อิมแพ็คฯ จีบกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ชวนบิดงาน WTM เข้ามาจัดที่ประเทศไทย “วีระศักดิ์”สนใจ เรียกขอรายละเอียดเพิ่ม แต่ย้ำต้องคุ้มค่าการลงทุน ก่อนใช้เวที WTM ที่กรุงลอนดอนสัปดาห์หน้า เปิดการหารือกับผู้จัดงาน ระบุไทยต้องเร่งแสดงศักยภาพ หวั่นอีก 2 ปีหน้า งาน CITM ของ จีน จะมีบทบาทมาก
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า คณะผู้บริหารจาก ศูนย์การประชุมนานาชาติ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ได้เข้าหารือ โดยมีแนวคิด ที่จะเชิญชวนรัฐบาลออกไปประมูล(บิด) งานเอ็กซิบิชั่นขนาดใหญ่ในต่างประเทศ เข้ามาจัดที่ประเทศไทย โดยเฉพาะงาน เวิลด์ ทราเวล มาร์ท หรือ WTM ซึ่งเป็นงานเทรดโชว์ด้านการท่องเที่ยวที่ใหญ่ระดับโลก ซึ่งทุกปีจะจัดขึ้นที่ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ทั้งนี้รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ที่เข้าพบและหารือกับนายวีระศักดิ์ คือ นางสาวพรพรรณ บูเนอร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายจัดงานเอ็กซิบิชั่น(ฝ่ายโครงการ) อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยจากการหารือ นายวีระศักดิ์ ได้ให้ทางอิมแพ็คฯ ไปจัดหาข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้จัดงาน WTM ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง หากจะไปบิดงานดังกล่าวมาจัดในประเทศไทย รวมถึงการให้อินเซนทีฟต่างๆ
นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่ประเทศไทยจะมีโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดงานใหญ่ระดับโลก ซึ่งหากภาคเอกชนต้องการให้ภาครัฐสนับสนุนก็ยินดี แต่ทั้งนี้ต้องขอดูในหลักการเงื่อนไข หากงานดังกล่าวเข้ามาจัดที่ประเทศไทย อาจใช้ชื่องานว่า เวิลด์ ทราเวล มาร์ท เอเชีย ก็ได้
“ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าการบิดงานดังกล่าว จะใช้เงินเท่าใด ต้องคำนวณด้วยว่าคุ้มค่าหรือไม่ เมื่อเทียบกับเอาเงินงบประมาณไปพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว แต่ถ้าไม่แพงมากนักก็น่าสนใจ ซึ่งหากบิดได้ก็คงได้จัดในอีก 2-3 ปีข้างหน้า โดยงบประมาณที่จะใช้บิด กระทรวงจะทำเรื่องของบพิเศษจากกระทรวงการคลัง เพราะเคยเสนอมาแล้วว่าพร้อมอัดฉีดเงิน 6 หมื่นล้าน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยเหลือ เอสเอ็มอี “
ทั้งนี้ เงินที่จะใช้ในการบิด รัฐและเอกชน จะช่วยกันออก ขณะที่การจัดงาน รัฐบาลจะดูแลการจัดอีเว้นท์ ส่วนอิมแพ็คก็ดูแลเรื่องสถานที่ สิ่งที่ประเทศไทยจะได้รับคือ การกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวของผู้ที่เข้ามาร่วมงาน การแสดงศักยภาพด้าน ท่องเที่ยว การจัดประชุมและงานเอ็กซิบิชั่นขนาดใหญ่
อย่างไรก็ตามในการเข้าร่วมงาน WTM ที่กรุงลอนดอน สัปดาห์หน้า ทางรัฐบาลไทย และ ผู้บริหารอิมแพ็คฯ จะถือโอกาสนี้ เข้าหารือกับบริษัทผู้จัดงานเพื่อขอทราบรายละเอียดเบื้องต้น
“เชื่อว่าในอีก 1-2 ปีข้างหน้า งาน China International Travel Mart (CITM) ของประเทศจีน จะถูกยอมรับจากทั่วโลกมากขึ้น ดังนั้นประเทศไทยก็ต้องเตรียมตัว เพื่อแสดงศักยภาพให้นานาชาติเห็นเช่นกัน แรกๆ อาจใช้วิธีบิดงานที่คนทั่วโลกรู้จักแล้ว เข้ามาจัดในประเทศไทย ไปพร้อมกับการเรียนรู้ เพื่อในอนาคต จะได้มีงานขนาดใหญ่เป็นแบรนด์ของตัวเอง เพราะที่ผ่านมาเราคุ้นเคยกับการเชิญบายเออร์ แต่เซลเลอร์เรายังไม่ค่อยถนัด ซึ่งจะต้องศึกษาไปเรื่อยๆ โดยมาร์ทด้านท่องเที่ยว ที่ไทยจัดอยู่ขณะนี้คืองาน ทีทีเอ็ม และ ทีทีเอ็มพลัส เน้นผู้ขายในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง” นายวีระศักดิ์กล่าว
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า คณะผู้บริหารจาก ศูนย์การประชุมนานาชาติ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ได้เข้าหารือ โดยมีแนวคิด ที่จะเชิญชวนรัฐบาลออกไปประมูล(บิด) งานเอ็กซิบิชั่นขนาดใหญ่ในต่างประเทศ เข้ามาจัดที่ประเทศไทย โดยเฉพาะงาน เวิลด์ ทราเวล มาร์ท หรือ WTM ซึ่งเป็นงานเทรดโชว์ด้านการท่องเที่ยวที่ใหญ่ระดับโลก ซึ่งทุกปีจะจัดขึ้นที่ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ทั้งนี้รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ที่เข้าพบและหารือกับนายวีระศักดิ์ คือ นางสาวพรพรรณ บูเนอร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายจัดงานเอ็กซิบิชั่น(ฝ่ายโครงการ) อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยจากการหารือ นายวีระศักดิ์ ได้ให้ทางอิมแพ็คฯ ไปจัดหาข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้จัดงาน WTM ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง หากจะไปบิดงานดังกล่าวมาจัดในประเทศไทย รวมถึงการให้อินเซนทีฟต่างๆ
นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่ประเทศไทยจะมีโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดงานใหญ่ระดับโลก ซึ่งหากภาคเอกชนต้องการให้ภาครัฐสนับสนุนก็ยินดี แต่ทั้งนี้ต้องขอดูในหลักการเงื่อนไข หากงานดังกล่าวเข้ามาจัดที่ประเทศไทย อาจใช้ชื่องานว่า เวิลด์ ทราเวล มาร์ท เอเชีย ก็ได้
“ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าการบิดงานดังกล่าว จะใช้เงินเท่าใด ต้องคำนวณด้วยว่าคุ้มค่าหรือไม่ เมื่อเทียบกับเอาเงินงบประมาณไปพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว แต่ถ้าไม่แพงมากนักก็น่าสนใจ ซึ่งหากบิดได้ก็คงได้จัดในอีก 2-3 ปีข้างหน้า โดยงบประมาณที่จะใช้บิด กระทรวงจะทำเรื่องของบพิเศษจากกระทรวงการคลัง เพราะเคยเสนอมาแล้วว่าพร้อมอัดฉีดเงิน 6 หมื่นล้าน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยเหลือ เอสเอ็มอี “
ทั้งนี้ เงินที่จะใช้ในการบิด รัฐและเอกชน จะช่วยกันออก ขณะที่การจัดงาน รัฐบาลจะดูแลการจัดอีเว้นท์ ส่วนอิมแพ็คก็ดูแลเรื่องสถานที่ สิ่งที่ประเทศไทยจะได้รับคือ การกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวของผู้ที่เข้ามาร่วมงาน การแสดงศักยภาพด้าน ท่องเที่ยว การจัดประชุมและงานเอ็กซิบิชั่นขนาดใหญ่
อย่างไรก็ตามในการเข้าร่วมงาน WTM ที่กรุงลอนดอน สัปดาห์หน้า ทางรัฐบาลไทย และ ผู้บริหารอิมแพ็คฯ จะถือโอกาสนี้ เข้าหารือกับบริษัทผู้จัดงานเพื่อขอทราบรายละเอียดเบื้องต้น
“เชื่อว่าในอีก 1-2 ปีข้างหน้า งาน China International Travel Mart (CITM) ของประเทศจีน จะถูกยอมรับจากทั่วโลกมากขึ้น ดังนั้นประเทศไทยก็ต้องเตรียมตัว เพื่อแสดงศักยภาพให้นานาชาติเห็นเช่นกัน แรกๆ อาจใช้วิธีบิดงานที่คนทั่วโลกรู้จักแล้ว เข้ามาจัดในประเทศไทย ไปพร้อมกับการเรียนรู้ เพื่อในอนาคต จะได้มีงานขนาดใหญ่เป็นแบรนด์ของตัวเอง เพราะที่ผ่านมาเราคุ้นเคยกับการเชิญบายเออร์ แต่เซลเลอร์เรายังไม่ค่อยถนัด ซึ่งจะต้องศึกษาไปเรื่อยๆ โดยมาร์ทด้านท่องเที่ยว ที่ไทยจัดอยู่ขณะนี้คืองาน ทีทีเอ็ม และ ทีทีเอ็มพลัส เน้นผู้ขายในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง” นายวีระศักดิ์กล่าว