xs
xsm
sm
md
lg

พลัสฯคืนเงินกู้ก้อนโต2,700ล้าน ผลบวกเร่งยอดโอนโครงการ-กดD/Eต่ำลง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พลัสฯเครือแสนสิริฯโชว์ศักยภาพทางการเงิน ชำระคืนเงินกู้ธนาคารกว่า 2,700 ล้านบาท หลังสามารถทำยอดโอนโครงการได้สูง 6,500 ล้านบาทในปีนี้ ส่งผลบวกทางเครดิตในการกู้เงินพัฒนาโครงการต่อ หลังD/Eต่ำกว่าเพดานที่ธนาคารพาณิชย์กำหนด ปี 52 ลุยปั๊มโครงการทาวน์เฮาส์ รับกับกำลังซื้อของลูกค้า ชูระบบก่อสร้างจากไมวาน หมุนรอบยอดขาย

ในสถานการณ์ที่ภาคสถาบันการเงินของไทยใช้นโยบายความเข้มงวดในการดูแลพอร์ตสินเชื่อ เพื่อป้องกันความเสี่ยงอันอาจจะเกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) กระทบต่อเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง(BIS)ของแต่ละธนาคาร และมีผลต่อเนื่องถึงการปล่อยสินเชื่อที่มีข้อจำกัดตามเกณฑ์ของBIS ดังนั้นการเฟ้นหาลูกค้าที่ดี การลดปริมาณวงเงินสินเชื่อ จะช่วยลดแรงกดดันได้ระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางปัญหาทางด้านการปล่อยสินเชื่อนั้น ก็ยังมีช่องในการเพิ่ม"เครดิต"ทางการเงินได้

นายเมธา จันทร์แจ่มจรัส ประธานอำนวยการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในเครือแสนสิริฯ เปิดเผยว่า จากปัจจัยต่างๆ ที่กระทบต่อภาวะตลาดและทิศทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยเฉพาะในส่วนของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทำให้หลายคนเริ่มกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องการก่อสร้างโครงการและการส่งมอบที่ล่าช้า และการขายโครงการใหม่ที่ชะลอตัวลง แต่จากความสำเร็จด้านการขายโครงการของบริษัทฯ ในเครือช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมานั้น ถือเป็นความสำเร็จที่สวนทางกับภาวะตลาดและทิศทางเศรษฐกิจ จากผลงานดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถชำระคืนเงินกู้ธนาคารที่ได้ทำการกู้ยืมเพื่อนำพัฒนาโครงการได้รวมกว่า 2,700 ล้านบาท ซึ่งเร็วกว่าที่ประมาณการไว้ 3-6 เดือน และมีผลประโยชน์ในการลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางตัวเลขกำไรของบริษัทฯ

"ทั้งหมดสามารถเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อโครงการของบริษัทฯ ตลอดจนศักยภาพในการพัฒนาโครงการให้แล้วเสร็จภายในกำหนด

ในปีนี้ เราคาดว่าจะสามารถโอนโครงการได้รวม 6,500 ล้านบาท โดยปัจจุบัน เราได้ทยอยโอนโครงการ ประกอบด้วย โครงการคอนโดฯ 8 โครงการ และ โครงการทาวน์เฮาส์ 4 โครงการ ส่งผลให้ ณ ปัจจุบัน พลัสฯมีสภาพคล่องทางการเงินสูง ฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดยมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E)มาอยู่ประมาณ 1กว่าต่อ 1 เท่า จากเพดานที่ธนาคารกำหนดD/Eไว้ 2.2 ต่อ 1 เท่า ทำให้เรามีความพร้อมทางการเงินที่จะสามารถขยายการลงทุนในโครงการใหม่ๆ ที่มีศักยภาพในปีหน้าได้เป็นอย่างดี ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง "นายเมธากล่าวและว่า

ทั้งนี้ ในปี 2552 พลัสฯได้ตั้งเป้าพัฒนาโครงการรวมมูลค่ากว่า 6,500 ล้านบาท โดยเน้นไปที่โครงการทาวน์เฮาส์เป็นหลัก โดยบริษัทฯ ได้ซื้อที่ดินและพร้อมที่จะพัฒนาโครงการไว้แล้ว ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับการอนุมัติวงเงินกู้จากธนาคารเรียบร้อยแล้วด้วย

ขณะที่ ในกระบวนการก่อสร้าง ทางพลัสฯยังได้เลือกระบบการก่อสร้างที่ให้โครงการสร้างเสร็จในเวลารวดเร็ว สวยงาม แข็งแรง คือระบบ Mascon Formwork ของบริษัท ไมวาน (ประเทศไทย) จำกัด มาใช้ ทำให้สามารถลดระยะเวลาการก่อสร้างได้กว่า 25% จากระบบการก่อสร้างทั่วไป ส่งผลให้ต้นทุนการก่อสร้างลดลงได้เฉลี่ย
10-15% ต่อโครงการ เช่น เดิมการก่อสร้างคอนโดฯ ความสูงไม่เกิน 8 ชั้น (ไม่นับรวมกระบวนการขออนุมัติผลกระทบสิ่งแวดล้อม) จะใช้เวลาก่อสร้าง 12-14 เดือน แต่ระบบของไมวาน เมื่อรวมเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้ว การก่อสร้างยังเร็วขึ้น หรือหากเป็นโครงการทาวน์เฮาส์ ปกติใช้เวลาก่อสร้าง 8 เดือน แต่ระบบไมวานจะสามารถก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน 5 เดือน หรือเร็วขึ้น 20% โดยพลัสฯ ได้นำระบบดังกล่าวมาใช้กับโครงการ ทั้งในส่วนคอนโดฯ-ทาวน์เฮาส์ในปี 52 มากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น