xs
xsm
sm
md
lg

ITV งวดนี้ขาดทุนเพิ่มเหตุรายได้ต่ำ ชี้ยังไม่สรุปแผนฟื้นอ้างเศรษฐกิจซบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ITV งวดนี้ขาดทุนเพิ่มเพราะรายได้ต่ำ ส่วนการบันทึกสำรองเผื่อค่าสัมปทานส่วนต่างและดอกเบี้ย ต้องทำตามหลักการบัญชี เผยการแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอน ขณะนี้มีคดีความกับ สปน. 2 คดี ชี้ขาดเรื่องค่าปรับผังรายการและดอกเบี้ยสัมปทานต่าง ๆ และชี้ขาดกรณีที่บอกเลิกสัญญา ทำให้บริษัทเสียหายและอยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดธุรกิจใหม่หลายแนว แต่ยังสรุปไม่ได้เพราะเศรษฐกิจซบเซา

นายสมคิด หวังเชิดชูวงศ์ ประธานกรรมการ บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) (ITV ) แจ้งผลงานไตรมาส 3 ปีนี้ว่า บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 110 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนมีผลขาดทุนสุทธิ 105.22 ล้านบาท หรือขาดทุนเพิ่มขึ้น 4.47% เพราะไตรมาสนี้มีรายได้เพียง 9.5 ล้านบาทลดจากปีก่อน เพราะเงินฝากลดลงเนื่องจากคืนเงินกู้ ทำให้รายได้ดอกเบี้ยรับลด ส่วนต้นทุนลดเพราะกลับรายการสำรองขาดทุนจากการหยุดกิจการของกิจการร่วมค้า ซึ่งบันทึกบัญชีเกินกว่าจำนวนขาดทุนจริงไตรมาส 2 ปีนี้

สำหรับ การบันทึกบัญชีสำรองเผื่อค่าสัมปทานส่วนต่างและดอกเบี้ยยังคงบันทึกตามปรกติเพื่อให้เป็นไป ตามหลักการทางบัญชีแต่มิได้ชําระเงิน เพราะภาระดังกล่าวเป็นประเด็นข้อพิพาทที่อยู่ในระหว่างการดำเนินกระบวนพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลาการในสถาบันอนุญาโตตุลาการ ส่วนค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น จากการบันทึกบัญชีขาดทุนจากการตัดจำหน่ายทรัพย์สินของกิจการร่วมค้าซึ่งหยุดประกอบกิจการและอยู่ระหว่างชำระบัญชี

ขณะที่การแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)นั้น อยู่ระหว่างพิจารณาจัดทำแผนดำเนินการเพื่อแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนหลักทรัพย์ฯ เพื่อเสนอขออนุมัติต่อผู้ถือหุ้นตามหลักเกณฑ์และแนวทางที่ ตลท. กำหนด

โดย ณ ปัจจุบัน บริษัทฯ ยังคงมีคดีความกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.) ที่ยังอยู่ในระหว่างการ
เริ่มต้นการพิจารณาตามกระบวนการอนุญาโตตุลาการอยู่ 2 คดีได้แก่กรณีที่ให้คณะอนุญาโตตุลาการมีคำชี้ขาดเรื่องค่าปรับผังรายการ และดอกเบี้ยของค่าสัมปทานส่วนต่าง และกรณีที่สำนักงานปลัดฯ บอกเลิกสัญญา ไม่ชอบด้วยข้อกฎหมายและข้อสัญญาและปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบทำให้บริษัทฯ ได้รับความเสียหายและเรียกร้องให้สปน.ชำระค่าเสียหาย ให้แก่บริษัทฯ โดยหลังจากที่ศาลปกครองสูงสุดได้ จำหน่ายคดีดำที่ 640/2550 ที่สำนักงานปลัดฯ เป็น ผู้ฟ้องเรียกร้องให้บริษัทชำระค่าสัมปทานส่วนต่าง ดอกเบี้ยค่าปรับผังรายการ มูลค่าทรัพย์สินที่ส่งมอบไม่ครบเป็นเงิน 101,865 ล้านบาท นำกลับมาเรียกร้องกับบริษัทฯ ในข้อพิพาทนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาตามกระบวนการอนุญาโตตุลาการ ซึ่งอาจต้องใช้เวลานานและผลของคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการอาจส่งผลกระทบที่เป็นสาระสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจระยะยาวของบริษัทฯ

ทั้งนี้ การจัดทำแผนฟื้นฟูฯ บริษัทฯ จะต้องหาธุรกิจใหม่ที่สร้างผลกำไรสะสมได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2,696 ล้านบาทหรือหาวิธีอื่นใดเพื่อทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท และต้องสามารถทำกำไรจากการดำเนินงานในธุรกิจหลักไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิในงวด หรือ 466 ล้านบาท ในระยะเวลา 1 ปี จึงจะพ้นจากเหตุแห่งการเพิกถอนหลักทรัพย์ฯ ขณะที่ ตลท. ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทราบและพิจารณาความเห็นของผู้สอบบัญชีประกอบกับตัวเลขในงบการเงินและหมายเหตุประกอบงบการเงินอย่างระมัดระวัง และยังคงสั่งห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น