ผู้ว่าฯศรีสะเกษแถลงผ่านทีวีไทยว่าเป็นไปไม่ได้ที่ไทยจะทวงเขาพระวิหารคืนได้ ในขณะที่สถานการณ์บริเวณเขาพระวิหารขณะนี้อยู่ในภาวะที่ค่อนข้างตึงเครียด เจ้าหน้าที่ปิดทางขึ้นโดยเอาลวดหนามมากั้นไว้ และไม่อนุญาตให้ผ่านขึ้นไปด้านบนได้ และยังมีป้ายปักไว้ว่า ให้เปิดเสียที เพราะคนทั้ง 2 ประเทศเดือดร้อน
วันนี้(14 ก.ค. 51)คณะกรรมการแห่งชาติกอบกู้และรักษาอธิปไตยของชาติด้วยอธิปไตยของประชาชนชาวไทย (คก.ปท.) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวประท้วงโดยมีแกนนำคือ อ.สมาน ศรีงาม ได้นำรถกระบะมาดัดแปลงติดเครื่องขยายเสียง และเปิดเพลงรักชาติเพื่อปลุกระดมให้ชาวศรีสะเกษออกมาทวงสิทธิอันชอบธรรมในดินแดนของไทยทั่วจังหวัด ซึ่งกลุ่ม คก.ปท. นี้ได้ปักหลักอยู่ ณ อุทยานแห่งชาติผามออีแดงมาร่วมเดือนแล้ว และจะยังคงปักหลักประท้วงอย่างสันติวิธีต่อไป
โดยกลุ่ม คก.ปท. นี้ได้นำจุดยืนที่ยกขึ้นมาอ้างคือ สนธิสัญญาระหว่างสยามกับรัฐบาลฝรั่งเศส ชื่อว่า “อนุสัญญาโตเกียว" ระหว่างประเทศไทยกับญี่ปุ่น ที่ร่างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ในสนธิสัญญานี้ได้ระบุยกดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง เช่น พระตะบอง เสียมเรียบ ให้เป็นของประเทศไทยทั้งหมด
อ.สมานกล่าวอ้างถึงจุดเริ่มต้นของการต่อสู่ครั้งนี้ว่าเกิดขึ้นจากมีโอกาสได้ฟังถ้อยคำแถลงจากผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษผ่านทางสถานีโทรทัศน์ทีวีไทย(ไทยพีบีเอส) เมื่อวันจันทร์ที่ 7 ก.ค.2551 ว่า การที่ไทยจะทวงคืนดินแดนมณฑลบูรพาหรือดินแดนบริเวณเขาพระวิหารคืนนั้นเป็นไปไม่ได้ และผู้ที่มาประท้วงต่อสู้เรื่องเขาพระวิหาร มณฑลบูรพา เมื่อเขาไปแล้วจะทิ้งปัญหาไว้ให้ชาวศรีสะเกษ
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ขณะนี้ (14 ก.ค.51) อ.สมาน เล่าว่า “ตอนนี้เท่าที่สังเกต ทางเขมรมีความเคลื่อนไหวของกำลังทหารซึ่งได้ยกกำลังทหารอาวุธครบมือ รถถัง ปืนใหญ่ มาตรึงกำลังบริเวณชายแดน และวางลวดหนามมา 2-3 วันแล้ว ในขณะที่ฝ่ายไทยก็ได้มีการผลัดเปลี่ยนเวรยามประจำหน่วยบัญชาการบริเวณชายแดนอยู่แล้ว
ในขณะเดียวกัน เอมอร นุตยะสกุล อายุ 57 ปี ชาวกรุงเทพฯ ผู้ร่วมประท้วงกับกลุ่ม คก.ปท. เล่าว่า เมื่อตนได้รู้ข่าวก็รวมตัวกับเพื่อนๆแล้วเดินทางมายังจังหวัดศรีสะเกษในวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา แล้วเดินเท้าจากตัวเมืองศรีสะเกษวันละ 20 กิโลเมตร ขึ้นมาถึงยังผามออีแดงในวันที่ 22 มิ.ย. และปักหลังร่วมกับผู้ประท้วงอื่นๆมาจนถึงปัจจุบัน
เอมอร ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เจอเมื่อวันแรกที่ขึ้นมาถึงผามออีแดงว่า “วันแรกที่ขึ้นมาถึง ชาวบ้านที่ค้าขายบริเวณผามออีแดงได้ชี้หน้าด่าว่าเราทำให้นักท่องเที่ยวไม่มาเที่ยว ขายของไม่ได้ เราก็พยายามอธิบายให้เขาเข้าใจว่าที่เราทำเพราะเรารักชาติ ประกอบกับที่ชาวบ้านได้ทราบข่าวขององค์กรยูเนสโก ก็ทำให้ชาวบ้านบริเวณนี้เริ่มเข้าใจว่าที่เราทำเพราะเราต้องการจะรักษาดินแดนของไทยเอาไว้”
เอมอร เล่าต่ออีกว่า ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ จะไปนั่งสมาธิบริเวณแนวชายแดนอย่างสันติวิธี พร้อมทั้งให้เหตุผลที่ต้องทำเช่นนี้เพราะตนคิดว่า เขาพระวิหารเป็นของคนไทย ถ้าทางเขมรจะเอาเฉพาะปราสาทไปก็ไม่เป็นไร แต่เราไม่อยากให้ต้องเสียดินแดนเพิ่มไปอีก