รายงานออสเตรเลีย ไต้หวัน เตือน นักท่องเที่ยวเลี่ยงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ททท.ยันยังไม่มีผลกระทบ วัดจากตัวเลขนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านด่านสุวรรณภูมิ ม.ค. โต 11.62% คุย 3 ก.พ.ยอดต่างชาติโตสูงสุด 34.57% ด้านอีลิทการ์ดเห็นชอบ 3 แนวทางเลือก พร้อมตั้ง “สรรเสริญ” นั่งกรรมการแทน “เพ็ญสุดา”
นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) ททท.ได้รับรายงานว่า ผลจากปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุด มีรัฐบาลประเทศที่ประกาศเตือนนักท่องเที่ยวในระดับ 3 โดยให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่บริเวณชายแดนไทยที่มีปัญหาดังกล่าว ได้แก่ ประเทศออสเตรเลีย ไต้หวัน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ยังมั่นใจว่า จะไม่กระทบต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวลุ่มแม่น้ำโขง ในเส้นทางอีสานใต้ จ.ศรีสระเกษ และยังเดินหน้างจัดกิจกรรมส่งเสริมต่อไป ขณะที่ปัญหาการชุมนุมทางการเมืองในกรุงเทพฯ เป็นผลให้รัฐบาลต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีกครั้งนั้น ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีประเทศใดประกาศเตือนนักท่องเที่ยว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเมื่อเทียบกับเหตุความวุ่นวายในประเทศอื่นๆ ไทยนับว่ายังน้อยมาก
จากข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยที่ด่านสนามบินสุวรรณภูมิ ปรากฏว่า เดือน ม.ค.54 มีจำนวน 1,792,089 คน เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11.62% และช่วงวันที่ 1-22 ก.พ.54 มีจำนวน รวม 945,168 คน เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.22% โดยรายงานยังระบุว่า ในวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่า มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางผ่านด่านสุวรรณภูมิถึง 50,775 คน เพิ่มจากวันเดียวกันในปีก่อน 34.57% สูงสุด ในรอบปี
นายสุรพล กล่าวอีกว่า ที่ประชุมบอร์ด ททท.เห็นชอบ กรอบแนวทางการแก้ปัญหา บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (ทีพีซี) ผู้บริหารโครงการบัตรอีลิทการ์ด รวม 3 แนวทาง คือ ขายกิจการให้เอกชน, กรณีไม่มีผู้สนใจซื้อให้ ททท.รับโอนสมาชิกมาบริหารหลังปิดบริษัท และ การยกเลิกกิจการ โดย แต่ละแนวทาง ททท. จะมีแผนรองรับทุกกรณี นอกจากนั้นยังเห็นชอบ แต่งตั้ง นายสรรเสริญ เงารังษี รองผู้ว่าด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ เข้าเป็นกรรมการในบอร์ด ทีพีซี แทน น.ส.เพ็ญสุดา ไพรอร่าม รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งยื่นใบลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว อย่างไรก็ตาม บอร์ดยังได้สั่งการให้ฝ่ายกฎหมาย ททท.ตีความกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรณีที่ผู้บริหารของ ททท.จะสามารถไปนั่งตำแหน่งบริหารในที่อื่นได้อีกหรือไม่ หรือทำได้เพียงเป็นกรรมการ และที่ปรึกษาเท่านั้น คาดแล้วเสร็จใน 1 สัปดาห์
นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) ททท.ได้รับรายงานว่า ผลจากปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุด มีรัฐบาลประเทศที่ประกาศเตือนนักท่องเที่ยวในระดับ 3 โดยให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่บริเวณชายแดนไทยที่มีปัญหาดังกล่าว ได้แก่ ประเทศออสเตรเลีย ไต้หวัน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ยังมั่นใจว่า จะไม่กระทบต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวลุ่มแม่น้ำโขง ในเส้นทางอีสานใต้ จ.ศรีสระเกษ และยังเดินหน้างจัดกิจกรรมส่งเสริมต่อไป ขณะที่ปัญหาการชุมนุมทางการเมืองในกรุงเทพฯ เป็นผลให้รัฐบาลต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีกครั้งนั้น ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีประเทศใดประกาศเตือนนักท่องเที่ยว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเมื่อเทียบกับเหตุความวุ่นวายในประเทศอื่นๆ ไทยนับว่ายังน้อยมาก
จากข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยที่ด่านสนามบินสุวรรณภูมิ ปรากฏว่า เดือน ม.ค.54 มีจำนวน 1,792,089 คน เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11.62% และช่วงวันที่ 1-22 ก.พ.54 มีจำนวน รวม 945,168 คน เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.22% โดยรายงานยังระบุว่า ในวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่า มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางผ่านด่านสุวรรณภูมิถึง 50,775 คน เพิ่มจากวันเดียวกันในปีก่อน 34.57% สูงสุด ในรอบปี
นายสุรพล กล่าวอีกว่า ที่ประชุมบอร์ด ททท.เห็นชอบ กรอบแนวทางการแก้ปัญหา บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (ทีพีซี) ผู้บริหารโครงการบัตรอีลิทการ์ด รวม 3 แนวทาง คือ ขายกิจการให้เอกชน, กรณีไม่มีผู้สนใจซื้อให้ ททท.รับโอนสมาชิกมาบริหารหลังปิดบริษัท และ การยกเลิกกิจการ โดย แต่ละแนวทาง ททท. จะมีแผนรองรับทุกกรณี นอกจากนั้นยังเห็นชอบ แต่งตั้ง นายสรรเสริญ เงารังษี รองผู้ว่าด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ เข้าเป็นกรรมการในบอร์ด ทีพีซี แทน น.ส.เพ็ญสุดา ไพรอร่าม รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งยื่นใบลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว อย่างไรก็ตาม บอร์ดยังได้สั่งการให้ฝ่ายกฎหมาย ททท.ตีความกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรณีที่ผู้บริหารของ ททท.จะสามารถไปนั่งตำแหน่งบริหารในที่อื่นได้อีกหรือไม่ หรือทำได้เพียงเป็นกรรมการ และที่ปรึกษาเท่านั้น คาดแล้วเสร็จใน 1 สัปดาห์
