ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ อาจจะต้องแรงเทขายระลอกใหม่ หลัง “ไอเอ็มเอฟ” ออกมาย้ำประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจต้องเจอปัญหาภาวะเศรษฐกิจหดตัว หรือติดลบ 0.3% จากเป้าหมายเดิมขยายตัวได้ถึง 0.5% บวกกับแรงเทขายทำกำไรหากราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น โบรกเกอร์แนะชะลอลงทุน เพื่อรอดูความชัดเจน
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ ยังได้มีหลากหลายปัจจัยลบที่จะเข้ามากระทบต่อดัชนีตลาดหุ้น โดยเฉพาะประเด็นหลักที่นักลงทุนต่างวิตกกังวลคือ เรื่องการของชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากได้รับกระทบจากวิกฤตการเงินที่ลุกลามอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันยังได้รับการยืนยันจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่คาดการณ์เศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ทั้ง สหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น จะหดตัวลงในปีหน้า นับเป็นครั้งแรกที่เศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้เข้าสู่ภาวะถดถอยนับตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยไอเอ็มเอฟ ได้ปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วติดลบ 0.3% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้จะขยายตัว 0.5%
นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ SYRUS กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นสัปดาห์นี้จะยังคงแกว่งตัวจากแรงซื้อสลับกับแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุน โดยนักลงทุนต้องติดตามการประกาศตัวเลขจีดีพีของสหรัฐฯ ดังนั้นนักลงทุนควรชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ต่างๆ โดยมีแนวรับอยู่ที่ 440-450 จุด และต้านอยู่ที่ 470-480 จุด
“สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นน่าจะแกว่งตัวเช่นเดียวกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่สอดคล้องกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ และเอเชีย รวมทั้งแรงเทขายทำกำไร หลังราคาหุ้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาก่อนหน้านี้” นายสมชายกล่าว
นางสาวจิตติมา อังสุวรังษี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ วันนี้ยังคงผันผวนตามตลาดและปัจจัยในต่างประเทศเป็นหลัก ขณะที่ปัญหาการเมืองภายในประเทศดูเหมือนเริ่มจะคลี่คลาย เนื่องอยู่ระหว่างงานไว้อาลัยสมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนากรม หลวงนราธิวาส ราชนครินทร์ แนะนักลงทุนหากรีบาวน์เมื่อใดให้รีบขาย และให้มีแนวที่ 444-457 จุด ส่วนแนวต้านที่ 470-480 จุด
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บล. แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังคงแกว่งตัว ตามดัชนีดาวโจนสหรัฐ โดยนักลงทุนต้องติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่กำลังจะทยอยประกาศมาเป็นจำนวนมาก ขณะที่หุ้นที่น่าลงทุนจะเป็นหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ได้รับผลประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง และประเมินแนวรับอยู่ที่ 445 จุด แนวต้านอยู่ที่ 475 จุด
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ ยังต้องเผชิญกับปัจจัยลบที่นักลงทุนต่างวิตกกังวลกันอยู่ คือเรื่องของภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว จากกรณีที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประกาศว่า เศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจทั้งหลายจะขยายตัวติดลบ 0.3% จากเดิมที่คาดการณ์จะขยายได้ได้ประมาณ 0.5% ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่จะเข้ามามีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยรวม และตลาดหุ้นไทย
“สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยจะอยู่ในช่วงปรับฐาน สอดคล้องกับตลาดหุ้นทั่วโลก แม้ว่าจะไม่ได้รับข่าวร้ายจากไอเอ็มเอฟ เพราะยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ ขณะที่สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้จะมีแรงเทขายกำไรออกมา โดยมองแนวต้านที่ 480-490 จุด แนวรับที่ 442-450 จุด”
สำหรับกลุ่มหลักทรัพย์ที่น่าสนใจลงทุน ได้แก่ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ และอสังหาริมทรัพย์ ส่วนหุ้นที่ควรหลีกเลี่ยง คือ กลุ่มพลังงานจากการที่ราคามีความผันผวนค่อนข้างมาก
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ ยังได้มีหลากหลายปัจจัยลบที่จะเข้ามากระทบต่อดัชนีตลาดหุ้น โดยเฉพาะประเด็นหลักที่นักลงทุนต่างวิตกกังวลคือ เรื่องการของชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากได้รับกระทบจากวิกฤตการเงินที่ลุกลามอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันยังได้รับการยืนยันจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่คาดการณ์เศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ทั้ง สหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น จะหดตัวลงในปีหน้า นับเป็นครั้งแรกที่เศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้เข้าสู่ภาวะถดถอยนับตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยไอเอ็มเอฟ ได้ปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วติดลบ 0.3% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้จะขยายตัว 0.5%
นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ SYRUS กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นสัปดาห์นี้จะยังคงแกว่งตัวจากแรงซื้อสลับกับแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุน โดยนักลงทุนต้องติดตามการประกาศตัวเลขจีดีพีของสหรัฐฯ ดังนั้นนักลงทุนควรชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ต่างๆ โดยมีแนวรับอยู่ที่ 440-450 จุด และต้านอยู่ที่ 470-480 จุด
“สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นน่าจะแกว่งตัวเช่นเดียวกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่สอดคล้องกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ และเอเชีย รวมทั้งแรงเทขายทำกำไร หลังราคาหุ้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาก่อนหน้านี้” นายสมชายกล่าว
นางสาวจิตติมา อังสุวรังษี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ วันนี้ยังคงผันผวนตามตลาดและปัจจัยในต่างประเทศเป็นหลัก ขณะที่ปัญหาการเมืองภายในประเทศดูเหมือนเริ่มจะคลี่คลาย เนื่องอยู่ระหว่างงานไว้อาลัยสมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนากรม หลวงนราธิวาส ราชนครินทร์ แนะนักลงทุนหากรีบาวน์เมื่อใดให้รีบขาย และให้มีแนวที่ 444-457 จุด ส่วนแนวต้านที่ 470-480 จุด
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บล. แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังคงแกว่งตัว ตามดัชนีดาวโจนสหรัฐ โดยนักลงทุนต้องติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่กำลังจะทยอยประกาศมาเป็นจำนวนมาก ขณะที่หุ้นที่น่าลงทุนจะเป็นหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ได้รับผลประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง และประเมินแนวรับอยู่ที่ 445 จุด แนวต้านอยู่ที่ 475 จุด
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ ยังต้องเผชิญกับปัจจัยลบที่นักลงทุนต่างวิตกกังวลกันอยู่ คือเรื่องของภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว จากกรณีที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประกาศว่า เศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจทั้งหลายจะขยายตัวติดลบ 0.3% จากเดิมที่คาดการณ์จะขยายได้ได้ประมาณ 0.5% ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่จะเข้ามามีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยรวม และตลาดหุ้นไทย
“สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยจะอยู่ในช่วงปรับฐาน สอดคล้องกับตลาดหุ้นทั่วโลก แม้ว่าจะไม่ได้รับข่าวร้ายจากไอเอ็มเอฟ เพราะยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ ขณะที่สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้จะมีแรงเทขายกำไรออกมา โดยมองแนวต้านที่ 480-490 จุด แนวรับที่ 442-450 จุด”
สำหรับกลุ่มหลักทรัพย์ที่น่าสนใจลงทุน ได้แก่ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ และอสังหาริมทรัพย์ ส่วนหุ้นที่ควรหลีกเลี่ยง คือ กลุ่มพลังงานจากการที่ราคามีความผันผวนค่อนข้างมาก