ส.ส.สหรัฐฯ-กลุ่มนักลงทุน เรียกร้อง "เฟด" ชี้แจงนำเงินภาษีประชาชนจำนวนกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ ปล่อยกู้ฉุกเฉินอุ้มสถาบันการเงิน พร้อมจี้ "เบอร์นันกี" เปิดเผยเกณฑ์ที่ใช้ตัดสินใจ ด้านวุฒิสมาชิก ยอมรับ มีความไม่ชอบมาพากลและความไม่โปร่งใสในรัฐบาล พร้อมระบุ ปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ทุกวันนี้ เป็นผลพวงมาจากการปิดบังซ่อนเร้นข้อมูลบางอย่าง เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ต้องการเปิดเผยให้สาธารณชนรับรู้
วันนี้ (13 พ.ย.) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ (สภาคองเกรส) จำนวนอย่างน้อย 5 คน พร้อมด้วยประชาชนผู้เสียภาษีและนักลงทุนชาวสหรัฐกว่า 300 คน กำลังเรียกร้องให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชี้แจงรายละเอียดที่เฟดนำเงินจากกองคลังมูลค่าเกือบ 2 ล้านล้านดอลลาร์ เอาไปปล่อยกู้ฉุกเฉินให้กับบริษัทและสถาบันการเงินที่ประสบปัญหา โดยระบุว่าต้องการให้เฟดเปิดเผยเกณฑ์การตัดสินใจที่ปล่อยวงเงินกู้ให้สถาบันการเงินเหล่านี้
วุฒิสมาชิกจอห์น คอร์นิน จากรัฐเท็กซัส กล่าวว่า เราพบความไม่ชอบมาพากลและความไม่โปร่งใสในรัฐบาล และสถาบันการเงินของสหรัฐฯ เพราะบางทีปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ทุกวันนี้ เป็นผลพวงมาจากการปิดบังซ่อนเร้นข้อมูลบางอย่างที่เจ้าหน้าที่ไม่ต้องการเปิดเผยให้สาธารณชนรับรู้
ขณะที่นายจอห์น โบห์เนอร์ สมาชิกสภาคองเกรสสังกัดพรรครีพับลิกัน , นายเจ๊บ เฮนซาร์ลิน ส.ส.สังกัดพรรครีพับลิกัน , นายสก็อต การ์เร็ท ส.ส.จากรัฐนิวเจอร์ซี และนายวอลเตอร์ โจนส์ ส.ส.จากรัฐนอร์ธแคโรไลนา กำลังบีบให้นายเบน เบอร์นันกี ประธานเฟด เปิดเผยรายละเอียดกรณีที่เฟดปล่อยวงเงินกู้ฉุกเฉินให้สถาบันการเงินจำนวนมาก
ทั้งนี้ ในช่วงต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เบอร์นันกี ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐฯ โดยระบุว่า การที่เฟดจัดหาเงินทุนมูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับเจพีมอร์แกนเพื่อนำไปซื้อกิจการแบร์ สเติร์นส์นั้น มีเป้าหมายที่จะปกป้องแบร์ สเติร์นส์ไม่ให้ล้มละลาย และยับยั้งภาวะตื่นตระหนกในตลาดการเงิน
โดนเมื่อวันที่ 15 ก..ค.ที่ผ่านมา เฟดพร้อมด้วยกระทรวงการคลังสหรัฐ ตัดสินใจผ่าทางตันด้วยการประกาศแผนพยุงกิจการบริษัทแฟนนี เม และ เฟรดดี แมค หลังจากทั้ง 2 บริษัทขาดทุนในตลาดปล่อยกู้จำนองจนเป็นเหตุให้ขาดสภาพคล่องอย่างหนัก
หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา เฟดตัดสินใจปล่อยวงเงินกู้ฉุกเฉินให้กับบริษัท อเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) มูลค่า 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยออกแถลงการณ์ว่า "คณะกรรมการเฟดมีมติให้ปล่อยวงเงินกู้ฉุกเฉินมูลค่า 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับ AIG แลกเปลี่ยนกับการที่เฟดเข้าไปถือหุ้น 79.9% ตามกฎหมาย Section 13(3) of the Federal Reserve Act โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยให้ AIG คล่องตัวทางการเงินจนสามารถดำเนินการตามภาระผูกพันเมื่อถึงเวลากำหนด ซึ่งเงินกู้นี้มีเงื่อนไขชำระคืนภายในเวลา 24 เดือน โดยจะคิดอัตราดอกเบี้ยตามมาตรฐาน Libor ประเภทสามเดือนที่ 8.50%
ต่อมาในวันที่ 27 ต.ค.กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศใช้งบประมาณงวดแรกมูลค่า 1.25 แสนล้านดอลลาร์ ให้ความช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์ยักษ์ใหญ่ 9 แห่งของสหรัฐ รวมถึงแบงก์ ออฟ อเมริกา , ซิตี้กรุ๊ป , เจพีมอร์แกน , เวลส์ ฟาร์โก , แคปิตอล วัน ไฟแนนเชียล และซันทรัสต์ แบงก์ส