ASTVผู้จัดการรายวัน -ธุรกิจท่องเที่ยวชี้พิษหวัด 2009 กระทบน้อยกว่าพิษการเมือง นักท่องเที่ยวเผ่นไม่เที่ยวไทยยอดหด 60% ส่วนคนไทยงดทัวร์อเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง เลี่ยงพื้นที่ระบาด ด้าน ททท.พร้อมจัดงาน ไทแลนด์ ทราเวล มาร์ท
นางสาวมัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) กล่าวในการเสวนา เรื่อง “ผลกระทบของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ ต่อเศรษฐกิจ สังคมและการท่องเที่ยวไทย” ว่า การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ เอช1 เอ็น 1 หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศโดยภาพรวมเล็กน้อย โดยเฉพาะในส่วนของการที่คนไทยเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ พบว่า ขณะนี้ทัวร์คนไทยที่จะไปเที่ยวประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีการยกเลิกการเดินทางทั้งหมด ส่วนประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และฮ่องกงมีการเลื่อนการเดินทางอย่างไม่มีกำหนด และยังมีการทยอยยกเลิกและเลื่อนการเดินทางอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ธุรกิจการท่องเที่ยวในต่างประเทศสูญเสียนักท่องเที่ยวประมาณ 60%
สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยและนักท่องเที่ยวคนไทยที่นิยมการท่องเที่ยวภายในประเทศหายไป 60% เช่นเดียวกัน ขณะนี้นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นซึ่งเป็นกลุ่มที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นจำนวนมากลดลง เพราะความอ่อนไหวทั้งการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ในญี่ปุ่น และสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย รวมถึงจีนก็ไม่กล้ามาเที่ยวไทยเช่นกัน ซึ่งมองว่าการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ไม่หนักเท่าปัญหาการเมือง
ส่วนมาตรการในการช่วยฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยว อยากให้รัฐบาลประกาศให้ชัดเจนว่าหลังจากที่ประกาศให้การท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติแล้วนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างไรที่เป็นรูปธรรมบ้าง โดยควรวางกรอบการแก้ปัญหาในเวลา 3 เดือนและ 6 เดือน เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลง และควรจะเร่งกู้ภาพลักษณ์ประเทศไทยให้เร็วที่สุด
ด้านดร.ปรเมธี วิมลศิริ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า จากเดือนม.ค.-มี.ค.2552 มีนักท่องเที่ยวของต่างชาติเข้ามาลดลง 15-20% แต่ในช่วง เม.ย. ลดเหลือ 14% ซึ่งผลกระทบเรื่องโรคระบาดนั้นเป็นเพียงผลทางอ้อม อีกทั้งนักท่องเที่ยวจากประเทศเม็กซิโกมีประมาณ 1% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าไทยทั้งปีจำนวน 14 ล้านคน แต่จะกระทบในส่วนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่มีสัดส่วน 9% และสหรัฐอเมริกา 4% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด
“การท่องเที่ยวในปีนี้อยู่ในขาลงจากภาวะเศรษฐกิจของโลก ซึ่งแต่ละปีไทยมีนักท่องเที่ยวประมาณ 14 ล้านคน แต่ถ้านักท่องเที่ยวลดลงประมาณ 1% จะทำให้อัตราการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวประมาณ 0.05 %” ดร.ปรเมธี กล่าว
นายสันติชัย เอื้อจงประสิทธิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดต่างประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. จะจัดงาน Thailand Travel Mart Plus The Greater Mekong Subregion (TTM+ 2009) วันที่ 3 - 7 มิ.ย. 52 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี เป็นเวทีเสนอขายสินค้าและบริการด้านท่องเที่ยวแก่ตลาดต่างประเทศ จัดต่อเนื่องเป็นเป็นครั้งที่ 9 แล้ว โดยเชิญผู้ประกอบธุรกิจด้านท่องเที่ยวในประเทศไทย รวมถึงหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติ และผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศต่าง ๆ ที่เป็นเพื่อนบ้านใกล้คียง 4 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขงในฐานะผู้ขาย (Sellers) ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และ เวียดนาม เข้าร่วมงาน โดยปีนี้มีผู้ตอบรับเข้าร่วมงาน รวมกว่า 400 ราย ในส่วนของผู้ซื้อ (Buyers) มีผู้ตอบรับประมาณ 360 ราย จากทั่วโลก.
นางสาวมัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) กล่าวในการเสวนา เรื่อง “ผลกระทบของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ ต่อเศรษฐกิจ สังคมและการท่องเที่ยวไทย” ว่า การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ เอช1 เอ็น 1 หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศโดยภาพรวมเล็กน้อย โดยเฉพาะในส่วนของการที่คนไทยเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ พบว่า ขณะนี้ทัวร์คนไทยที่จะไปเที่ยวประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีการยกเลิกการเดินทางทั้งหมด ส่วนประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และฮ่องกงมีการเลื่อนการเดินทางอย่างไม่มีกำหนด และยังมีการทยอยยกเลิกและเลื่อนการเดินทางอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ธุรกิจการท่องเที่ยวในต่างประเทศสูญเสียนักท่องเที่ยวประมาณ 60%
สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยและนักท่องเที่ยวคนไทยที่นิยมการท่องเที่ยวภายในประเทศหายไป 60% เช่นเดียวกัน ขณะนี้นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นซึ่งเป็นกลุ่มที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นจำนวนมากลดลง เพราะความอ่อนไหวทั้งการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ในญี่ปุ่น และสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย รวมถึงจีนก็ไม่กล้ามาเที่ยวไทยเช่นกัน ซึ่งมองว่าการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ไม่หนักเท่าปัญหาการเมือง
ส่วนมาตรการในการช่วยฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยว อยากให้รัฐบาลประกาศให้ชัดเจนว่าหลังจากที่ประกาศให้การท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติแล้วนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างไรที่เป็นรูปธรรมบ้าง โดยควรวางกรอบการแก้ปัญหาในเวลา 3 เดือนและ 6 เดือน เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลง และควรจะเร่งกู้ภาพลักษณ์ประเทศไทยให้เร็วที่สุด
ด้านดร.ปรเมธี วิมลศิริ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า จากเดือนม.ค.-มี.ค.2552 มีนักท่องเที่ยวของต่างชาติเข้ามาลดลง 15-20% แต่ในช่วง เม.ย. ลดเหลือ 14% ซึ่งผลกระทบเรื่องโรคระบาดนั้นเป็นเพียงผลทางอ้อม อีกทั้งนักท่องเที่ยวจากประเทศเม็กซิโกมีประมาณ 1% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าไทยทั้งปีจำนวน 14 ล้านคน แต่จะกระทบในส่วนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่มีสัดส่วน 9% และสหรัฐอเมริกา 4% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด
“การท่องเที่ยวในปีนี้อยู่ในขาลงจากภาวะเศรษฐกิจของโลก ซึ่งแต่ละปีไทยมีนักท่องเที่ยวประมาณ 14 ล้านคน แต่ถ้านักท่องเที่ยวลดลงประมาณ 1% จะทำให้อัตราการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวประมาณ 0.05 %” ดร.ปรเมธี กล่าว
นายสันติชัย เอื้อจงประสิทธิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดต่างประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. จะจัดงาน Thailand Travel Mart Plus The Greater Mekong Subregion (TTM+ 2009) วันที่ 3 - 7 มิ.ย. 52 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี เป็นเวทีเสนอขายสินค้าและบริการด้านท่องเที่ยวแก่ตลาดต่างประเทศ จัดต่อเนื่องเป็นเป็นครั้งที่ 9 แล้ว โดยเชิญผู้ประกอบธุรกิจด้านท่องเที่ยวในประเทศไทย รวมถึงหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติ และผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศต่าง ๆ ที่เป็นเพื่อนบ้านใกล้คียง 4 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขงในฐานะผู้ขาย (Sellers) ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และ เวียดนาม เข้าร่วมงาน โดยปีนี้มีผู้ตอบรับเข้าร่วมงาน รวมกว่า 400 ราย ในส่วนของผู้ซื้อ (Buyers) มีผู้ตอบรับประมาณ 360 ราย จากทั่วโลก.
