อาดามัส ยิ้มล้างขาดทุนสะสมหมดแล้ว ไตรมาสสี่นี้เริ่มเห็นกำไร พร้อมเล็งส่ง "แอปโซลูท อิมแพ็ค" เข้าตลาดหลักทรัพย์กลางเดือนธ.ค.นี้ เผยทั้งปีรายได้แตะ 400 ล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 40% พร้อมตั้งแผนรับมือ เชื่อส่งรายได้ทะลุ 600ล้านบาท
นายกิตติวัฒน์ มโนสุทธิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการเปลี่ยนชื่อบริษัทฯ และดำเนินธุรกิจใหม่ ในสิ้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯยังมีรายได้ขาดทุนสะสมที่ 10-20 ล้านบาท ซึ่งจากแผนการดำเนินธุรกิจใหม่ในปีนี้พบว่า 3 ไตรมาสที่ผ่านมา สามารถล้างรายได้ขาดทุนสะสมหมดแล้ว โดยในช่วงไตรมาสสี่ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป จะเริ่มรับรู้รายได้ในส่วนของกำไรเป็นลำดับต่อไป
โดยแผนการดำเนินธุรกิจที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปีนั้น แบ่งออกเป็น 2 บริษัท ย่อย คือ 1. อาดามาสเวิล์ด ดูแลธุรกิจบันเทิงทางด้านการนำเข้าคอนเสิร์ต จากประเทศเกาหลี ซึ่งปีนี้ตามแผนจะมี 2 คอนเสิร์ต ลดเหลือ 1 คอนเสิร์ต 2.กลุ่มธุรกิจภาพยนตร์ ตามแผนปีนี้จะมีภาพยนตร์เข้าฉาย 2 เรื่อง ลดเหลือ 1 เรื่อง และ3.กลุ่มการจัดการแข่งขันกีฬายูลีก ซึ่งในส่วนของธุรกิจภาพยนตร์นั้น ได้เข้าร่วมลงทุนกับผู้ผลิตภาพยนตร์เรื่องละประมาณ 10 ล้านบาท ในการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในการเข้าโรงฉายในประเทศไทย รวมถึงหาสปอนเซอร์เข้าร่วม ปีนี้ตามแผนจะมีการฉาย 2 เรื่อง แต่ทำได้ 1 เรื่อง คือ "ท้า/ชน" เข้าฉายช่วงปลายเดือนธ.ค.นี้ คาดว่าจะมียอดขายตั๋วกว่า 40 ล้านบาท แบ่งเป็นโรงภาพยนตร์ 50% และอาดามาสเวิล์ด 50% เชื่อว่ารายได้รวมที่จะมาจากภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวคาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท
และ2.กลุ่มแอปโซลูท อิมแพ็ค ดูแลโฆษณาภายในห้างสรรพสินค้า โดยปีนี้ได้ลูกค้าใหม่เพิ่มอย่าง บิ๊กซี จำนวน 54 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งได้เริ่มติดตั้งจอและอุปกรณ์ต่างๆไปบ้างแล้วตั้งแต่ช่วงไตรมาสสามที่ผ่านมา คาดว่าสิ้นปีนี้จะรับรู้รายได้ประมาณ 20 ล้านบาท ส่วนปีหน้าเชื่อว่าจะมีรายได้ 60-70 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้เซ็นสัญญากับทางเครือเซ็นทรัลอีกรายด้วย โดยจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ต้นปีหน้าเป็นต้นไป หรือคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 60 ล้านบาท ทั้งนี้ในส่วนของแอปโซลูท อิมแพ็ค ทางบริษัทฯจะนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ในช่วงกลางเดือนธ.ค.นี้ตามแผนที่วางไว้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ยังมีกลุ่มบริษัทย่อยที่ชื่อ สไมล์ อินเตอร์แอกทีฟ ดูแลธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านอินเตอร์เน็ต และระบบเอสเอ็มเอสด้วย ล่าสุดได้เซ็นสัญญากับทาง อสมท ดูแลระบบเอสเอ็มเอสทั้งเครือ และในระยะอันใกล้นี้ กำลังจะเซ็นสัญญากับทางสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวีอีก 1 ช่อง เพื่อดูแลระบบเอสเอ็มเอสให้ โดยปีนี้คาดว่าสไมล์ฯจะรับรู้รายได้ที่ 40 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้ลิขสิทธ์เกี่ยวกับการแข่งขันกีฬาฟุตบอล เอฟเอคลับ เป็นระยะเวลา 4 ปี นับจากปีหน้าเป็นต้นไปด้วย เชื่อว่าจะส่งผลให้ปีหน้าบริษัทฯ จะมีรายได้โดยรวมถึง 600 ล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะทำได้ 400 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 40% จากเดิมที่วางเป้ารายได้ในปีนี้ที่ 600 ล้านบาท
นายกิตติวัฒน์ กล่าวต่อว่า ในปีหน้ามองว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะเลวร้ายกว่าปีนี้ เชื่อว่าจะส่งผลต่อการใช้เงินของลูกค้าและเอเจนซีโฆษณาอย่างมาก ดังนั้นกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในปีหน้า จะเน้นขายโฆษณาและหาสปอนเซอร์ในแต่ละโปรเจกต์ ก่อนที่จะเข้าไปจัดการทำโปรเจกต์นั้นจริงๆ
นายกิตติวัฒน์ มโนสุทธิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการเปลี่ยนชื่อบริษัทฯ และดำเนินธุรกิจใหม่ ในสิ้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯยังมีรายได้ขาดทุนสะสมที่ 10-20 ล้านบาท ซึ่งจากแผนการดำเนินธุรกิจใหม่ในปีนี้พบว่า 3 ไตรมาสที่ผ่านมา สามารถล้างรายได้ขาดทุนสะสมหมดแล้ว โดยในช่วงไตรมาสสี่ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป จะเริ่มรับรู้รายได้ในส่วนของกำไรเป็นลำดับต่อไป
โดยแผนการดำเนินธุรกิจที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปีนั้น แบ่งออกเป็น 2 บริษัท ย่อย คือ 1. อาดามาสเวิล์ด ดูแลธุรกิจบันเทิงทางด้านการนำเข้าคอนเสิร์ต จากประเทศเกาหลี ซึ่งปีนี้ตามแผนจะมี 2 คอนเสิร์ต ลดเหลือ 1 คอนเสิร์ต 2.กลุ่มธุรกิจภาพยนตร์ ตามแผนปีนี้จะมีภาพยนตร์เข้าฉาย 2 เรื่อง ลดเหลือ 1 เรื่อง และ3.กลุ่มการจัดการแข่งขันกีฬายูลีก ซึ่งในส่วนของธุรกิจภาพยนตร์นั้น ได้เข้าร่วมลงทุนกับผู้ผลิตภาพยนตร์เรื่องละประมาณ 10 ล้านบาท ในการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในการเข้าโรงฉายในประเทศไทย รวมถึงหาสปอนเซอร์เข้าร่วม ปีนี้ตามแผนจะมีการฉาย 2 เรื่อง แต่ทำได้ 1 เรื่อง คือ "ท้า/ชน" เข้าฉายช่วงปลายเดือนธ.ค.นี้ คาดว่าจะมียอดขายตั๋วกว่า 40 ล้านบาท แบ่งเป็นโรงภาพยนตร์ 50% และอาดามาสเวิล์ด 50% เชื่อว่ารายได้รวมที่จะมาจากภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวคาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท
และ2.กลุ่มแอปโซลูท อิมแพ็ค ดูแลโฆษณาภายในห้างสรรพสินค้า โดยปีนี้ได้ลูกค้าใหม่เพิ่มอย่าง บิ๊กซี จำนวน 54 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งได้เริ่มติดตั้งจอและอุปกรณ์ต่างๆไปบ้างแล้วตั้งแต่ช่วงไตรมาสสามที่ผ่านมา คาดว่าสิ้นปีนี้จะรับรู้รายได้ประมาณ 20 ล้านบาท ส่วนปีหน้าเชื่อว่าจะมีรายได้ 60-70 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้เซ็นสัญญากับทางเครือเซ็นทรัลอีกรายด้วย โดยจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ต้นปีหน้าเป็นต้นไป หรือคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 60 ล้านบาท ทั้งนี้ในส่วนของแอปโซลูท อิมแพ็ค ทางบริษัทฯจะนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ในช่วงกลางเดือนธ.ค.นี้ตามแผนที่วางไว้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ยังมีกลุ่มบริษัทย่อยที่ชื่อ สไมล์ อินเตอร์แอกทีฟ ดูแลธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านอินเตอร์เน็ต และระบบเอสเอ็มเอสด้วย ล่าสุดได้เซ็นสัญญากับทาง อสมท ดูแลระบบเอสเอ็มเอสทั้งเครือ และในระยะอันใกล้นี้ กำลังจะเซ็นสัญญากับทางสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวีอีก 1 ช่อง เพื่อดูแลระบบเอสเอ็มเอสให้ โดยปีนี้คาดว่าสไมล์ฯจะรับรู้รายได้ที่ 40 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้ลิขสิทธ์เกี่ยวกับการแข่งขันกีฬาฟุตบอล เอฟเอคลับ เป็นระยะเวลา 4 ปี นับจากปีหน้าเป็นต้นไปด้วย เชื่อว่าจะส่งผลให้ปีหน้าบริษัทฯ จะมีรายได้โดยรวมถึง 600 ล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะทำได้ 400 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 40% จากเดิมที่วางเป้ารายได้ในปีนี้ที่ 600 ล้านบาท
นายกิตติวัฒน์ กล่าวต่อว่า ในปีหน้ามองว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะเลวร้ายกว่าปีนี้ เชื่อว่าจะส่งผลต่อการใช้เงินของลูกค้าและเอเจนซีโฆษณาอย่างมาก ดังนั้นกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในปีหน้า จะเน้นขายโฆษณาและหาสปอนเซอร์ในแต่ละโปรเจกต์ ก่อนที่จะเข้าไปจัดการทำโปรเจกต์นั้นจริงๆ
