"แบล็คร็อค" บริษัทจัดการสินทรัพย์รายใหญ่ของสหรัฐฯ เตรียมปรับลดจำนวนพนักงาน 5,500 คน ครั้งแรกนับแต่ก่อตั้งบริษัทมา 20 ปี หลังขาดทุนหนักในตลาดการเงิน นักลงทุนแห่ถอนเม็ดเงินออกจากกองทุนเป็นจำนวนมาก ขณะที่กองทุนขนาดใหญ่ของโลก 3 แห่ง ก็ขาดทุนอย่างหนัก และมีแนวโน้มจะลอยแพพนักงานในเร็วๆ นี้
วันนี้ (18 พ.ย.) บริษัท แบล็คร็อค อิงค์ (BlackRock Inc) ซึ่งเป็นบริษัทจัดการสินทรัพย์รายใหญ่สุดของสหรัฐฯ ประกาศแผนในการลดจำนวนพนักงานจำนวนกว่า 5 พันคน และถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 20 ปีของบริษัท เนื่องจากตลาดการเงินที่ทรุดตัวลง ส่งผลให้อุตสาหกรรมกองทุนรวมตกต่ำลงด้วย
นายบ็อบบี คอลลินส์ โฆษกของแบล็คร็อค ระบุว่า แบล็คร็อคได้ออกแถลงการณ์ดังกล่าวถึงพนักงานในบริษัท 5,500 คน โดยไม่ได้ระบุว่าการลดจำนวนพนักงานจะส่งผลกระทบถึงบุคลากรในตำแหน่งใดบ้าง โดยเนื้อหาบางตอนของแถลงการณ์ กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ทำให้บริษัทจำเป็นต้องใช้วินัยทางการคลัง เราเชื่อมั่นในบริษัทที่เราเข้าไปลงทุนมาก และเราก็เชื่อมั่นในบริษัทของเราเองด้วย
แบล็คร็อค อิงค์ เปิดเผยว่า รายได้ไตรมาส 3 ของบริษัทร่วงลง 15% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 2 ปี เนื่องจากนักลงทุนถอนเม็ดเงินออกจากกองทุนที่อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท ขณะที่มูลค่าสินทรัพย์ของแบล็คร็อคปรับตัวลง 12% แตะระดับ 1.26 ล้านล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ยังรายงานเพิ่มเติมว่า บริษัทจัดการกองทุนรายอื่นๆ รวมถึงฟิเดลิตี้ อินเวสท์เมนท์ ซึ่งเป็นบริษัทกองทุนรวมรายใหญ่สุดของโลก , บริษัท จานัส แคปิตอล กรุ๊ป และบริษัท พัทนัม อินเวสท์เมนท์ กำลังวางแผนที่จะลดพนักงาน 3,500 คน เพื่อรับมือกับภาวะขาดทุน
