( 10 ต.ค.) นางสาวสุภากร สุจิรัตนวิมล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี กล่าวถึงแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ คาดว่า ดัชนีฯจะฟื้นตัวขึ้นได้ต่อจากวันนี้ โดยมีปัจจัยบวกจากกรณีที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จะหารือร่วมกับภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนโดยตรง ทั้งสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน สมาคมนักวิเคราะห์ และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ต่างชาติ เพื่อระดมความเห็นในการหามาตรการดูแลตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเป็นการช่วยสร้างความเชื่อในการลงทุนให้ดีขึ้นได้ อย่างไรก็ดีหากหุ้นปรับขึ้นต่อเนื่องท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจการเมือง อาจมีแรงขายสลับออกมากดดันดัชนีฯ

"เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติ ยังขายสุทธิสูงถึง 2,297.24 ล้านบาท ขณะที่ปัญหาทางการเมืองก็ยังไม่นิ่ง ส่วนการเพิ่มถอนหมายจับ 9 แกนนำพันธมิตรฯ และการปล่อยตัว 2 แกนนำ เป็นจิตวิทยาช่วงสั้น คงต้องรอดูท่าทีที่ชัดเจนของรัฐบาลอีกครั้ง"

โดยวันนี้ หอการค้านานาชาติในประเทศไทย จะเดินทางไปยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เพื่อให้รับทราบถึงความไม่สบายใจของนักธุรกิจต่างประเทศ ที่ประกอบธุรกิจอยู่ในประเทศไทย จากสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้น ซึ่งมีการใช้ความรุนแรงป่าเถื่อน เพื่อสลายการชุมนุมของประชาชน ทำให้ภาพที่ออกมา แสดงถึงความโหดร้ายทารุณ ไร้มนุษยธรรม และน่าวิตกกังวลต่อการเข้าร่วมลงทุนในประเทศไทย

นางสาวสุภากร ระบุว่า ในทางเทคนิค ดัชนีมีสัญญาณรีบาวน์ และมีแนวต้านที่ 515 จุด ส่วนแนวรับ 480 จุด กลยุทธ์การลงทุน แนะนำขาย

นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ น่าจะปรับตัวลดลงตามทิศทางตลาดหุ้นในต่างประเทศ โดยดูจากตลาดหลายแห่งในภูมิภาคที่เปิดมาก็ลงมาถึง 8-10% โดยผลกระทบจากต่างประเทศ ก็ยังเป็นปัจจัยเดิมๆ ที่ยังมีความเสี่ยง ทั้งกังวลภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยอย่างรุนแรง รวมถึงตลาดหุ้นไทยที่ยังได้รับผลกระทบจากปัจจัยด้านการเมือง ขณะนี้ประเมินดัชนีทางเทคนิคว่า จะมีแนวรับในระดับใดได้ยาก เนื่องจากภาวะตลาดหุ้นในช่วงนี้ถือเป็นช่วงตลาดขาลง ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะลงอีกไปถึงในระดับไหน

นางสาวจิตรา อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไซรัส มองว่า หุ้นไทยน่าจะรีบาวน์ได้ต่อ เนื่องจากหลายประเทศประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยแสดงให้เห็นว่าหลายประเทศดังกล่าวให้ความสำคัญเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในภาวะปัจจุบัน โดยเฉพาะความพยายามอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบสภาพคล่องมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามผลประกอบการของธนาคารประเทศสหรัฐฯ ที่จะประกาศในอีก 1-2 สัปดาห์นี้ว่าเป็นเช่นใด ซึ่งหากธนาคารดังกล่าวประสบผลขาดทุนกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ก็จะทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุน และส่งผลจิตวิทยาลงทุนและเป็นการตอกย้ำให้วิกฤตเศรษฐกิจของโลกกลับไปสู่ภาวะถดถอยยิ่งขึ้น

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำขายทำกำไรเมื่อดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น และรอดูสถานการณ์ของวิกฤตการเงินและสถานการณ์บ้านเมืองประกอบการตัดสินใจ โดยประเมินแนวรับอยู่ที่ 495-485 จุด และแนวต้านอยู่ที่ 517-527 จุด

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นเปิดตลาดเช้าปรับตัวรูดลงทันที 41 จุด หรือลดลง 8.21% เมื่อเวลา 9.57น. ปรับตัวลงไปอยู่ที่ระดับ 458.96 จุด และเมื่อเวลา 10.08 น. ดัชนีอยู่ที่ 463.64 จุด ลดลง 36.35 จุด เปลี่ยนแปลง -7.27% มูลค่าซื้อขาย 2,658.23 ล้านบาท

โดยเมื่อเวลา 12.08 น. ดัชนีอยู่ที่ระดับ 460.53 จุด ลดลง 39.46 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8,154.22 ล้านบาท